หนุ่มลพบุรีคว้า .38 จ่อยิงเพื่อนดับคาวงเหล้า แล้วยิงหัวตัวเองหนีผิด อาการโคม่า ตำรวจคาดปมหึงหวงหวาดระแวงผู้ตายเข้ามายุ่งเกี่ยวติดพันเมียที่หนีออกจากบ้านไป หลังโพสต์เฟซบุ๊ก “ถ้ารู้ว่าอยู่กับใคร ไม่ต้องมาอธิบายให้เปลืองน้ำลาย”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 13 ม.ค.63 ร.ต.อ.ประสิทธิ์ ก๋าเขียว รอง สว.(สอบสวน) สภ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี รับแจ้งเหตุมีผู้ใช้อาวุธปืนยิงกันในวงเหล้ามีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ เหตุเกิดที่แคร่ไม้เพิงพักริมถนน หน้าบ้านเลขที่ 77 ม.2 ต.ซับตะเคียน อ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.วิโรจน์ ตัดโส ผกก. พ.ต.ท.ชวนินทร์ กิตติชัยวัชร์ รอง ผกก.สส. พ.ต.ต.วชิระ แก้วศรีบุตร สว.สส. ร.ต.อ.พงษ์ศักดิ์ ไชยปลื้ม รอง สว.สส.กำลังชุดสืบสวน สภ.ชัยบาดาล แพทย์เวร รพ.ชัยบาดาล หน่วยกู้ภัยพ้งไล้ลำนารายณ์
ที่เกิดเหตุบนแคร่ไม้ พบศพ นายอนุรักษ์ ว่ามา อายุ 34 ปี บ้านเลขที่ 26/1 ม.2 ต.ซับตะเคียน นอนเสียชีวิตบนแคร่ไม้ ในสภาพถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าที่บริเวณศีรษะด้านซ้ายทะลุขวา เลือดไหลนองลงพื้นดินเสียชีวิตคาที่ ส่วนบนแคร่ไม้พบขวดเหล้า แก้วเหล้า ถ้วยจานใส่อาหารกระจัดกระจาย ห่างจุดเกิดเหตุออกไปประมาณ 300 เมตร ริมถนนข้างทาง พบร่างของ นายวัชรพงษ์ เศรษฐพงษ์ อายุ 37 ปี บ้านเลขที่ 140 ม.2 ต.ซับตะเคียน ถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าที่ด้านหลังศีรษะ นอนหายใจรวยริน จึงรีบนำตัวส่ง รพ.ชัยบาดาล ใกล้กันพบอาวุธปืนพกสั้นลูกโม่ขนาด .38 ตกอยู่บนป่าหญ้า และรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อออนด้า รุ่นเวฟ สีดำ หมายเลขทะเบียน 1กด 9163 ลพบุรี เป็นของผู้บาดเจ็บ สภาพจอดล้มอยู่ จึงจดบันทึกข้อมูลที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐานโดยละเอียด
จากการสอบสวนในเบื้องต้น ทราบว่าก่อนเกิดเหตุ นายอนุรักษ์ ผู้ตายได้ตั้งวงดื่มสุรากับเพื่อนๆ ในหมู่บ้านเดียวกัน 5 คน ต่อมา นายวัชรพงษ์มือปืนผู้ก่อเหตุได้ขับขี่รถจักรยานยนต์เข้ามานั่งดื่มสุราร่วมวงด้วยกัน ต่อจากนั้นไม่นานนายวัชรพงษ์ได้ลุกขึ้นยืนพร้อมชักอาวุธปืนลูกโม่ขนาด .38 จ่อยิงนายอนุรักษ์เข้าที่ศีรษะจนล้มลง ท่ามกลางความตกใจของผู้ที่เห็นเหตุการณ์ จากนั้นจึงได้หันปลายกระบอกปืนไปจ่อยิงที่ศีรษะของตนเองจนได้รับบาดเจ็บเลือดไหลท่วมตัว แล้วจึงไปขึ้นขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีออกไป จนมีผู้ติดตามไปพบร่างนอนหมดสติอาการสาหัสข้างทาง จึงรีบนำตัวส่ง รพ. ขณะนี้ยังอยู่ในห้องไอซียู
...
ส่วนสาเหตุคาดว่าอาจเกิดจากความหึงหวงที่ภรรยาของนายวัชรพงษ์ที่หนีออกจากบ้านไป เพราะทนกับทนความหึงหวงและทำร้ายร่างกายไม่ไหว จนกระทั่งเมื่อวันที่ 6 ม.ค.ที่ผ่านมา นายวัชรพงษ์ มือปืนผู้ก่อเหตุได้โพสต์ภาพภรรยา พร้อมเขียนข้อความระบุว่า “ณ ตอนนี้ไม่ว่ามันผู้ใดที่เอามันไปอยู่ด้วย เอามันมามอบ ก็ถือว่าจบ แบบแมนๆ แต่ถ้าวันใดกูรู้ว่าอยู่กับใคร ไม่ต้องมาอธิบายให้เปลืองน้ำลาย เหม็น แต่กูหวังว่าไม่ใช่คนที่กูคิด” จึงอาจเป็นประเด็นของความหึงหวงและหวาดระแวงว่าภรรยาตัวเองไปติดพันกับนายอนุรักษ์ผู้ตาย จึงตัดสินใจชำระแค้นด้วยการบุกเข้าไปก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงนายอนุรักษ์ จนเสียชีวิต แล้วจึงใช้อาวุธปืนกระบอกเดียวกันยิงตัวเองจนได้รับบาดเจ็บสาหัสเพื่อหนีความผิด ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้สืบสวนสอบสวนหาสาเหตุที่แน่ชัด เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.