"วิระชัย" ประชุมชุดสืบสวน ตามหาคนร้ายยิงรถเก๋ง "บิ๊กโจ๊ก" โดยยังไม่ทราบแรงจูงใจและสาเหตุ จนท.ยังไม่ตัดประเด็นใดๆ ทิ้ง พร้อมนัดเจ้าตัวให้ปากคำพรุ่งนี้ ชี้ เรื่องนี้เป็นการท้าทายศักดิ์ศรีตำรวจ
กรณีเหตุคนร้ายก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงรถเก๋งเล็กซัส อาร์เอ็กซ์ 270 สีขาว ทะเบียน 9 กจ 351 กรุงเทพมหานคร ของ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล หรือบิ๊กโจ๊ก ที่ปรึกษาพิเศษนายกรัฐมนตรี อดีต ผบช.สตม. เหตุเกิดบริเวณข้างร้านสาริกา มาสซาส เพื่อสุขภาพ เลขที่ 37 ซอยสาริกา ถนนสุรวงศ์ แขวงสุริยวงศ์ เขตบางรัก กทม. เหตุเกิดเมื่อขณะพล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ไม่ได้อยู่ภายในรถ ส่วนสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 7 ม.ค.63 ที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล (บก.สส.บช.น.) พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. รรท.ผบ.ตร. เดินทางมาประชุมติดตามความคืบหน้าคดีพร้อมเร่งรัดให้จับกุมคนร้าย มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าประชุมประกอบด้วย พล.ต.ต.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.สมประสงค์ เย็นท้วม รอง ผบช.น. พล.ต.ต.เมธี รักพันธุ์ ผกก.น.6 พล.ต.ต.สันติ ชัยนิรามัย ผบก.สส.บช.น. พร้อม พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบก.สส.บช.น. และพ.ต.อ. ดวงโชติ สุวรรณจรัส ผกก.สน.บางรัก พร้อมชุดสืบสวน บก.สส.บช.น. ตำรวจ กก.สส.บก.6 ฝ่ายสืบสวนสน.บางรัก ใช้เวลาประชุมประมาณ 45 นาที
พล.ต.อ.วิระชัย ออกมาเปิดเผยว่า จากการประชุมร่วมระหว่างชุดสืบสวนนครบาล ตำรวจสืบสวนกองบังคับการตำรวจนครบาล 6 ฝ่ายสืบสวน สน.บางรัก ได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์มาก สันนิษฐานได้ว่าคนร้ายน่าจะรู้จักเส้นทางและทราบกลุ่มเป้าหมายเป็นอย่างดี ทำให้ทราบว่า พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ จะเดินทางมาที่แห่งนี้ด้วยวิธีการใด โดยลักษณะของคนร้ายนั้นยังสามารถใช้อาวุธปืนได้เป็นอย่างดี จึงมองว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุน่าจะมีความเชี่ยวชาญมากพอสมควร แต่จากข้อสันนิษฐานเบื้องต้น เชื่อว่ามีคนร้ายมากกว่าสองรายที่ปรากฏในกล้องวงจรปิด ทั้งนี้ได้มอบหมายให้ชุดสืบสวนไปติดตามแผนประทุษกรรมมาเทียบเคียงว่า เคยมีคนร้ายก่อเหตุลักษณะนี้กับใครที่ไหนมาก่อนหรือไม่
...
พล.ต.อ.วิระชัย กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม จากการสอบถาม พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ทางโทรศัพท์ทราบว่า เจ้าตัวไม่ได้ทำธุรกิจอะไร จึงไม่น่าจะมีความขัดแย้งทางเรื่องผลประโยชน์ และไม่มีประเด็นเรื่องชู้สาว แต่จะเป็นการสร้างสถานการณ์หรือไม่นั้น ตำรวจก็ยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง เนื่องจากยังสอบพยานแวดล้อมที่เกี่ยวข้องไม่เสร็จสิ้น ยังต้องรวบรวมพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และประจักษ์พยานก่อนจะได้ข้อสรุปที่แน่ชัดอีกครั้ง โดยในวันพรุ่งนี้ (8 มกราคม) เวลา 12.30 น. ได้นัด พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ มาสอบปากคำที่ สน.บางรัก เพื่อหาสาเหตุการก่อเหตุครั้งนี้
พล.ต.อ.วิระชัย กล่าวต่ออีกว่า จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดเมื่อเวลา 20.17 น. พบภาพผู้ต้องสงสัยเอาไว้ได้มีลักษณะเป็นชาย 2 คน ขี่และซ้อน จยย.ฮอนด้า คลิก สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ทั้งคู่คลุมผ้าแบบไอ้โม่งสวมทับด้วยหมวกกันน็อกเต็มใบ ใส่ถุงมือ คนขี่ใส่เสื้อคลุมสีครีม กางเกงยีนส์ขายาวสีน้ำเงิน ขณะที่คนซ้อนสวมเสื้อคลุมสีน้ำเงิน กางเกงยีนส์สีน้ำเงิน ขี่รถจยย.เข้ามาสู่ถนนสุรวงศ์ เลี้ยวเข้าซอยสาริกา เมื่อพบรถยนต์ของ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ได้ใช้อาวุธปืนกระหน่ำยิงช่วงประตูด้านซ้าย
อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าเป็นกระสุนขนาดใด และเมื่อคนร้ายก่อเหตุแล้วได้ขับรถย้อนกลับมาทางเดิมเนื่องจากซอยดังกล่าวเป็นซอยตัน ก่อนขับมุ่งหน้าไปทางแยกอังรีดูนังต์ และเลี้ยวซ้ายวิ่งถนนพระราม 4 มุ่งหน้ามาแยกสามย่าน ขณะนี้อยู่ระหว่างติดตามไล่ล่าคนร้าย และกำลังสืบสวนว่ามูลเหตุหรือแรงจูงใจในการก่อเหตุนั้นเกิดมาจากสาเหตุอะไร
กรณีดังกล่าวเป็นเรื่องท้าทายศักดิ์ศรีและความสามารถของตำรวจ ไม่ว่าจะเกิดกับประชาชนหรือผู้ใด แม้จะไม่มีใครบาดเจ็บ หากจับคนร้ายไม่ได้ คนร้ายก็อาจได้ใจ อีกทั้งจุดเกิดเหตุยังเป็นแหล่งชุมชน เป็นแหล่งท่องเที่ยว ซึ่งตนเองมั่นใจในความสามารถของทีมสืบสวนทั้งหมด.