ตำรวจส่งมอบสำนวนคดีแชร์ลูกโซ่ไนซ์ รีวิว ให้กับดีเอสไอ ไปดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย หลังหลอกลวงให้กดไลค์กดแชร์สินค้าบนโซเชียล ทำให้มีผู้เสียหายจำนวนมาก รวม 2,060 ราย ค่าเสียหาย 368 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 23 ธ.ค.62 ที่ห้องประชุม 1 กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ พร้อมด้วย พล.ต.ต.ปรีชา เจริญสหายานนท์ รักษาราชการแทน เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ นายปิยะศิริ วัฒนวรางกูร ผอ.กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ ร่วมแถลงข่าวการส่งมอบสำนวนการสอบสวน จำนวน 95927 หน้า 48 กล่อง คดีแชร์ลูกโซ่ บริษัท เอนเนอร์จี ดีดักชั่น จำกัด หรือแชร์ไนซ์ รีวิว (Nice Review) จากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้กับดีเอสไอ ดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย

พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 10 พ.ย. มีผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ สน.โคกคราม เพื่อดำเนินคดีกับบริษัทดังกล่าว และนายณรงค์ อินลี กรรมการผู้จัดการบริษัท ในความผิด "ร่วมกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน" ก่อน รวบรวมพยานหลักฐาน ขออนุมัติหมายจับที่ 1720/2562 ลงวันที่ 13 พ.ย.62 และติดตามจับกุมนายณรงค์ พร้อม นายหาญ ฮะยีบีลัง ชาว จ.สตูล ผู้ให้การช่วยเหลือผู้ต้องหา มาดำเนินคดีตามกฎหมาย

...


พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ เผยอีกว่า สำหรับพฤติการณ์ของคนร้ายจะมีการประกาศรับจ้างประชาชนให้มาร่วมงานกับบริษัท โดยให้มีหน้าที่กดไลค์กดแชร์สินค้าผ่านช่องทางอินเทอร์เน็ตและสื่อโซเชียลมีเดีย โดยต้องมีการโอนเงินค่าประกันการทำงานตั้งแต่ 1,500 - 20,000 บาท เพื่อประกันค่าจ้างในการทำงานวันละ 20 - 200 บาท และเมื่อโอนเงินให้กับทางบริษัทแล้ว บริษัทจะทำสัญญาจ้าง โดยมี นายณรงค์ เป็นผู้ลงนาม ซึ่งการทำงานในช่วงแรกจะมีการจ่ายเงินค่าจ้างตามปกติ แต่ในช่วงเดือนก.ย.- พ.ย.ที่ผ่านมา ได้มีการงดจ่ายเงินหรือจ่ายเงินล่าช้ากว่ากำหนดทำให้มีผู้เสียหายจำนวนมาก รวม 2,060 ราย ค่าเสียหาย 368 ล้านบาท และเนื่องจากคดีนี้เป็นคดีพิเศษซึ่งอยู่ในอำนาจการสอบสวนของดีเอสไอจึงได้นำสำนวนมาส่งมอบดำเนินการต่อไป

ด้าน พ.ต.อ.ไพสิฐ กล่าวว่า ภายหลังมีการร้องขอให้ดีเอสไอรับคดีดังกล่าวเป็นคดีพิเศษ ซึ่งพิจารณาแล้วเห็นว่าเข้าหลักเกณฑ์ จึงมีคำสั่งให้ดำเนินการสืบสวนสอบสวน กรณีดังกล่าวเป็นคดีพิเศษที่ 161/2562 เพื่อดำเนินการตามพ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 โดยมอบหมายให้กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ เป็นผู้รับผิดชอบ พร้อมกันนี้ได้เชิญ ปปง. มาร่วมหารือเกี่ยวกับแนวทางการดำเนินการกับทรัพย์สินที่ยึดและอายัดได้ เนื่องจากความผิดในเรื่องนี้ เป็นความผิดมูลฐานตามพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542


ส่วน พล.ต.ต.ปรีชา เผยว่า หลังจากมีมติยึดอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดไว้ชั่วคราวมีกำหนดไม่เกิน 90 วัน ตามมาตรา 48 แห่งพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 แล้ว สำนักงาน ปปง. จะส่งเรื่องไปประกาศในราชกิจจานุเบกษาเพื่อให้ผู้เสียหายมายื่นคำร้องพร้อมหลักฐานแสดงรายละเอียดแห่งความเสียหายและจำนวนความเสียหาย ภายใน 30 วันนับแต่วันที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เพื่อให้ประชาชนรับทราบและเตรียมหลักฐานแสดงตัวตนเพื่อเฉลี่ยคืนทรัพย์สินให้ของผู้เสียหาย อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ ปปง. ได้ยึดอายัดทรัพย์ คดีแชร์แม่มณีประมาณ 56 ล้านบาท ส่วนคดีแชร์ Forex 3D กว่า 91 ล้านบาท และคดีแชร์ NICE REVIEW จำนวน 175 ล้านบาท

ขณะที่ นายปิยะศิริ เผยว่า คดีแชร์แม่มณี มีผู้เสียหายเข้าให้ข้อมูลรวม 3,965 ราย และเตรียมส่งสำนวนให้อัยการ ภายในวันที่ 8 ม.ค.63 ส่วนคดีแชร์ Forex 3D สอบปากคำผู้เสียหาย 4,446 ราย และจะขยายเวลาไปถึงวันที่ 31 ม.ค.63 โดยจะส่งสำนวนให้อัยการ ภายในวันที่ 1 เม.ย.63 ต่อไป.