หนุ่มแบ็กโฮมือยิงเสี่ยวังกุ้งย่องเงียบเข้ามอบตัวกับตำรวจสมุทรสาคร แล้ว ด้านจนท.คุมตัวสอบเครียด ก่อนพาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เผยทนแรงกดดันไม่ไหว และคิดถึงครอบครัวไม่อยากให้เดือดร้อน

จากเหตุการณ์ที่ นายบูรภัช พัชรพรนุกูล อายุ 36 ปี ชาวบ้าน ถ.เอกชัย ต.มหาชัย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร คนงานขับรถแบ็กโฮ ผู้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม. ยิงนายนครินทร์ หงษ์โต อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 39 ม.6 ต.พันท้ายนรสิงห์ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร เจ้าของวังกุ้ง เสียชีวิตคารถกระบะสีแดง ยี่ห้ออีซูซุ 4 ประตู หมายเลขทะเบียน ชผ 1508 กรุงเทพมหานคร เหตุเกิดภายในซอยชุมชนพัฒนา 1 หมู่ที่ 6 ตำบลพันท้ายนรสิงห์ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2562

ต่อมาเมื่อเวลาประมาณ 14.30 น. ของวันที่ 19 ธันวาคม 2562 ผู้สื่อข่าวก็ได้รับการประสานจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า นายบูรภัช พัชรพรนุกูล มือปืนรายนี้ได้ย่องเงียบเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วตั้งแต่ในช่วงเช้าที่ผ่านมาเวลาประมาณ 10.30 น. โดยขอเข้ามอบตัวกับ พล.ต.ต.บุญญฤทธิ์ รอดมา ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้หลังจากที่ผู้ต้องหาเข้ามอบตัวแล้วนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ควบคุมตัวไปสอบสวนในห้องลับนานเกือบ 4 ชั่วโมง ก่อนที่จะนำตัวมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพในที่เกิดเหตุ

...


ด้าน พล.ต.ต.บุญญฤทธิ์ รอดมา ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร, พ.ต.อ.วีระ วิจิตรหงษ์ รอง ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร และ พ.ต.อ.สิทธิพงษ์ สังข์แสง ผกก.สภ.โคกขาม นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจประกอบด้วย พ.ต.ท.สมชาย ขอค้า รอง ผกก.สส.สภ.โคกขาม, พ.ต.ท.ทวีป เงินดี รองผกก.สอบสวน สภ.โคกขาม, ร.ต.อ.สุรินทร์ ขุนพิทักษ์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.โคกขาม (พนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบคดี) ตำรวจชุดสืบสวนสภ.โคกขาม, ตำรวจชุดสืบสวนภ.จว.สมุทรสาคร และตำรวจกองปราบปราม นำตัวผู้ต้องหามาชี้จุดเกิดเหตุพร้อมกับจำลองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด

จากการสอบสวนนายบูรภัช พัชรพรนุกูล ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า สาเหตุที่ทำลงไปเพราะบันดาลโทสะเนื่องจากในวันเกิดเหตุขณะที่กำลังใช้รถแบ็กโฮทำงานขุดถนนวางท่อระบายน้ำอยู่นั้น ก็ถูกนายนครินทร์ ที่ขับรถมาจอดด้านหลังบีบแตรใส่เพราะรถแบ็กโฮขวางทางการจราจร แต่ตนไม่ได้ยิน พอตนขยับรถหลีกทางให้รถกระบะขับผ่านไปได้นั้น นายนครินทร์ก็ขับรถมาหยุดเทียบข้างแล้วตะโกนต่อว่าตน ก่อนที่จะขยับรถเดินหน้าไปอีกประมาณ 20 เมตร แล้วก็จอดอีก


ผู้ต้องหา กล่าวต่อว่า จากนั้นทั้งตนและนายนครินทร์ ก็ลงจากรถของแต่ละคนมาพร้อมกัน โดยตนก็เดินไปบอกว่า มีอะไรครับพี่ใจเย็นๆ แต่กลับถูกนายนครินทร์ด่าใส่อย่างเดียวเลย อีกทั้งยังใช้มือผลักหน้าตนอีกด้วย ตนจึงปัดมือผู้ตายออก ทำให้ผู้ตายหันกลับไปหยิบปืนในรถออกมาจ่อตน ซึ่งตนก็ผลักมือของเขาที่ถือปืนออกไปอีก แล้วผู้ตายก็กลับเข้าไปนั่งในรถไขกระจกประตูขึ้น ก่อนที่จะเบิ้ลเครื่องรถยนต์ควันดำโขมง ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันกับที่ตนหันหลังแล้วก็หันกลับมาชักปืนที่พกไว้ที่ข้างเอวขึ้นมายิงใส่ 9 นัด

นายบูรภัช กล่าวอีกว่า หลังก่อเหตุก็ขับรถแบ็กโฮเอาไปจอดตรงแคมป์คนงาน แล้วก็ขับรถยนต์กระบะของตนขับหลบหนีไป จอดทิ้งไว้ที่โรงไม้แห่งหนึ่ง แล้วตนได้หลบหนีไปต่างจังหวัด ก่อนจะข้ามไปยังประเทศเพื่อนบ้านฝั่งกัมพูชา ส่วนที่กลับใจขอเข้ามอบตัวนั้นก็เนื่องจากว่า ทนการถูกกดดันจับกุมตัวจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ไหว และรู้สึกสำนึกผิด คิดถึงครอบครัวไม่อยากให้ทางครอบครัวต้องเดือดร้อนหรือทุกข์ใจอีกด้วย

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวนายบูรภัช พัชรพรนุกูล ผู้ต้องหาไปสอบปากคำเพิ่มอีกที่ สภ.โคกขาม ดำเนินคดีในข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครอง, และพาอาวุธปืน ไปในทางหมู่บ้านทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาต ขณะที่ในส่วนของญาติผู้ต้องหานั้น ก็มีการติดต่อขอประกันตัวนายบูรภัช พัชรพรนุกูล โดยใช้หลักทรัพย์ 500,000 บาท แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้ให้ประกันตัวในชั้นสอบสวน โดยให้ไปดำเนินการขอประกันตัวในชั้นศาลต่อไป.