เศร้า เพื่อนและญาติๆ มาร่วมรดน้ำศพ "น้องกาย" แน่นวัดหลักสี่ เผยเจ้าตัวเป็นคนร่าเริง มีอารมณ์ศิลปินหน่อยๆ พร้อมขอให้วิญญาณไปสู่สุคติ
เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 27 พ.ย.62 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าเหตุสยองขวัญปนปริศนาฆาตกรรม ลูกฆ่าหั่นศพแม่แช่ในตู้เย็น โดยวันนี้ทางญาติฝ่ายพ่อของนายศิระ หรือ กายสมเดช อายุ 20 ปี ได้เดินทางไปติดต่อขอรับศพนายศิระ ที่ภาควิชานิติเวชศาสตร์ โรงพยาบาลศิริราช มาตั้งบำเพ็ญกุศลไว้ที่ศาลาตรีมุขทรงไทย วัดหลักสี่ ถนนวิภาวดี แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ เป็นเวลา 1 คืน ก่อนจะทำการฌาปนกิจศพวันพรุ่งนี้ (28 พ.ย.) ในเวลา 15.00 น.
สำหรับบรรยากาศการสวดอภิธรรมศพคืนนี้ เริ่มขึ้นในเวลา 18.30 น. บรรยากาศเป็นไปด้วยความเศร้าโศก มีบรรดาเพื่อนร่วมสถาบัน และญาติๆ ของนายศิระ หรือ “น้องกาย” มาร่วมรดน้ำศพแสดงความเสียใจเป็นจำนวนมาก
ขณะเพื่อนของน้องกาย เปิดเผยว่า รู้สึกตกใจที่ทราบข่าว ปกติเรียนคลาสเดียวกัน กายเป็นเพื่อนที่ร่าเริง เข้ากับเพื่อนได้ดีกับทุกคน เหมือนลักษณะเด็กวัยรุ่นทั่วไป แต่มีความเป็นอารมณ์ศิลปินหน่อยๆ เพราะเขาเป็นคนชอบเล่นกีตาร์ เขาก็จะมีกลุ่มเพื่อนๆ ผู้ชาย วันนี้มารดน้ำศพ ขอให้กายไปสู่สุคติ
ส่วนประเด็นที่มีคนออกมาบอกว่า กายติดเกมจนกลายเป็นหนี้ เพื่อนของกายคนหนึ่ง เผยว่า เรียนมาด้วยกันกับกาย ตั้งแต่เรียนปี 1 จนตอนนี้ปี 3 ไม่เคยเห็นกายเล่นเกม เพื่อนชวนให้เล่นก็ไม่เคยเล่น บอกไม่ชอบ แต่อาจจะมีบ้างที่กายไปโหลดเกมแบบออฟไลน์มาเล่น ซึ่งไม่ต้องมีการซื้ออุปกรณ์ในเกมเพิ่ม ส่วนมากจะฟังเพลงมากกว่า และเรื่องการพนันไม่มีแน่นอน
ขณะที่เพื่อนสนิทอีกคนบอกว่า ถ้าปกติอยู่กับคนอื่นกายจะเป็นคนนิ่งๆ แต่เวลาอยู่กับเพื่อน จะเป็นคนอารมณ์ดี ชอบร้องเพลง ชอบเต้น เฮฮา สดใสร่าเริง แต่เวลาที่กลับบ้านไปอยู่คนเดียวไม่รู้ว่าเป็นอย่างไร แต่พักหลัง ประมาณเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา กายไม่ค่อยคุยกับใคร และยังพูดตัดพ้อว่าอยากตาย เพื่อนๆ จึงช่วยกันปลอบ และเวลากายโกรธอารมณ์จะขึ้นไวมาก แต่ถ้าห้ามก็จะฟัง ก่อนหน้าก็มีบ่นว่าเบื่อเรื่องที่ทะเลาะกับแม่ ซึ่งก็ไม่ได้เล่าให้ฟังว่าเป็นเรื่องอะไร
...
ขณะที่พ่อน้องกาย เปิดเผยว่า ตนเลี้ยงดูน้องกายตั้งแต่เกิด เพราะแยกทางกับแม่น้องด้วยเหตุผลผู้ใหญ่ เมื่อตัดสินใจว่าจะแยกกันอยู่ ตอนนั้นแม่น้องกายเขายังไม่มีกำลังที่จะเลี้ยงดูน้องกาย น้องกายจึงได้มาอยู่กับตน ซึ่งน้องกายก็เป็นคนเงียบๆ มีอารมณ์ศิลปิน ชอบเล่นดนตรี มีอะไรก็จะคุยกัน ตนไม่เคยตีลูกเลย จนกระทั่งน้องกายอายุ 15 ปี แม่ของเขาเริ่มตั้งตัวได้ เขาก็ขอน้องกายไปเลี้ยง เมื่อตนถามลูกเขาก็อยากไป เพราะน้องกายกับแม่ก็คุยกันตลอด ซึ่งมันเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านระหว่างเด็กเข้าสู่วัยรุ่น น้องกายมีเรื่องอะไรก็จะคุยกับแม่เขามากกว่า หลังจากน้องกายไปอยู่กับแม่ เพราะกลัวว่าจะเป็นการรบกวน ตนได้เจอและพูดคุยกับน้องกายครั้งล่าสุดเมื่อ 2 เดือนที่แล้ว ตอนงานศพย่าน้องกาย ในตอนนั้นตนก็อยากให้น้องกายบวชหน้าไฟ แต่เขาติดสอบ
"ส่วนคดีความนั้น แม้ผมจะไม่เชื่อว่าน้องกายเป็นคนทำ แต่ผมก็ต้องเชื่อในสิ่งที่เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ตามที่หลักฐานมันปรากฏออกมาว่า บนศพของแม่น้องกาย พบแต่ลายนิ้วมือของเขา ในใจผมตอนนี้ก็อยากให้เรื่องมันจบ แม้จะยังเสียใจอยู่ แต่น้องก็ไปดีแล้ว ถ้าเลือกได้ผมก็ไม่อยากให้เรื่องนี้เกิดขึ้น เพราะน้องกายก็เป็นความหวังของผมเป็นลูกชายคนเดียว แล้วเขาก็ยังไม่ได้บวชเลย แต่เขาก็เคยสัญญากับผมว่าจะบวชให้หลังเรียบจบ ก็มาเกิดเรื่องก่อน ถ้าชาติหน้ามีจริงผมก็อยากให้น้องกายมาเกิดเป็นลูกผมอีก แต่ขอให้น้องกายได้มาทำศพผมบ้าง อย่าให้ผมได้มาทำศพลูกอีกเลย มันเจ็บปวด" พ่อน้องกายกล่าวด้วยความเสียใจ