ตำรวจ สภ.ทุ่งใหญ่ คุมตัวพ่อตาเมืองคอน ที่ก่อเหตุยิงลูกเขยดับคาเปลญวนในบ้านก่อนหลบหนีไป มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ พร้อมเข้ากราบขอโทษแม่วัย 88 ปี ก่อนจะนำตัวส่งศาลฝากขังวันพรุ่งนี้ (23 พ.ย.)
จากเหตุ นายณรงค์ ไกรนรา อายุ 44 ปี ชาวบ้าน หมู่ 9 บ้านคลองเพียง ต.บางรูป อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช ใช้ปืนพกสั้นไทยประดิษฐ์จ่อยิงนายศราวุฒิ หรือแต้ ผลหิรัญ อายุ 34 ปี ลูกเขยเสียชีวิตขณะนอนอยู่ในเปลญวนแล้วหลบหนีไป ต่อมาในตอนบ่ายวันที่ 22 พ.ย. พนักงานสอบสวน สภ.ทุ่งใหญ่ รวบรวมพยานหลักฐานไปขอศาลออกหมายจับ และเช้าวันที่ 21 พ.ย. ตำรวจสืบสวนนำหมายศาลเข้าปิดล้อมสวนปาล์มน้ำมันหมู่ 9 ต.บางรูป ล้อมจับนายณรงค์ได้ขณะหลบซ่อนตัวอยู่ในกระท่อมกลางสวนปาล์มเนื้อที่กว่า 30 ไร่ ควบคุมตัวมาสอบสวนให้การรับสารภาพ เมื่อวันที่ 19 พ.ย.ที่ผ่านมา
ความคืบหน้า เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 22 พ.ย.62 ร.ต.อ.อนันต์ พานิชกุล รอง สว.(สอบสวน) สภ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช เบิกตัวนายณรงค์ ไกรนรา ออกจากห้องควบคุมผู้ต้องขัง เพื่อนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพยังจุดต่าง มีกำลังตำรวจชุดสืบสวนทั้งในและนอกเครื่องแบบหลายนายคอยคุมกันอย่างแน่นหนาตลอดเวลาการทำแผน จุดแรกไปที่บ้านเกิดเหตุผู้ต้องหากลับจากรับจ้างทำงานเข้าบ้านเห็น ลูกสาวนั่งร้องไห้อยู่ใกล้กับนายศราวุฒิ สามีที่นอนอยู่ในเปลญวน จึงคิดว่าลูกสาวคงทะเลาะกับนายศราวุฒิ จึงเดินเข้าไปในห้องนอนหยิบปืนที่ซุกไว้ออกมาจ่อยิงไป 1 นัด ก่อนจะเดินออกจากบ้านหลบหนีไปในสวนปาล์มห่างจากบ้านราว 2 กม.นำอาวุธปืนไปแอบซ่อนไว้
...
แต่ก่อนจะนำตัวผู้ต้องหาไปยังจุดที่สอง นายณรงค์ได้ขอเจ้าหน้าที่ขึ้นไปกราบไหว้และกอดนางเขิม ช่างคิด อายุ 88 ปี ผู้เป็นแม่พร้อมกล่าวขอโทษในสิ่งที่ได้ทำลงไป และหากชาติหน้ามีจริงก็ขอเกิดมาเป็นลูกของแม่ตลอดไป จากนั้นตำรวจคุมตัวไปยังจุดที่ 2 ที่นำปืนไปแอบซ่อนในสวนปาล์มน้ำมันพื้นที่หมู่ 9 ต.บางรูป ก่อนจะเดินหลบหนีไปแอบซ่อนตัวในกระท่อมกลางสวนปาล์มน้ำมันเนื้อที่กว่า 30 ไร่ ก่อนจะถูกตำรวจตามจับกุมตัวได้ในที่สุด
ขณะที่ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ มีญาติและชาวบ้านที่ทราบข่าวเพียงไม่กี่คนเดินทางมาดูการทำแผน ซึ่งผู้ต้องหามีอาการเหนื่อยหอบอย่างเห็นได้ชัด มือสั่นตัวสั่นพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ เนื่องจากผู้ต้องหาป่วยด้วยโรคปอด ต้องกินยาตลอดเวลาตามแพทย์สั่ง เจ้าหน้าที่ต้องสั่งให้หยุดพักเหนื่อย และนำน้ำดื่มมาให้ผู้ต้องดื่มกินและล้างหน้าเพื่อให้สดชื่น การทำแผนจนเสร็จสิ้นทุกขั้นตอนในครั้งนี้รวม 4 จุดใช้เวลา 40 นาที ก่อนจะควบคุมตัวกลับมายัง สภ.ทุ่งใหญ่ และส่งตัวเข้าห้องควบคุมผู้ต้องหาต่อไป การทำแผนในครั้งนี้ไม่มีเหตุการณ์รุนแรงแต่อย่างใด และในวันพรุ่งนี้ (23 พ.ย.) ก็จะนำตัวไปขออำนาจศาลฝากขังผัดแรก.