โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 แจงเหตุคนร้ายปะทะ จนท.ขณะเข้าปิดล้อมบ้านคอลอตันหยง จ.ปัตตานี เหตุสืบทราบว่าคนร้ายมาหลบซ่อนได้ดำเนินการจากเบาไปหาหนักแล้ว เร่งตรวจสอบเก็บหลักฐาน คาดเป็นถึงแกนนำปฏิบัติการ
เมื่อวันที่ 22 พ.ย.2562 พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 เปิดเผยว่า กรณีเจ้าหน้าที่ได้สนธิกำลัง 3 ฝ่ายเข้าติดตามบังคับใช้กฎหมายในพื้นที่ บ้านคอลอตันหยง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี และได้ปะทะกับกลุ่มคนร้าย เหตุเกิดเมื่อ ช่วงค่ำ วันที่ 21 พ.ย.นั้น การปฏิบัติในครั้งนี้เป็นผลมาจากการแจ้งข่าวจากแหล่งข่าวภาคประชาชนว่า พบบุคคลต้องสงสัยเข้ามาพักหลบซ่อนในพื้นที่ดังกล่าว จึงได้จัดกำลังร่วม 3 ฝ่ายเข้าตรวจสอบ พร้อมประสานผู้นำ 4 เสาหลัก ให้เข้าร่วมเจรจาโดยใช้มาตรการจากเบาไปหาหนัก แต่คนร้ายได้ใช้อาวุธยิงใส่จนเกิดการปะทะกันขึ้น
โดย พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 / ผอ.รมน.ภาค 4 ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ ปฏิบัติด้วยความระมัดระวัง ไม่ให้เกิดผลกระทบกับบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กและสตรี พร้อมสั่งการทุกหน่วยจัดกำลังจรยุทธ์กระจายทุกพื้นที่ เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงและชุมชนล่อแหลม โดยเจ้าหน้าที่ได้เข้าควบคุมสถานการณ์และบริหารจัดการสถานที่เกิดเหตุ เตรียมรถพยาบาลและเครื่องให้แสงสว่าง พร้อมกันบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องออกจากที่เกิดเหตุ

...
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ทหารพรานหญิงได้เสี่ยงชีวิตเข้าช่วยเหลือเด็กและสตรี นำไปอยู่ในที่ปลอดภัย อย่างไรก็ตาม แม้เจ้าหน้าที่และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องจะใช้ความพยายามในการเจรจาให้คนร้ายยอมมอบตัวนานกว่า 3 ชม.ก็ไม่เป็นผล จากการตรวจสอบล่าสุดพบคนร้ายเสียชีวิตในบ้านพักจำนวน 2 ราย พร้อมตรวจยึดอาวุธปืนพกไม่ทราบชนิดและขนาดจำนวน 2 กระบอก ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมและจัดกำลังควบคุมที่เกิดเหตุเพื่อรวบรวมพยานหลักฐานในวันพรุ่งนี้
ด้าน พ.อ.วัชรกร อ้นเงิน รองโฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า แถลงว่าส่วนกรณีที่เกิดขึ้นนั้น ทางแม่ทัพฯ ได้สั่งการหน่วยเฉพาะกิจในพื้นที่ที่รับผิดชอบ ได้ปฏิบัติตามมาตรการ ได้มีการประสานกับผู้นำในพื้นที่ในการร่วมพูดคุยเจรจา ซึ่งจากการเจรจาคนร้ายได้มีการยิงตอบโต้เจ้าหน้าที่จำนวน 2 ครั้ง จากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้คนร้ายเสียชีวิต 2 ราย โดยเสียชีวิตบริเวณเป็นหลังบ้าน 1 คน และบริเวณบนชั้นลอยของบ้าน 1 คน ซึ่งรายละเอียดเพิ่มเติมกำลังตรวจสอบ สำหรับผู้ที่เสียชีวิตได้ส่งไปตรวจสอบพิสูจน์ที่โรงพยาบาลหนองจิก อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี เพื่อมอบให้กับทางญาติ นำไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป

รองโฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า กล่าวอีกว่า สำหรับผู้ที่ให้การพักพิงผู้ก่อเหตุ มีความผิดเท่ากับผู้ก่อเหตุ และสำหรับในเรื่องนี้ เราได้มีการประชาสัมพันธ์เน้นย้ำไปหลายๆ ครั้งแล้ว ซึ่งคดีต่างๆ ได้เคยปรากฏมาแล้ว จึงขอเน้นย้ำในส่วนนี้ตรงนี้ด้วย
มีรายงานข่าวเพิ่มเติมว่า คนร้ายที่เสียชีวิตทั้ง 2 คน น่าจะเป็นแกนนำระดับปฏิบัติการ เป็นที่ต้องการของเจ้าหน้าที่เป็นอย่างมาก เนื่องจากมีประวัติการก่อเหตุใน จ.ปัตตานี จ.ยะลา และ จ.สงขลา บางส่วน อย่างโชกโชนมาแล้ว ซึ่งจะต้องมีการตรวจพิสูจน์หลักฐานบุคคลอย่างละเอียดอีกครั้ง ซึ่งทางแม่ทัพภาคที่ 4 จะเป็นผู้แถลงด้วยตนเอง.