191 จับคาสนามบินดอนเมือง แก๊งยานรกชาวบุรีรัมย์ ตบตาตำรวจ เอายาไอซ์ยัดใส่ปลากระป๋อง ของกลาง 1 กิโลกรัม 8 แสนบาท เผยหากลอตนี้หลุดไปประเทศญี่ปุ่น จะมีมูลค่าสูงขึ้นถึง 20 เท่า

เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 18 พ.ย.62 ที่ บก.สปพ. พล.ต.ต.พีระพงศ์ วงษ์สมาน รอง ผบช.น.พร้อม พ.ต.อ.สมบูรณ์ เทียนขาว รอง ผบก.สปพ. พ.ต.อ.ประสงค์ อานมณี รอง ผบก.สปพ. พ.ต.อ.ปิยรัช สุภารัตน์ ผกก.สายตรวจ บก.สปพ. และเจ้าหน้าที่งานสายตรวจ 3 กก.สายตรวจ บก.สปพ. ร่วมแถลงผลจับกุม น.ส.ภัทราภรณ์ หรือใหม่ สาวะโชติ อายุ 33 ปี นายมนัญชัย หรือหมอก โชติธนาวิวัฒน์ อายุ 43 ปี พี่ชายของ น.ส.ภัทราภรณ์ และนางมณีพลอยไพลิน หรือนา โชติธนาวัฒน์ อายุ 44 ปี ภรรยานายมนัญชัย ทั้งสามเป็นชาวจ.บุรีรัมย์ พร้อมของกลางเป็นไอซ์บรรจุในถุงพลาสติกใส หุ้มด้วยกระดาษก๊อบปี้น้ำเงิน ซุกซ่อนในกระป๋องปลากระป๋อง รวม 10 กระป๋อง น้ำหนักรวม 1 กิโลกรัม รวมมูลค่าประมาณ 800,000 บาท สามารถจับกุมได้ที่อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ ท่าอากาศยานดอนเมือง เมื่อเวลา 22.00 น. ของวันที่ 16 พ.ย.ที่ผ่านมา

พล.ต.ต.พีระพงศ์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากตำรวจงานสายตรวจ 3 ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีผ่านเพจ “นักสืบพระนคร” ว่ามีหญิงไทยส่งยาเสพติดไปยังประเทศญี่ปุ่น จึงสืบสวนหาเบาะแสจนทราบว่าหญิงคนดังกล่าวคือ น.ส.ภัทราภรณ์ หรือใหม่ จากนั้นได้จัดกำลังตรวจสอบจนพบ น.ส.ภัทราภรณ์ กำลังเดินทางออกจากย่านวุฒากาศ 43 เพื่อไปพบกับนายมนัญชัย หรือหมอก ที่ห้องพักรายวันย่านห้วยขวาง ก่อนเดินทางไปสนามบินดอนเมือง ตำรวจจึงประสานกำลังเฝ้าระวัง จนพบ น.ส.ภัทราภรณ์ นายมนัญชัยและนางมณีพลอยไพริน เข้ามาภายในอาคารผู้โดยสาร จึงแสดงตัวเข้าตรวจค้นกระเป๋าเดินทางของ น.ส.ภัทราภรณ์

...

จากการตรวจค้นพบไอซ์ บรรจุในถุงพลาสติกใส หุ้มด้วยกระดาษก๊อบปี้สีน้ำเงิน เพราะเชื่อว่าจะปิดบังยาเสพติด ซุกซ่อนอยู่ภายในกระป๋องปลากระป๋องรวม 10 กระป๋อง น้ำหนักรวมประมาณ 1 กิโลกรัม จึงจับกุมตัวทั้งหมด ทั้งนี้มูลค่าไอซ์ในประเทศไทย กิโลกรัมละประมาณ 800,000 บาท หากไอซ์ลอตนี้หลุดไปยังประเทศญี่ปุ่นได้จะมีมูลค่าสูงขึ้นกว่า 20 เท่า แต่การพยายามลักลอบส่งออกยาเสพติด มีโทษสูงสุดถึงจำคุกตลอดชีวิต

พล.ต.ต.พีระพงศ์ เปิดเผยว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งสามคนให้การรับสารภาพว่า เตรียมนำยาเสพติดส่งออกไปประเทศญี่ปุ่นจริง ว่าจ้างจากหญิงไทยที่อาศัยอยู่ประเทศดังกล่าว โดยผู้ต้องหามีการแบ่งหน้าที่กันทำ โดยนายมนัญชัยจะไปรับยาเสพติดจากผู้ร่วมขบวนการคนหนึ่ง ก่อนจะนำยาเสพติดมาเก็บไว้ที่ห้องพักรายวันย่านห้วยขวาง แล้วนัดหมายให้ น.ส.ภัทราภรณ์ มารับยาเสพติด จากนั้นเดินทางไปสนามบิน เมื่อ น.ส.ภัทราภรณ์ ขึ้นเครื่องบินแล้ว จะแจ้งให้หญิงไทยที่อาศัยอยู่ต่างประเทศ ซึ่งเป็นผู้ว่าจ้างให้ทราบ เมื่อส่งยาเสพติดได้เรียบร้อยแล้วจะมีการโอนเงินค่าจ้างจำนวน 20,000 บาท เข้าบัญชีของนางมณีพลอยไพรินและนายมนัญชัย ส่วน น.ส.ภัทราภรณ์ ได้ค่าจ้าง 50,000 บาท ทำลักษณะนี้มาแล้ว 2 ครั้งรวมครั้งนี้ โดยครั้งแรกนำยาเสพติดบรรจุในปลากระป๋องไปส่ง จำนวน 5 กระป๋อง และหลุดรอดการจับกุมไปได้

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาทั้งสามคนว่า “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย และพยายามส่งออกซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 เพื่อจำหน่าย” ก่อนขยายผลจับกุมผู้ที่ร่วมขบวนการที่เหลือต่อไป.