แม่หายไปเกือบ 2 ปี ลูกสาวตามหาไปทั่ว ไม่เจอ กลับมาขู่น้องชายจนยอมเปิดปาก บอกเห็นพ่อฆ่าแม่ลากศพฝังดินโคนต้นไม้ แต่ไม่กล้าบอกใคร เพราะพ่อขู่ฆ่า ฝ่ายพ่ออ้าง เมียเป็นลมตาย ไม่อยากจัดงานศพให้สิ้นเปลือง 

เวลา 14.30 น.วันที่ 5 พฤศจิกายน พ.ต.ท.มงคล เพชรนิล สว.(สืบสวน)สภ.หลังสวน จ.ชุมพร นำตัวนายสมบูรณ์ สุขมนตรี อายุ 52 ปี อาชีพรับจ้างตัดปาล์มน้ำมันมายังบริเวณตลาดมรกต 2 ซึ่งอยู่ริมถนนสายเขาเงิน ทางเข้าเขตเทศบาลเมืองหลังสวน หลังจากนางสาวอำพร อำไพ อายุ 24 ปี พร้อมด้วยน้องชาย อายุ 17 ปี ทั้งสองคนเป็นพี่น้องกันแต่ใช้คนละนามสกุล อยู่บ้านเลขที่ 103 หมู่ 13 ตำบลคันธุลี อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี เข้าแจ้งความว่า นายสมบูรณ์ สุขมนตรี อายุ 52 ปี ผู้เป็นพ่อได้ก่อเหตุฆ่าขุดหลุมฝัง นางสาวบุปผา อำไพ อายุ 58 ปี ผู้เป็นแม่ของทั้งสอง เมื่อประมาณ 2 ปีที่ผ่านมา

นายสมบูรณ์ ผู้ต้องหาได้นำชี้จุดที่ตนเองขุดหลุมฝังนางสาวบุปผาภรรยาไว้บริเวณโคนต้นไม้ซึ่งขณะนั้นเป็นสวนผลไม้และปัจจุบันสถานที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม กำลังมีการปรับพื้นที่ก่อสร้างเป็นสำนักงานและห้องน้ำและอาคารร้านค้าเป็นตลาดมรกต 2 จึงทำให้สภาพพื้นที่ และตำแหน่งต่างๆ ไม่เหมือนเดิม หลังจากชี้จุดฝังศพแต่ยังไม่ชัดเจน เจ้าหน้าที่ได้รีบนำตัวนายสมบูรณ์ขึ้นรถยนต์สายตรวจกลับไปควบคุมตัวไว้ที่โรงพักเพื่อความปลอดภัย จากญาติๆ ของนางสาวบุปผาผู้ตาย กลัวจะถูกรุมทำร้าย

นางสาวอำพร ลูกสาว เปิดเผยว่า ตนเองและแฟนหนุ่ม ได้พยายามตามหาแม่มาตลอดเกือบสองปีที่ผ่านมาว่าแม่หายตัวไปไหน ถามพ่อ พ่อก็บอกว่าไปอยู่บ้านญาติคนโน้นบ้างคนนี้บ้าง ส่วนน้องชายซึ่งก่อนหน้านั้นอยู่กับแม่ตลอด แล้วกลับมาอยู่กับตน หลังจากแม่หายตัวไป แต่ก็ไม่ได้เปิดปากบอกอะไรกับตนและญาติพี่น้อง ที่ผ่านมาตนมีความสงสัยอยู่ในใจเกี่ยวกับพฤติกรรมของพ่อตนกับน้องชายมาตลอด จนกระทั่งเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ตนจึงได้พูดจากดดันโดยอ้างกฎหมายต่างๆ ข่มขู่น้องชายตนเองจนยอมปริปากออกมาว่า "แม่ถูกพ่อฆ่าตายแล้วขุดหลุมฝังไว้บริเวณต้นไม้หน้าบ้านพักคนงานภายในสวนปาล์ม" ตนเองถึงกับตกใจไม่คิดว่าพ่อจะทำแบบนั้น แต่ทั้งนี้ ต้องรอทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขุดหาศพแม่ให้พบเสียก่อน เพราะจุดที่ฝั่งศพอาจจะคาดเคลื่อนได้เพราะนานแล้ว เพื่อนำศพมาชันสูตรสาเหตุการตาย

...

ด้านน้องชายของนางสาวอำพร กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้ออกไปเล่นเกมในตลาดหลังสวน กระทั่งช่วงค่ำได้กลับเข้าบ้านพักคนงาน ขณะเดินมาถึงใกล้กับบ้านพัก ได้เจอพ่อกำลังขุดดินเป็นหลุมขนาดใหญ่ลึกพอประมาณอยู่ใต้โคนต้นไม้ และเห็นร่างแม่นอนอยู่บนลานดินสภาพไม่หายใจแล้ว เมื่อพ่อเห็นตนก็ข่มขู่ว่าห้ามนำเรื่องนี้ไปบอกใครเด็ดขาด หากไปบอกใครก็จะฆ่าให้ตายแล้วฝังศพในหลุมเดียวกัน ซึ่งตนเองยอมรับว่ากลัวมาก จึงต้องทนดูพ่อลากศพแม่โยนลงในหลุมแล้วตักดินฝังกลบแม่ไปต่อหน้าต่อตาตนเอง

ต่อมา เวลา 16.00 น. เจ้าหน้าที่ได้นำรถแบ็กโฮมาขุดตามจุดที่นายสมบูรณ์ชี้ยืนยันว่าขุดหลุมฝังศพเมียตัวเอง อยู่ใกล้กับห้องแถวคนงาน เจ้าหน้าที่ต้องคุมพื้นที่อย่างรัดกุมและขุดเป็นวงจำกัดลักษณะรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส เนื่องจาก สภาพพื้นที่เปลี่ยนไปจากเดิมเพราะเจ้าของได้นำพื้นที่มาใช้ประโยชน์ก่อสร้างทำเป็นตลาดแห่งที่ 2 ใช้เวลาขุดนานกว่า 1 ชั่วโมงยังไม่พบศพแต่อย่างใด จึงยุติการขุดและจะนำตัวนายสมบูรณ์มาชี้จุดที่ชัดเจนต่อไป

ขณะที่ พ.ต.ต.มงคล เพชรนิล สว.(สืบสวน) สภ.หลังสวน กล่าวว่าจากการสอบปากคำทั้งฝ่ายนายสมบูรณ์ผู้พ่อกับนางสาวอำพรและนายสมหมาย ลูกสาวและลูกชาย ยังขัดแย้งกันอยู่ แต่ทั้งนี้ เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่เพียงรับแจ้งความบุคคลสูญหายไว้ก่อน ส่วนในทางคดีนั้น ทางเจ้าหน้าที่ก็จะกำหนดพื้นที่เป้าหมายที่ชัดเจนอีกครั้งก่อนเพื่อขุดดินหาศพนางบุปผาขึ้นมา ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการคงรู้ผลเร็วๆ นี้ 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุด พ.ต.ท.มงคล เพชรนิล สารวัตรสืบสวน สภ.หลังสวน ได้ควบคุมตัวนายสมบูรณ์ มาสอบปากคำ เบื้องต้นทางนายสมบูรณ์ ได้สารภาพเป็นผู้ฝังภรรยาจริง โดยอ้างว่าภรรยาเป็นลมตาย ตนไม่อยากให้ใครลำบาก และต้องเดือดร้อนในการจัดพิธีงานศพซึ่งต้องใช้เงินจำนวนมาก จึงได้ขุดหลุมฝังศพภรรยาตนเอง เพื่อตัดปัญหา