ตร.สุราษฎร์ฯ เร่งดูวงจรปิดแกะรอยล่าคนร้าย จี้ชิงเงินมินิมาร์ทในตลาดท่าชนะ เบื้องต้น คาดว่าคนร้ายจะเตรียมการ วางแผนไว้ล่วงหน้า ขณะที่ ตร.เร่งสอบพนักงานในร้าน แต่คาใจปมจัดเก็บเงินเข้าเซฟ


จากกรณีมีเหตุคนร้ายสวมไอ้โม่ง บุกเดี่ยวใช้อาวุธปืนจี้ชิงเงินของร้านสะดวกซื้อ สาขาอำเภอท่าชนะ จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยคนร้ายใช้จังหวะพนักงานเปลี่ยนกะ แล้วนับเงินเตรียมเข้าตู้เซฟ ใช้เวลาลงมือไม่ถึง 1 นาที ได้เงินสดไปร่วม 4 แสนบาท แล้วหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว

ความคืบหน้า เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 3 พฤศจิกายน พล.ต.ต.อภิชาติ บุญศรีโรจน์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 พร้อมด้วย พ.ต.อ.วิรุฬห์ สุวรรณวงศ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้เดินทางไปร่วมประชุมกับ พ.ต.อทักษิณ ศิริโภคพัฒน์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรท่าชนะ และชุดสืบสวนภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี ชุดสืบสวน สภ.ท่าชนะ เพื่อคลี่คลายคดีหลังตรวจที่เกิดเหตุ และตรวจสอบกล้องวงจรปิด รวมถึงการสอบสวนปากคำ พนักงานประจำสาขา จำนวน 6 คนที่อยู่ในที่เกิดเหตุ


จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดของร้านสะดวกซื้อ พบว่าคนร้ายรูปร่างหนา สูงประมาณ 160-165 ซม. สวมเสื้อแจ็กเกตแบบมีฮู้ดสีขาว สวมแว่นตาสีชา นุ่งกางเกงขายาวแบบสแลค ใส่รองเท้าหนังสีดำ สะพายกระเป๋า สีฟ้า สายสีดำ เดินเข้ามาเพียงลำพัง และ ไม่ปรากฏบุคคลต้องสงสัยอื่นๆ โดยกล้องวงจรปิด แสดงให้เห็นว่า เมื่อคนร้ายเดินเข้ามาทางประตูด้านหน้าร้าน ก็พุ่งตรงเข้ามาที่เคาน์เตอร์เก็บเงิน ซึ่งเป็นจุดวางตู้เซฟทันที และตรงเข้าไปหยิบถุงเงินที่วางอยู่ในตู้เซฟ วิ่งกลับออกไปทันที ทั้งนี้มีจุดสังเกตว่าคนร้ายได้แต่งกายรัดกุม มีการสวมถุงมือ และมีอุปกรณ์แสงสว่างบนศีรษะจึงเชื่อว่าน่าจะมีการวางแผนมาเป็นอย่างดี

...

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่พบเบาะแสยานพาหนะที่คนร้ายใช้เดินทางมาก่อเหตุ ซึ่งพันตำรวจตรีอภิชาติ บุญศรีโรจน์ รองผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจภูธรภาค 8 ได้มีการกำชับให้ชุดสืบสวน ตำรวจภูธรสุราษฎร์ธานี ร่วมกับชุดสืบสวน สภ.ท่าชนะ เร่งเก็บข้อมูลกล้องวงจรปิด เพื่อหารถต้องสงสัย เพื่อเป็นแนวทางในการติดตามตัวผู้ก่อเหตุ


ด้าน พ.ต.อ.ทักษิณ ศิริโภคพัฒน์ ผู้กำกับการ สถานีตำรวจภูธรท่าชนะ กล่าวว่าได้แยกสอบสวนพยาน ซึ่งเป็นพนักงานในร้านสะดวกซื้อ 6-7 ปาก โดยจากการสอบสวน ยังมีหลายประเด็น สงสัยทั้งในเรื่องของการจัดเก็บเงินเข้าตู้เซฟและจำนวนเงิน ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นจำนวนเงินเท่าไรกันแน่ โดยพนักงาน 2 คน ซึ่งเป็นผู้นำเงินเข้าเซฟต่างอ้างว่ายังไม่ได้นับจำนวน พร้อมทั้งให้ชุดสืบสวนเร่งสอบพยานแวดล้อม และไล่เส้นทางหลบหนี.