คุณนายกุ้ง อายุ 69 ปี ที่ถูกสงสัยว่าเป็นคุณนายกำมะลอหักค่าหัวคิวเงินช่วยน้ำท่วมผู้ประสบภัยที่ยโสธร เข้าพบตำรวจ ยืนยันความบริสุทธิ์ ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการหักเงิน หรือสวมสิทธิ์รับเงิน

จากกรณี นายบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ดารานักแสดงอาสาสมัครกู้ภัย เดินหน้าแจ้งความเอาผิด คุณนายกำมะลอ และผู้ร่วมขบวนการหักค่าหัวคิวและ ฉ้อโกงเงินช่วยน้ำท่วม หลังพบว่ามีผู้นำชุมชนและผู้ใหญ่บ้านเป็นผู้ร่วมขบวนการการะทำความผิดไม่ต่ำกว่า 20 ราย นอกจากนี้ในเขตพื้นที่ อ.เมือง พบมีชาวบ้านร่วมแอบอ้างสวมสิทธิ์น้ำท่วมไม่ต่ำกว่า 200 ครัวเรือน ตามข่าว "“บิณฑ์” ยันเอาเรื่อง "คุณนายกำมะลอ" โกงเงินช่วยน้ำท่วมยโสธรให้ถึงที่สุด (คลิป)" ที่เสนอไปก่อนหน้านี้ 

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 30 ต.ค.62 ที่ สภ.เมืองยโสธร นางรุ่งรัชนี ไชยวิชิต หรือ คุณนายกุ้ง อายุ 69 ปี ชาวบ้าน ถนนวิทยธำรงค์ ต.ในเมือง อ.เมืองยโสธร เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.ศรัณย์พงศ์ จักษุกรรฐ รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.เมืองยโสธร ก่อนจะมีการออกหมายเรียกมารับทราบข้อกล่าวหา เพื่อแสดงตัวชี้แจงข้อเท็จจริงและปฏิเสธว่า ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับ ขบวนการ คุณนายกำมะลอ หักหัวคิวและสวมสิทธิ์ในการรับเงินช่วยน้ำท่วม และยืนยันไม่ได้หลบหนี ขอตายที่ยโสธร

...


นางรุ่งรัชนี กล่าวว่า วันนี้ตนได้นัดเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อขอเข้าพบเพื่อยืนยันข้อเท็จจริง และปฏิเสธไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการหักหัวคิวเงินช่วยน้ำท่วม เรื่องแบบนี้ไม่น่าเกิดขึ้น มันเป็นวิบากกรรมของตน ช่วงที่เป็นข่าวแรกๆ ตนไม่รู้สึกอะไรเพราะไม่ได้ทำผิด แต่เมื่อวานก่อนมีภาพตนออกไปตามสื่อทุกแขนง จึงโทรมาขอเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อยืนยันไม่ได้หลบหนี ขอตายที่ยโสธร

คุณนายกุ้ง กล่าวต่อว่า เมื่อหลายเดือนก่อนเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูได้ติดต่อมาหาตนว่า มีคนรู้จักผู้นำท้องถิ่นหรือไม่ เนื่องจากมูลนิธิอยากมาเยี่ยมหลังน้ำท่วม กระทั่งมีการประชุมกำนันผู้ใหญ่บ้านเพื่อชี้แจงหลักเกณฑ์การรับเงินโดยมีเจ้าหน้าที่มูลนิธิลงมาเอง ตนเป็นเพียงผู้ประสานงาน จากนั้นก็ได้ให้กำนันผู้ใหญ่บ้านนำเอกสารที่รับรองไปเปรียบเทียบข้อมูลกับทางอำเภอ เพราะทางรัฐบาลจะจ่ายเงินด้วยจึงต้องมีการเปรียบเทียบกัน จากนั้นทางกำนันผู้ใหญ่บ้านแจ้งมาว่าเอกสารนี้ผ่านอำเภอเรียบร้อย จากนั้นทางกำนั้นผู้ใหญ่บ้านก็นำเอกสารมาส่งที่ตนเอง กระทั่งทางทีมงานมูลนิธิได้ติดต่อมาว่าจะลงพื้นที่จังหวัดยโสธรเพื่อมอบเงินช่วยเหลือ ตนจึงไปหาโรงแรมที่พัก พร้อมกับต่อรองราคาจากห้องพักคืนละ 800 เหลือ 500 บาท จากนั้นตนก็ทำหนังสือไปถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจและเทศบาลเมืองยโสธรในฐานะผู้ประสานงานมูลนิธิ ขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจมาดูแลและขออนุญาตเทศบาลเมืองยโสธรใช้สถานที่ศูนย์ผู้สูงอายุ


"ตนไม่เคยมีเคยมีอิทธิพลใหญ่โตหรือกว้างขวาง ข่าวไปลงซะเสียหาย เพราะคนอีสานที่มีอายุเขาจะเรียกว่าคุณแม่ ส่วนมีการหักหัวคิวหรือสวมสิทธิ์นั้นไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับตน เพราะเป็นหน้าที่ของกำนันผู้ใหญ่บ้านเป็นคนรับรองเอกสาร ซึ่งในเอกสารจะไม่มีการลงลายมือชื่อของตนเลย อย่างไรก็ตามมีผู้นำคนหนึ่งในตำบลน้ำคำใหญ่มาบอกว่า ภรรยาของเขาเก่งเรื่องทำเอกสารตนจึงให้มาช่วยทำเอกสาร ทุกคนจะบอกว่าแม่กุ้งเป็นคนลงเก็บเอกสาร แต่ความจริงคือไม่ได้ลงพื้นที่ด้วย ตรงนี้ปฏิเสธไม่ได้เพราะเมื่อรับรองเอกสารเสร็จต้องนำมาส่งตนอยู่แล้ว เพราะว่าตนเป็นผู้ประสานงานมูลนิธิ นอกจากนี้หากเจ้าหน้าที่ตำรวจจะมีการแจ้งข้อกล่าวหาตนก็ปฏิเสธ และจะให้การในชั้นศาล" นางรุ่งรัชนี กล่าว

รายงานข่าวแจ้งว่า พนักงานงานสอบสวน ได้แจ้งข้อกล่าวกล่าวหานางรุ่งรัชนี เป็นผู้ต้องหาร่วมกันฉ้อโกง โดยเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การปฎิเสธ เจ้าหน้าที่จึงนำพิมพ์ลายนิ้วมือ จากนั้นได้ปล่อยตัวผู้ต้องหาแบบไม่มีเงี่ยนไข เนื่องจากผู้ต้องหาได้เดินทางมาพบพนักงานสอบสวน และไม่มีพฤติการณ์หลบหนี ส่วนผู้ต้องสงสัยอีก 4 รายประกอบด้วย กำนัน, ผู้เซ็นรับรอง, ผู้หารายชื่อ และกรรมการหมู่บ้าน จะมีหมายเรียกมารับทราบข้อกล่าวหาอีกครั้ง.