ทีมสอบสวนไม่เชื่อ "ไอ้เอ็ม" ร้องไห้โทรสารภาพเมียเก่า ว่ามีคนบงการสั่งสังหารฆ่าเศรษฐินีนักปฏิบัติธรรม โดยน่าจะหวังกลบเกลื่อนความผิดตัวเอง ขณะที่ ทอมอุ้มเตรียมชี้แจงไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง

จากกรณี ทางพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรจอมทองเชียงใหม่ได้ขออนุมัติศาลจังหวัดฮอด ออกหมายจับ นายวิฑูรย์ ศรีตะบุตร์ อายุ 39 ปี หรือ เอ็ม หรือ ตั้ม ผู้ต้องหาในคดีฆ่าชิงทรัพย์เศรษฐินีนักปฏิบัติธรรม ด้วยการ ฆ่ายัดตู้เย็น ก่อนนำเอทีเอ็มของผู้ตายไปตระเวนกดเงินสด ที่ปรากฏตามพยานหลักฐาน ที่นายวิฑูรย์นำบัตร ATM ของผู้ตาย ไปตระเวนกดเงินสดตามสถานที่ต่างๆ หลายจังหวัด

ต่อมาเมื่อช่วงเย็นวานนี้ (29 ต.ค.) ทางอดีตภรรยาที่มีลูก กับนายเอ็มได้โทรศัพท์คุยกับนายเอ็ม และแอบบันทึกเสียงไว้ นำมาเผยแพร่ทางสื่อมวลชน โดยพูดเกลี้ยกล่อมให้นายเอ็มเข้ามามอบตัวกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยทางเอ็มได้ร่ำไห้สารภาพว่าที่กระทำลงไป เนื่องจากมีคนบงการ เป็นทอม เป็นคนวางแผนสั่งการและนายต้น เป็นคนลงมือฆ่า ซึ่ง ตนไม่ได้เป็นคนลงมือฆ่าแต่ช่วยในการอำพรางศพก่อนที่จะแยกย้ายกันหลบหนีได้เงินเพียง 3 แสนบาท ขณะนี้ได้เช่าคอนโดหลบซ่อนตัวอยู่ที่กรุงเทพฯ พร้อมกับร่ำไห้ ขอโทษเมีย ตามที่เป็นข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุดเมื่อวันที่ 30 ต.ค.62 นายตำรวจเกี่ยวข้องกับการสอบสวนในคดีนี้ ให้ข้อมูลว่า จากคำพูดของนายเอ็มที่โทรศัพท์มาคุยสารภาพกับเมียและให้การซัดทอด ไปยังบุคคลอื่นอีก 2 คนนั้นทางตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อเพราะอาจจะเป็นการสร้างสถานการณ์ขึ้นมา ของนายเอ็มมากกว่า เพราะขัดกับพยานหลักฐาน หลายๆ อย่าง เนื่องจากว่าหลักฐานจากพยานแวดล้อมทั้งภาพจากกล้องวงจรปิด ตามหน้าธนาคารตามตู้ ATM ที่ผู้ต้องหาตามหมายจับได้นำไปกดตามพื้นที่ต่างๆ นั้น มีผู้ต้องหา เพียงคนเดียวแต่อาจจะมีบางวันที่ นายเอ็มพา ภรรยาคนที่ 3 เดินทางไปกดด้วย ซึ่งสอดคล้องกับคำให้การของ นางสาวน้ำ ภรรยาคนที่ 3 ซึ่งทำงานในในจังหวัดเชียงใหม่ ก็ให้การเป็นประโยชน์ต่อทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าตนเองนั้นก็ถูกนายเอ็มหลอกลวงว่าเป็นเศรษฐี จึงได้คบหาด้วยและยอมรับว่าได้เช่ารถ จากร้านรถเช่าในตัวเมืองเชียงใหม่ ไปกดเงินกับนายเอ็ม และไปท่องเที่ยว หลายครั้งจริง

...

ขณะเดียวกัน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบสวนพยานแวดล้อมซึ่งเป็นพนักงานร้านนวดแผนโบราณ แห่งหนึ่งในอำเภอจอมทอง ได้ข้อมูลใหม่ว่า ก่อนที่นักปฏิบัติธรรมจะถูกฆ่านั้นได้ไปใช้บริการที่ร้านนวดและพูดถึง เรื่องที่กำลังต้องการจะซื้อที่ดิน หากใครมีที่ดินสวยๆ ก็นำมาเสนอขายได้ จึงเป็นไปได้ว่า นายเอ็มผู้ต้องหาซึ่งเคยรู้จัก กับผู้ตายมาก่อน อาจจะทำที ไปติดต่อเสนอขายที่ดินให้โดยเข้าไปหาผู้ตายที่ตึกแถว ซึ่งจากหลักฐานเชื่อว่า ตายน่าจะเปิดประตูให้นายเอ็มเข้าไปทางประตูหน้าซึ่งไม่ใช่เป็นประตู ที่เป็นลูกบิดธรรมดาส่วนประตูคีย์การ์ด ซึ่งเป็นประตูหลัง และนายเอ็มเข้าไปพูดคุยกับผู้ตาย

นายเอ็มคงจะเห็นผู้ตายอยู่คนเดียว จึงได้ลงมือทำร้ายผู้ตายโดยมีการพันธนาการจับผู้ตายมัด และบังคับให้บอกรหัสบัตรเอทีเอ็ม ก่อนที่จะขับรถ นำบัตรเอทีเอ็มของผู้ตายไปทดลองกดที่ตู้เอทีเอ็ม ของธนาคารแห่งหนึ่งในอำเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2562 จากนั้น ตำรวจยังได้ภาพกล้องวงจรปิด จากร้านที่นายเอ็มเข้าไปซื้อ ปูนซีเมนต์ 2 ถุงใส่รถบีเอ็มดับบลิว รุ่น X1 ของผู้ตาย แล้วย้อนกลับมาฆ่าปิดปากผู้ตาย ก่อนที่จะนำตู้เย็น 2 ชั้นนอนลงกับพื้นแล้วโรยปูนทับ แล้วเสียบปลั๊กไฟไว้ เพื่อให้ตู้เย็นทำงาน เพื่อชะลอการเน่าของศพแต่ปรากฏว่าตู้เย็นอยู่ในแนวนอน คอมเพรสเซอร์ไม่ทำงานทำให้ศพมีกลิ่นเน่าเหม็นโชยออกมา

ส่วน นายเอ็มโทรศัพท์คุยกับเมีย และให้การซัดทอดว่ามีคนร่วมขบวนการสังหารนักปฏิบัติธรรมอีก 2 คนนั้นคือ ทอมอุ้ม คนบงการและนายต้นคนอำเภอหางดงจังหวัดเชียงใหม่ เป็นคนฆ่าซึ่งจากไทม์ไลน์และจิ๊กซอว์การสอบสวนของตำรวจแล้วไม่เชื่อว่า จะมีคนร้ายเพิ่มขึ้น แต่อย่างใดเชื่อว่า นายเอ็มคงจะพูดสร้างสถานการณ์เพื่อกลบเกลื่อนความผิดของตัวเอง

ตอนนี้ตำรวจกำลังรอผลการตรวจลายพิมพ์นิ้วมือในที่เกิดเหตุ หากผลการตรวจลายนิ้วมือออกมาชัดเจนว่าผู้กระทำผิดเป็นบุคคลคนเดียว ก็ยิ่งจะมีน้ำหนักนายเอ็มเพียงคนเดียวเท่านั้น และอาจจะมีการวางแผนมาก่อน เนื่องจากผู้ต้องหารู้ว่าผู้ตายเป็นคนมีฐานะดี และมีทรัพย์สิน จึงวางแผนทำทีเป็นนายหน้าไปติดต่อเสนอขายที่ดินก่อนที่จะลงมือ ทำร้ายผู้ตายก่อนเพื่อรีบเอา รหัสบัตรเอทีเอ็มจากผู้ตายก่อนที่จะ ถ้ารับขอผู้ตายนำศพไปหมกในตู้เย็นสาเหตุน่าจะมาจากการต้องการชิงทรัพย์ผู้ตาย

ส่วนบัญชีธนาคารของผู้ตายทั้งจากการตรวจสอบพบว่าผู้ตายมีบัญชีอยู่ทั้งหมด 4 ธนาคาร เงินที่ผู้ตายฝากไว้จำนวน 40 ล้านบาทเศษเป็นเงินบัญชีประจำ ไม่มีบัตรเอทีเอ็มคนร้ายไม่สามารถเบิกถอนได้ ส่วนอีก 3 ธนาคาร มีเงินอยู่รวมกันประมาณ 9 แสนบาทเศษ โดยทั้ง 3 ธนาคารนี้เชื่อว่าคนร้ายจะได้รหัสบัตร ATM ของผู้ตายไปกดตามสถานที่ต่างๆ น่าจะได้เงินไปเปล่าๆ 9 แสนบาทเศษเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงกล่าวอีกว่าหลังจากเกิดเหตุ อุ้ม สาวทอมที่ถูกพาดพิง ไม่ได้อยู่ในสารบบของผู้ต้องสงสัยในคดีนี้แต่อย่างใดแต่ยอมรับว่า สาวทอมชื่ออุ้มเข้ามาเกี่ยวข้องเนื่องจากว่าเคยรู้จักกับผู้ตายและเป็นนักปฏิบัติธรรมด้วยกันและวันนี้ มีรายงานข่าวว่าอุ้ม ที่ถูกพาดพิงในคดีนี้ จะไปแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีกับสื่อในข้อหาหมิ่นประมาท และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ไว้ที่ สน.พญาไท กรุงเทพมหานคร อีกด้วย.