อธิบดีดีเอสไอ นำข้าราชการปฏิญาณตน "ไร้ทุจริต ยืนหยัดต่อสู้ความอยุติธรรม ไม่เกรงกลัวอิทธิพล" เนื่องในวันคล้ายวันสถาปนากรมสอบสวนคดีพิเศษ ปีที่ 17
เวลา 09.00 น.วันที่ 3 ต.ค. เวลา 09.00 น. พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมด้วย พ.ต.อ.กรวัชร์ ปานประภากร นายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ นายมณฑล แก้วเก่า และพันตำรวจโท ปกรณ์ สุชีวกุล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ กรมสอบสวนคดีพิเศษ จัดพิธีสงฆ์ เจริญพระพุทธมนต์ และถวายภัตตาหารแด่พระสงฆ์สมณศักดิ์ 10 รูป ณ บริเวณโถงกลาง ชั้น G และบริเวณด้านข้างอาคารกรมสอบสวนคดีพิเศษ
จากนั้นอธิบดีดีเอสไอนำข้าราชการกว่า 1 พันนายกล่าวปฏิญาณตน ว่า “ข้าราชการ DSI ไร้ทุจริต” “เกียรติศักดิ์ เชี่ยวชาญ และซื่อสัตย์” ผนึกกำลังสามัคคีแสดงออกถึงเจตนารมณ์ในการที่จะยึดถือค่านิยมร่วมกัน เพื่อให้เป็นที่ประจักษ์และส่งสารสู่สาธารณชน เนื่องในวันคล้ายวันสถาปนากรมสอบสวนคดีพิเศษ ปีที่ 17
พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษ กระทรวงยุติธรรม สถาปนาขึ้นเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2545 ตามพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. 2545 มาตรา 36 กำหนดให้กรมสอบสวนคดีพิเศษมีอำนาจหน้าที่ในการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดในคดีพิเศษ ตลอดระยะเวลา 16 ปี ที่ผ่านมา กรมสอบสวนคดีพิเศษจนเกิดการเปลี่ยนแปลงในหลายด้าน ทั้งด้านการบริหารราชการ การปฏิรูปและปรับปรุงกฎหมาย การบริหารทรัพยากรบุคคลภาครัฐ และระบบวิธีการปฏิบัติงาน ภายใต้บริบทแวดล้อมทางด้านการเมือง สังคม เศรษฐกิจ และวัฒนธรรม ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษเป็นองค์การที่พร้อมจะเปลี่ยนแปลงเพื่อพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทุกด้านอยู่เสมอ พร้อมทั้งยึดถือ “ความซื่อสัตย์สุจริต” และ “ความรักสามัคคี” เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ซึ่งเสมือนเป็นพลังและความเข้มแข็งขององค์การ และพร้อมยืนหยัดเคียงข้างพี่น้องประชาชนและประเทศชาติ ในการอำนวยความยุติธรรม เพื่อปกป้องผลประโยชน์และความผาสุกของสังคมโดยรวม ซึ่งพลังสามัคคีดังกล่าวนี้เป็นปัจจัยที่สำคัญยิ่งที่ทำให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ ยืนหยัดต่อสู้กับความอยุติธรรมและไม่เกรงกลัวอิทธิพลทำให้ชื่อของ “กรมสอบสวนคดีพิเศษ” หรือ “ดีเอสไอ” เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย ซึ่งเห็นเป็นที่ประจักษ์ชัดว่า เมื่อพี่น้องประชาชนมีทุกข์ร้อนหรือภัยอันใด ชื่อของ “ดีเอสไอ” จะเป็นหน่วยงานแรกๆ ที่ถูกกล่าวถึงเสมอ
...
ในมิติด้านการดำเนินคดีพิเศษนั้น ตั้งแต่มีการจัดตั้งกรมสอบสวนคดีพิเศษ เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2545 จนถึงปัจจุบันเป็นเวลา 17 ปี กรมสอบสวนคดีพิเศษมีการสอบสวนดำเนินคดีพิเศษไปแล้วถึง 2,654 คดี โดยดำเนินการสอบสวนเสร็จแล้ว 2,497 คดี อยู่ระหว่างการสอบสวน 157 คดี นอกจากนั้นยังมีเรื่องที่รับไว้สืบสวนก่อนรับเป็นคดีพิเศษ ถึง 3,053 เรื่อง ดำเนินการเสร็จแล้ว 2,918 เรื่อง และอยู่ระหว่างดำเนินการ 135 เรื่อง
อธิบดีดีเอสไอกล่าวอีกว่ากรมสอบสวนคดีพิเศษแบ่งประเภทของอาชญากรรมที่รับไว้ดำเนินการเป็น 4 กลุ่มคดี
1. ด้านอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ ได้แก่ อาชญากรรมด้านการเงิน การธนาคาร การภาษีอากร การฟอกเงิน การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน และอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับระบบเศรษฐกิจ การคลัง กลุ่มนี้มีการดำเนินคดีไปแล้วทั้งสิ้น 803 คดี
2. ด้านอาชญากรรมเทคโนโลยีสารสนเทศและทรัพย์สินทางปัญญา ได้แก่ อาชญากรรม
ที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศ และการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพย์สินทางปัญญา ดำเนินคดีไปแล้วทั้งสิ้น 528 คดี
3. ด้านการคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม ได้แก่ อาชญากรรมที่มีผลกระทบต่อผู้บริโภค สิ่งแวดล้อม และเกี่ยวกับมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม มีการดำเนินคดีไปแล้วทั้งสิ้น 373 คดี
4. ด้านอาชญากรรมระหว่างประเทศและอาชญากรรมพิเศษ ได้แก่ อาชญากรรมที่เป็นความผิดข้ามชาติ องค์กรอาชญากรรม การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว การเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ การค้ามนุษย์ อาชญากรรมที่กระทบต่อความมั่นคงประเทศ ความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน และอาชญากรรมพิเศษอื่น ๆ ดำเนินคดีไปแล้วทั้งสิ้น 950 คดี
โดยคดีพิเศษที่ดำเนินการแล้วเสร็จนั้น เมื่อนำมาคำนวณมูลค่าความเสียหาย สามารถปกป้องผลประโยชน์คืนให้แก่รัฐ เอกชน และประชาชนแล้ว มีมูลค่าถึง 599,425,112,300.49 ล้านบาท ขณะที่ แต่ละปี กรมสอบสวนคดีพิเศษใช้งบประมาณเฉลี่ยปีละ 1,000 ล้านบาทเศษ เท่านั้น
"ในวาระก้าวเข้าสู่ปีที่ 17 กรมสอบสวนคดีพิเศษขอให้คำมั่นว่า จะปฏิบัติงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต มุ่งมั่นในการป้องกันการทุจริตและประพฤติมิชอบ โดยจะปรับปรุงระบบการปฏิบัติงาน เพื่อมุ่งสู่การเป็นระบบราชการ 4.0 และให้มีมาตรฐานในระดับสากล เพื่อให้กรมสอบสวนคดีพิเศษก้าวไปสู่องค์กรชั้นนำของประเทศที่ได้รับความไว้วางใจและเป็นที่เชื่อมั่น ศรัทธา เป็นที่พึ่งด้านการอำนวยความยุติธรรมให้ประชาชน"
นอกจากนี้ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้จัดกิจกรรมเสริมสร้างคุณธรรมและจริยธรรมให้แก่บุคลากร เสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของกรมสอบสวนคดีพิเศษ โดยผู้บริหารกรมสอบสวนคดีพิเศษร่วมกันประกาศคำมั่นสัญญาค่านิยมร่วมและวัฒนธรรมองค์การของกรมสอบสวนคดีพิเศษ ตลอดจนข้าราชการและเจ้าหน้าที่จำนวนกว่า 1,000 คน ร่วมกันปฏิญาณตน “ข้าราชการ DSI ไร้ทุจริต” พร้อมแสดงสัญลักษณ์ต่อต้านการทุจริต ซึ่งมุ่งสนองตอบนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงยุติธรรมในการป้องกัน ปราบปรามการทุจริต และประพฤติมิชอบของข้าราชการและบุคลากรภาครัฐ และเพื่อปลุกจิตสำนึก สร้างค่านิยมในการยึดมั่น และร่วมมือกันปฏิบัติตามนโยบายการบริหารองค์การตามหลักธรรมาภิบาลให้แก่บุคลากรของกรมสอบสวนคดีพิเศษ รวมทั้งเสริมสร้างภาพลักษณ์ของผู้ปฏิบัติงานในการยึดมั่น ดำรงตน ตามค่านิยมที่สำคัญ 3 ประการ คือ เกียรติศักดิ์ เชี่ยวชาญ ซื่อสัตย์ โดยมุ่งปฏิบัติงานให้บรรลุตามยุทธศาสตร์ของกรมสอบสวนคดีพิเศษในการสร้างความเชื่อมั่นให้กับสาธารณชนและพัฒนาองค์การอย่างยั่งยืน
...