สลดใจพ่อเฒ่าพัทลุงวัย 81 ปี ก่อเหตุสยองทุบหัวภรรยาวัย 80 ปีตายคาบ้าน ก่อนที่จะใช้ผ้าขาวม้าผูกคอตายหนีความผิดในห้องนอนของตนเอง ตร.คาดปมทะเลาะรุนแรง 

ผู้สื่อข่าว จ.พัทลุง รายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 11.20 น.วันนี้ (ที่ 28) ร.ต.อ.นราธร พิลาล้ำ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เขาชัยสน จ.พัทลุง พ.ต.อ.สุรเชษฐ์ สุวรรณนพมาศ ผกก.สภ.เขาชัยสน พ.ต.อ.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย รอง ผบก.ภ.จ.พัทลุง นายตำรวจที่เกี่ยวข้อง จนท.หน่วยกู้ภัยมูลนิธิพัทลุงการกุศล จนท.หน่วยกู้ภัยแม่ขรี จนท.พิสูจน์หลักฐานพัทลุง และแพทย์เวร รพ.เขาชัยสน ลงพื้นที่ตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิตคาที่ 1 ศพ และเหตุแขวนคอตาย 1 ศพ โดยเหตุเกิดในบ้าน 2 ชั้นแบบครึ่งไม้ครึ่งปูน บ้านหลังหนึ่ง ต.โคกม่วง อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง ตั้งอยู่ริมถนนสาย กม.42-ทางเกวียน ที่ตั้งอยู่ห่างจากตู้ยามโคกม่วง ประมาณ 2 กิโลเมตร

ในที่เกิดเหตุบ้าน 2 ชั้นหลังดังกล่าว เป็นห้องนอนชั้นล่าง ตร.พบศพ นางปิ่น อุ่นเมือง อายุ 80 ปี ผู้เป็นภรรยาเจ้าของบ้าน นอนเสียชีวิตจมกองเลือดในลักษณะตะแคงข้างอยู่บนพื้นห้องใกล้เตียงนอนในห้องนอนของตนเอง ในสภาพสวมเสื้อคอกระเช้าสีฟ้า สวมผ้าถุงลายดอก ในเบื้องต้นคาดว่าน่าจะเสียชีวิตมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 ชม. ส่วนภาพศพถูกตีด้วยของแข็งเข้าที่บริเวณศีรษะ และบริเวณกกหูด้านขวา และบริเวณข้อมือขวามีรอยแผลจากการถูกทำร้าย คาดว่าผู้ตายน่าจะเอามือรับการถูกตี

...

ส่วนบริเวณบนม้านั่งหินอ่อนหน้าบ้าน ตร.พบไม้เท้าของนางแคล้ววางอยู่ 1 อัน โดยไม้เท้าดังกล่าวทำด้วยไม้ไผ่ยาวประมาณ 1 เมตร และมีรอยเลือดติดอยู่ด้วย นอกจากนั้นบริเวณหน้าบ้านใกล้กับที่วางไม้เท้าดังกล่าว ตร.พบไม้ท่อนขนาดนิ้ว 3 นิ้ว x ครึ่งนิ้ว ความยาวประมาณ 50 ซม. วางอยู่ด้วย จึงเก็บไปเป็นหลักฐานในการสืบสวนสอบสวนต่อไป ในเบื้องต้นหลายคนเชื่อว่าไม้เท้าดังกล่าวไม่น่าจะเป็นไม้ที่นำมาใช้ในการก่อเหตุร้ายในครั้งนี้

อย่างไรก็ตาม ในห้องนอนชั้นล่างอีกห้องหนึ่งซึ่งเป็นห้องนอนของนายแคล้ว อุ่นเมือง อายุ 81 ปี ผู้เป็นข้าวของบ้านหลังดังกล่าว ตร.พบนายแคล้ว ผูกคอตายด้วยผ้าขาวม้ากับขื่อบ้านในห้องนอนดังกล่าว  โดยเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 2 ชั่วโมง โดยไม่พบร่องรอยการถูกฆาตกรรมแต่อย่างใด ในเบื้องต้น ตร.คาดว่านายแคล้ว น่าจะใช้ของแข็งทุบตีนางปิ่น ผู้เป็นภรรยาจนเสียชีวิต หลังจากนั้นได้มาแขวนคอตนเองเพื่อหนีความคิดจากการกระทำไป ซึ่งทางตำรวจจะได้เร่งสืบสวนสอบสวนต่อไป

จากการสอบสวนในเบื้องต้นทราบว่าทั้ง 2 สามีภรรยาดังกล่าวอาศัยอยู่ในบ้านกันเพียง 2 คน โดยที่ลูกๆ ทั้ง 3 คน ได้มีครอบครัวและไปอาศัยอยู่นอกบ้าน ซึ่งทั้ง 2 สามีภรรยาดังกล่าวนี้มักจะมีปากเสียงและทะเลาะวิวาทกันเป็นประจำ จนเป็นที่รับรู้ของเพื่อนบ้านใกล้เคียง ก่อนเกิดเหตุ นางสาวมณฑาทิพย์ (สงวนนามสกุล) อายุ 24 ปี ชาวบ้าน ต.โคกม่วง อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง ผู้เป็นหลานสาวได้ไปทำบุญวันสารทเดือนสิบ ณ วัดควนยวน ท้องที่ ต.โคกม่วง อ.เขาชัยสน แต่ไม่พบ 2 ตายาย จึงมีความแปลกใจและได้ขี่ จยย. มายังบ้านพักของตาและตาย จึงได้พบเหตุการณ์สลดดังกล่าวขึ้น จึงได้เข้าไปแจ้งให้ ด.ต.ธนานิตย์ บัวทอง หน.ตู้ยามโคกม่วง ได้รับทราบดังกล่าว

ส่วน พ.ต.อ.สุรเชษฐ์ สุวรรณนพมาศ ผกก.สภ.เขาชัยสน กล่าวว่า ทั้ง 2 สามีภรรยาคู่นี้จะมีปากเสียงกันเป็นประจำ ก่อนหน้านี้เมื่อวานนี้ (27 ก.ย.) นายแคล้ว เคยพูดกับ น.ส.มณฑาทิพย์ ผู้เป็นหลานสาวว่า พรุ่งนี้ซึ่งเป็นวันสารทเดือนสิบ ซึ่งเป็นวันส่งตายายกลับสู่สวรรค์นั้น ตนจะผูกคอตายให้ดู น.ส.มณฑาทิพย์ ไม่คาดคิดว่าคำพูดของผู้เป็นตาจะเป็นความจริง สำหรับการเสียชีวิตในครั้งนี้นั้น ตร.มุ่งไปในประเด็นความขัดแย้งซึ่งกันและกัน จนนำไปสู่การก่อเหตุร้ายดังกล่าว ในส่วนก่อนการก่อเหตุร้ายนั้นคาดว่านางปิ่น ได้เตรียมจัดทำอาหารเพื่อยกปิ่นโตไปทำบุญ ณ วัดควนยวน โดยได้เตรียมพร้อมการแต่งกายไว้พร้อม รอเพียงสวมเสื้อเท่านั้น คาดว่าทั้ง 2 คนคงมีปากเสียงกันจนเกิดคดีสลดใจขึ้น

ผกก.สภ.เขาชัยสน กล่าวด้วยว่า อย่างไรก็ตาม ทางพนักงานสอบสวนและ จนท.พิสูจน์หลักฐานพัทลุง จะได้ร่วมกันตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ และดูผลการชันสูตรพลิกศพของแพทย์เวร โรงพยาบาลเขาชัยสน เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป ส่วนประเด็นการฆาตกรรมอำพรางนั้น ทางตำรวจก็ไม่มองข้ามเช่นกัน.

...