5 ปี กับการตามหา "บิลลี่" ผู้นำหมู่บ้านกะเหรี่ยงแก่งกระจาน เจอกระดูกถูกเผาในถัง ระบุได้ว่า "ตายแล้ว" ตัวแทนชนเผ่าเข้าขอบคุณ DSI พร้อมเรียกร้องเร่งจับคนร้าย เชื่อฝีมือ จนท.รัฐ 

กรณีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ แถลงข่าวยืนยัน “บิลลี่-พอละจี รักจงเจริญ” แกนนำชาวกะเหรี่ยงบ้านโป่งลึก-บางกลอย ถูกฆ่าเผายัดถังน้ำมัน 200 ลิตร ก่อนถ่วงน้ำอำพรางคดี หลังนำยานยนต์สำรวจใต้น้ำจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ มจพ.และนักประดาน้ำ บก.สนับสนุนทางอากาศ บช.ตชด. ตรวจพื้นที่ใต้น้ำในเขื่อนแก่งกระจาน พบชิ้นส่วนกระดูกถูกเผาถังน้ำมัน 200 ลิตร และอื่นๆ

ทั้งนี้ จากตรวจสารพันธุกรรมตรงกับนางโพเราะจี รักจงเจริญ มารดานายบิลลี่ ซึ่งทางชุดสืบสวน ระบุว่า ต้องเปลี่ยนข้อหา จาก ม.157 ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นข้อหาฆาตกรรม มีกลุ่มเป้าหมายชัดเจน เพราะพื้นที่เกิดเหตุเป็นที่ปิด คนทั่วไปเข้าไปไม่ได้

ความคืบหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 4 ก.ย. นายสมชาติ รักษ์สองพลู อายุ 50 ปี นายเกรียงไกร ชีช่วง อายุ 41 ปี ตัวแทนเครือข่ายกะเหรี่ยงและชาวเลในประเทศไทย สมาชิกของคณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน (กป.อพช.) พร้อมสมาชิกประมาณ 20 คน เพื่อมอบดอกไม้และยื่นหนังสือขอขอบคุณและขอให้เร่งรัดสืบสวนคดีหาผู้กระทำผิด กรณีการเสียชีวิตของนายพอละจี รักจงเจริญ ต่อ พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ โดยมี พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร รองอธิบดีดีเอสไอ มารับหนังสือและช่อดอกไม้แทน

...

นายสมชาติ กล่าวว่า เครือข่ายกะเหรี่ยงและชาวเลในประเทศไทย ได้ติดตามสถานการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิดของขอบคุณและเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่คณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ที่ทุ่มเททำงานด้วยความมานะอุตสาหะจนสามารถพิสูจน์ยืนยันวัตถุพยานหลักฐานสำคัญที่ระบุได้ว่า “บิลลี่” เสียชีวิตแล้ว อันจะไปสู่การเร่งรัดดำเนินคดี และการคืนความเป็นธรรมให้แก่ครอบครัวและชุมชน

ขณะที่นายเกรียงไกร ชีช่วง กรรมการฟื้นฟูวิถีชีวิตชาวกะเหรี่ยงและชาวเล กล่าวว่า การคลี่คลายคดีของดีเอสไอทำให้ครอบครัวของบิลลี่รู้กระจ่างชัดแล้วว่าบิลลี่ได้เสียชีวิตแล้ว บิลลี่เป็นคนดี มีความรู้ เรียกร้องเป็นตัวแทนเรื่องสิทธิมนุษยชนมาตลอด โดยคณะกรรมการจะทำตามเจตนารมณ์ของบิลลี่ต่อไป และทำให้ภาครัฐเห็นว่าชนชาวพื้นเมือง มีวัฒนธรรม และสามารถอยู่กับธรรมชาติได้

"5 ปีที่ผ่านไป ทางญาติของบิลลี่ และเครือข่ายชาวกะเหรี่ยงก็ได้รู้ความจริงเสียที จึงขอขอบคุณที่กรมสอบสวนคดีพิเศษติดตามจนทราบว่าบิลลี่ถูกอุ้มฆ่า จึงมายื่นหนังสือเพื่อเรียกร้องใน 4 ประเด็นคือ 1.ให้กรมสอบสวนคดีพิเศษเร่งรัดสืบสวนติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้ 2.ให้ช่วยประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ดำเนินการชดเชยเยียวยาความเสียหายที่เกิดจึ้นให้กับครอบครัวของบิลลี่อย่างเป็นธรรม 3.อยากให้ช่วยผลักดันให้รัฐบาลพิจารณาเร่งรัดเข้าเป็นภาคีและให้สัตยาบันอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการคุ้มครองบุคคลจากการหายสาบสูญโดยถูกบังคับ ซึ่งรัฐบาลไทยยังไม่ได้เข้าเป็นภาคี จึงไม่มีสภาพบังคับ เพื่อให้ประเทศไทยมีมาตรการเป็นไปตามหลักสากลของสหประชาชาติ ว่าด้วยการปกป้องคุ้มครองตวามปบอดภัยนักปกป้องสิทธิมนุษยชน 4.ช่วยผลักดันให้รัฐบาลไทยเร่งรัดออกกฎหมายใหม่หรือแก้ไขกฎหมาย เพื่อป้องกันไม่ให้เจ้าหน้าที่รัฐใช่อำนาจทางกฎหมายโดยมิชอบ เพื่อเป็นหลักประกันว่าประชาชนจะไม่ถูกกระทำโดยผู้ใช้อำนาจรัฐ"

นายเกรียงไกร กล่าวด้วยว่า มั่นใจว่า ผู้ก่อเหตุเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ จึงฝากบอกไปยังผู้ก่อเหตุ ให้ออกมายืดอกรับความจริง และรับสารภาพ แม้จะเป็นไปไม่ได้ก็ตาม พร้อมกับอยากให้สังคมเข้าใจ และมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหา คนอยู่กับป่า เพราะเป็นวิถีชีวิตของกลุ่มชาติพันธุ์ ไม่ได้เป็นผู้บุกรุกป่า ตามที่เจ้าหน้าที่พยายามใส่ร้ายแต่อย่างใด

ด้าน พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร รอง อธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า ที่ผ่านมา 5 ปี ตนกับผู้ที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการสืบสวนมาตลอดจนมาพบชิ้นกระดูกกะโหลกศีรษะข้างซ้าย ซึ่งเป็นชิ้นส่วนกระดูกสำคัญที่ทางแพทย์ระบุ ถ้าพบชิ้นส่วนกระดูกส่วนนี้แสดงว่าบุคคลผู้นั้นเสียชีวิตแล้ว ดีเอสไอจะรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อเร่งรัดติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีให้เร็วที่สุด ในการทำงานได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่สอบสวนญาติและบุคคลใกล้ชิดผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม

"วันนี้เจ้าหน้าที่ชุดสอบสวน โดย พ.ต.ท.เชน กาญจนาปัจจ์ ผู้อำนวยการกองปฏิบัติการคดีพิเศษภาค และทีมงาน ลงพื้นที่บ้านโป่งลึก-บางกลอย ตำบลห้วยแม่เพรียง อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี เพื่อสอบพยานที่เป็นชาวบ้าน และกลุ่มญาติของนายพอละจี รักจงเจริญ หรือ บิลลี่ หนุ่มกะเหรี่ยงนักเคลื่อนไหวเรียกร้องต่อสู้เรื่องที่ทำกินในอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เพื่อติดตามคดี หลังจากพบหลักฐานว่าบิลลี่ถูกฆ่าเผายัดถังในพื้นที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน"