ตำรวจ บช.ปส.แถลงจับกุมเครือข่ายยานรก เตรียมลำเลียงไปยังประเทศที่ 3 ยึดเฮโรอีน 105 กิโล อีกคดีซิวสาวเคนยา ซุกโคเคนในจิ๊มิสารภาพสิ้นกลืนลงในช่องท้องอีก 120 ก้อน(เล็ก)
ตำรวจ บก.สปพ.จับกุมเครือข่ายยานรก เตรียมขนไปส่งให้ลูกค้าใน จ.สงขลา และ 3 จังหวัดชายแดนใต้หลังเฝ้าเกาะติดนานกว่า 3 เดือน ได้ผู้ต้องหา 8 คน ยาไอซ์ 600 กก. ยาบ้ากว่า 5.6 ล้านเม็ด เฮโรอีน 15.4 กก. และอื่นๆ อีกหลายรายการ มูลค่าร่วม 2 พันล้านบาท ส่วนอีกคดีทลายเครือข่ายค้ายาบ้าใน อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ได้ของกลางยาบ้าเกือบ 9 แสนเม็ด อยู่ระหว่างตามจับผู้ต้องหาที่หลบหนี
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 2 ก.ย.62 ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด(บช.ปส.) พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. พร้อม พล.ต.ท.ชินภัทร สารสิน ผบช.ปส., พล.ต.ต.พรชัย เจริญวงศ์ รอง ผบช.ปส., พล.ต.ต.สุรศักดิ์ ขุนณรงค์ ผบก.ปส.1, พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผบก.ปส.2, พล.ต.ต.วัชระ ทิพย์มงคล ผบก.ปส.3, พล.ต.ต.บัญชา ศรีพัทยากร ผบก.สกส.บช.ปส., พ.ต.อ.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รอง ผบก.ปส.3 ร่วมกับ กอ.รมน., ป.ป.ส., ป.ป.ง., กรมศุลกากร แถลงผลการจับกุมเครือข่ายลักลอบค้ายาเสพติดรายสำคัญ จำนวน 2 คดี พร้อมของกลางเฮโรอีน จำนวน 105 กิโลกรัม โคเคน หรือโคคาอีน 1,500 กรัม มูลค่ายาเสพติด 106,500,000 บาท ตรวจยึดทรัพย์สินได้อีก 500,000 บาท
คดีแรกเจ้าหน้าที่สามารถจับกุม นายศิริขวัญมิ่งเมือง คำธา อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 169 ม.5 ต.ช่อแล อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ พร้อมของกลางเฮโรอีน 300 แท่ง หนัก 105 กิโลกรัม รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล 6 ล้อ ยี่ห้อฮุนได ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน 1 คัน และโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง โดยสามารถจับกุมได้ที่ห้องเช่าย่านโรงกลึงแห่งหนึ่ง ใน ต.บางหลวง อ.เมือง จ.ปทุมธานี
...
พล.ต.ต.บัญชา กล่าวว่าการจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากชุดจับกุมสืบสวนทราบเบาะแสว่า มีขบวนการค้ายาเสพติดเตรียมจะลำเลียงยาเสพติดมาเก็บพักไว้ที่โกดังเช่าในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี จึงวางกำลังเข้าสกัดกั้นและจับตัวผู้ต้องหาได้ที่ห้องเช่าโรงกลึงดังกล่าว โดยพบของกลางเฮโรอีน จำนวน 5 ลัง อยู่ในท้ายรถยนต์บรรทุกดังกล่าว จากการสอบสวนเจ้าตัวรับสารภาพว่าได้รับฝากเฮโรอีนที่ขนมาจากทางภาคเหนือมาพักไว้ก่อนจะลำเลียงไปยังประเทศที่ 3 เช่น นิวซีแลนด์ ไต้หวัน ออสเตรเลีย และอเมริกา ซึ่งตนได้ทำการแบบนี้มานานหลายปีแล้ว โดยจะได้ค่าจ้างลังละ 50,000 บาท
เบื้องต้น แจ้งข้อหา “มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เฮโรอีน) ไว้ครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต” พร้อมนำของกลางและผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส.ดำเนินคดีตามกฎหมาย ก่อนขยายผลออกหมายจับบุคคลในเครือข่ายและยึดทรัพย์ ตาม พ.ร.บ.มาตรการฯ ต่อไป
พล.ต.ท.ชินภัทร กล่าวเพิ่มเติมว่า เฮโรอีนไม่เป็นที่นิยมในประเทศไทย เนื่องจากเป็นอันตรายถึงขั้นเสียชีวิต และมีวิธีการเสพที่ยุ่งยาก เนื่องจากต้องมีการใช้เข็มฉีดยา ปกติแล้วมักจะถูกส่งออกไปจำหน่ายต่อในต่างประเทศ ส่วนต้นทางการผลิตนั้นมีอยู่แหล่งเดียว (สามเหลี่ยมทองคำ) เพราะสารตั้งต้นเฮโรอีนมาจากฝิ่น
คดีที่ 2 เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัว นางลูซี่ เดอเรมม่า โอมม่า(MRS.LUCY NDEREMA OUMA) อายุ 30 ปี ชาวเคนยา พร้อมของกลางโคเคน 121 ก้อน หนัก 1,500 กรัม และโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง โดยสามารถจับกุมได้ที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ
พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ กล่าวว่า ภายหลังเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมและกรมศุลกากรพบนางลูซี่ ซึ่งต้องสงสัยเป็นเครือข่ายยาเสพติดเดินทางเข้ามาภายในประเทศ จึงได้ติดตามไปยังช่องตรวจ เพื่อตรวจสอบ แต่จากการตรวจสอบไม่พบสิ่งของต้องสำแดง (ช่องเขียว) อาคารผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศ และทำการตรวจสอบกระเป๋าสัมภาระของนางลูซี่ ด้วยเครื่องเอกซเรย์แต่ไม่พบสิ่งของผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจค้นร่างกายจนพบยาเสพติดโคคาอีนถูกพันด้วยเทปกาวจนเป็นก้อนน้ำหนัก 305 กรัม ซุกซ่อนอยู่ภายในช่องคลอด จึงได้ควบคุมตัวมาสอบสวนเพิ่มเติม
จากการสอบสวนนางลูซี่ ให้การรับสารภาพว่า นอกจากยาเสพติดที่ถูกตรวจค้นพบในช่องคลอดแล้ว ตนยังกลืนยาเสพติดลงในช่องท้องอีก 120 ก้อน(เล็ก) น้ำหนัก 1,195 กรัม รวมน้ำหนักยาเสพติด 1,500 กรัม โดยยาเสพติดดังกล่าวตนได้รับมาจากประเทศแถบยุโรป ก่อนจะมาพักยาเสพติดในประเทศแอฟริกาใต้ และมาปล่อยขายในประเทศไทยตามสถานบันเทิงต่างๆ ทั่วประเทศ ซึ่งตนได้ทำมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 ครั้ง โดยมีผู้ว่าจ้างเป็นชาวผิวสี ซึ่งจะได้ค่าจ้างเป็นเงินสกุลดอลลาร์ แต่ผู่ต้องหาไม่ยอมเปิดเผยจำนวนเงิน
เบื้องต้น แจ้งข้อหา “นำยาเสพติดให้โทษประเภท 2 (โคคาอีน) เข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต, และมียาเสพติดให้โทษประเภท 2 (โคคาอีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต” ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส.ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป