ผู้การสระแก้ว เผยประกันจ่ายค่าสินไหมทดแทน เหยื่ออุบัติเหตุสยอง รถตู้ชนประสานงารถพ่วงตายหมู่ 11 ศพ รายละ 3 แสนบาท พบโชเฟอร์เหยียบมา 85 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ด้านขนส่งจังหวัดแจงปมตัดสัญญาณจีพีเอส

กรณีอุบัติเหตุสยอง เมื่อช่วงเช้ามืดวันที่ 18 ส.ค.ที่ผ่านมา รถตู้โดยสารไม่ประจำทางยี่ห้อโตโยต้า สีขาว ทะเบียน 34-0405 กรุงเทพมหานคร ของ หจก.นาวินทราเวล 2016 พุ่งชนประสานงากับรถบรรทุก 18 ล้อ ฮีโน่ ทะเบียน 70-1234 อุตรดิตถ์ ทะเบียนพ่วง 70-1235 อุตรดิตถ์ บนถนนสาย 317 สระแก้ว-จันทบุรี บริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอวังสมบูรณ์ หมู่ 1 ต.วังใหม่ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 11 ศพ บาดเจ็บอีก 4 คน ส่วนใหญ่เป็นแรงงานชาวลาว ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 19 ส.ค.62 พล.ต.ต.สุรจิต ชิงนวรรณ์ ผบก.ภ.จว.สระแก้ว ลงพื้นที่ สภ.วังสมบูรณ์ โดยมี พ.ต.อ.ชัยธนันท์ จิรปัยเศรษฐ์ ผกก.สภ.วังสมบูรณ์ พร้อมคณะเจ้าหน้าที่ตำรวจของโรงพักให้การต้อนรับ

พล.ต.ต.สุรจิต เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนเร่งรัดสอบปากคำพยานที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด พร้อมช่วยเหลือเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิต ซึ่งในเบื้องต้นผู้ประกอบการรถตู้จะรับผิดชอบทั้งหมด และได้รับการประสานจากประกันอุบัติเหตุว่าจะจ่ายค่าสินไหมทดแทนสำหรับญาติผู้เสียชีวิตรายละ 3 แสนบาท

ร.ต.อ.สุชาติ กอแก้วทองมา พนักงานสอบสวน สภ.วังสมบูรณ์ จ.สระแก้ว เผยว่า ได้มีญาติผู้เสียชีวิตชาวลาว จำนวน 3 ราย มาขอใบรับรองการเสียชีวิตของญาติ เพื่อนำไปเป็นหลักฐานในการรับศพผู้ตาย ที่สถาบันนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจเพื่อนำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป

ต่อมาเวลา 11.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางนันทยา ใฝ่เมตตา ขนส่งจังหวัดสระแก้ว ดร.ยุทธศักดิ์ ประเสริฐ หัวหน้ากลุ่มวิชาการขนส่งสระแก้ว นายจรัญ มะคำไก่ ปลัดอำเภอวังสมบูรณ์ นายพิเชษฐ์ รักซ้อน กำนันตำบลวังใหม่ นายธีระยุทธิ์ ถนอมวัฒนา นายช่างหัวหน้าโครงการสระแก้ว-จันทบุรี และเจ้าหน้าที่กรมขนส่งทางบก ทหาร ตำรวจ หน่วยกู้ภัยสว่างวังสมบูรณ์ ร่วมลงพื้นที่จุดเกิดเหตุเพื่อตรวจสอบข้อมูลสภาพถนน และสภาพแวดล้อมเพื่อหาข้อสรุปสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้

...

ดร.ยุทธศักดิ์ ประเสริฐ หัวหน้ากลุ่มวิชาการขนส่งสระแก้ว กล่าวถึงกรณีสื่อบางสำนักนำเสนอข่าวสัญญาณ GPS รถตู้คันดังกล่าวถูกตัดนั้นว่า จริงๆ แล้วเป็นการได้รับข้อมูลข่าวสารที่คลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง ซึ่งจากการตรวจสอบอย่างละเอียดของการใช้จีพีเอสของรถตู้คันดังกล่าว ขอยืนยันว่ารถมีการใช้จีพีเอสได้อย่างถูกต้อง ส่วนที่คลาดเคลื่อนอาจเป็นไปได้ว่า ระบบจีพีเอสขึ้นที่เลขศูนย์นั้น ทำให้เข้าใจว่ามีการแก้ไขจีพีเอส จริงๆ แล้วถ้ารถมีการเคลื่อนตัวจีพีเอสถึงจะขยับขึ้นตามความเร็ว แต่ถ้าเกิดว่ามันอยู่ที่จุดศูนย์ ก็อาจจะเป็นการจอดพักแวะ จอดทานอาหาร จอดเติมน้ำมัน

“จากการตรวจสอบรายละเอียดแล้ว มีการใช้ระบบจีพีเอสตลอด ตั้งแต่วันที่ 17 ส.ค.62 ที่เริ่มรับแรงงานต่างด้าวชาวลาวจนมาถึงจุดเกิดเหตุ มีการใช้ระบบจีพีเอส ต่อเนื่องมาตลอด จนถึงจุดสุดท้ายที่ความเร็ว 85 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จีพีเอสก็ใช้งานปกติ จากการตรวจสอบรถตู้ที่ประสบเหตุแล้วมีการใช้ความเร็วที่ไม่เร็วมาก ส่วนมาตรฐานของรถตู้ก็ไม่ได้บรรทุกผู้โดยสารเกินแต่อย่างใด อยู่ที่ 13 ที่นั่ง รวมคนขับด้วยก็ 14 ที่นั่ง ซึ่งจากการตรวจสอบก็เพิ่งผ่านการตรวจสอบตามระเบียบของทางราชการกรมขนส่งทางบก เมื่อเดือนกรกฎาคม ปี 2562 ที่ผ่านมานี่เอง”

สำหรับเส้นทางจุดเกิดเหตุอยู่ระหว่างก่อสร้าง อยากฝากเตือนประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนให้ใช้ความเร็วในอัตราที่กฎหมายกำหนด อีกอย่างต้องใช้ความระมัดระวังเพื่อเป็นการป้องกัน และช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุเป็นเวลาค่ำมืด มีความเสี่ยงสูงสำหรับผู้ที่ขับขี่ที่ใช้ระยะเวลานานๆ ก็จะทำให้เกิดอาการอ่อนล้า อ่อนเพลียได้ ถ้ารู้ว่าอ่อนล้าอ่อนเพลีย ก็ขอให้พักผ่อนจนกว่าร่างกายจะมีความพร้อมจึงขับรถเดินทางต่อ

นายธีระยุทธิ์ ถนอมวัฒนา นายช่างหัวหน้าโครงการสระแก้ว-จันทบุรี กล่าวว่า สำหรับโครงการก่อสร้างถนนสาย 137 สระแก้ว-จันทบุรี เส้นทางในบางจุดอยู่ระหว่างก่อสร้างสะพาน ก็ได้ทำทางเบี่ยงให้รถวิ่งสวนเลนกันได้ อีกทั้งจะมีป้ายแจ้งเตือนเป็นระยะๆ ยอมรับว่าบางจุดก็อาจมืด ซึ่งมีการพิจารณาว่าจะเพิ่มแสงสว่างเพื่อความปลอดภัยกับผู้ใช้รถใช้ถนน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รถบรรทุกพ่วงคู่กรณี ติดตั้ง GPS กับ บริษัท ฟอร์ทแทร็คกิ้ง ซีสเต็ม จำกัด ความเร็วก่อนเกิดเหตุ คือ ความเร็ว 48 กม./ชม. เวลา 04.06.39  น. ความเร็ว 44 กม./ชม. เวลา 04.04.39 น. ความเร็ว 37 กม./ชม. ไม่พบการตัดสัญญาณ GPS โดยกรมการขนส่งทางบกได้มอบหมายให้สำนักงานขนส่งจังหวัดสระแก้วร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงและติดตามผลทางคดีอย่างใกล้ชิด หากพบว่ามีการกระทำผิดตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบกจะได้พิจารณาลงโทษในทุกกรณีความผิดต่อไป.