กองปราบบุกจับสองผัวเมีย ฟอกเงินให้แก๊งตุ๋นหลอกเหยื่อลงทุนสวนยางพาราในพื้นที่ อ.เต่างอย เสียหาย 1,500 ล้าน ยึดเอกสารสัญญาเงินกู้ โฉนดที่ดิน บัญชีธนาคาร รวมมูลค่ากว่า 200 ล้านบาท พร้อมรวบหัวหน้าแก๊งป่าไผ่ ตัวแสบเมืองสกลนคร ยึดปืนเถื่อน 3 กระบอก ยาบ้าอีก 25 เม็ด
เมื่อวันที่ 17 ส.ค.62 ที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. สั่งการให้ พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น ผกก.3 บก.ป.พ.ต.ท.อนุชา ธนะอุดม, พ.ต.ท.อรรถพล พานประทีป, พ.ต.ท.สิงห์ไชย ฐานไชยสิทธิ์ พ.ต.ท.วิวัฒน์ จิตโสภากุล รอง ผกก.3 บก.ป.พ.ต.ท.สุริยศักดิ์ จิราวัสน์, พ.ต.ท.ประทีป ชูศรี สว.กก.3 บก.ป.นำกำลังเจ้าหน้าที่กว่า 20 นาย จับกุม นายบัวเรียน หรือแป มณีรัตน์ 57 ปี นางใสสว่าง หรือน้อย มณีรัตน์ อายุ 51 ปี สองสามีภรรยา อยู่บ้านเลขที่ 196 หมู่ 6 ต.จันทร์เพ็ญ อ.เต่างอย จ.สกลนคร ตามหมายจับศาลอาญาที่ 960-961/2562 ลงวันที่ 4 ก.ค.2562 ตามลำดับ ในข้อหาร่วมกันฟอกเงิน จับทั้งคู่ได้ที่บ้านพักของผู้ต้องหา
พ.ต.อ.บุญลือ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 16 มิ.ย.2560 เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) นำกำลังจับกุม นางพรพรรณ ศรีสุข อายุ 52 ปี ชาว จ.สกลนคร นายสองจันทร์ ศรีสุข อายุ 57 ปี ชาว จ.สกลนคร นายธีรยุทธ ศรีสุข อายุ 33 ปี ชาว จ.ร้อยเอ็ด และน.ส.โชติรถ แสงมณี อายุ 32 ปี ชาว จ.ร้อยเอ็ด ทั้งหมดเป็นผู้ต้องหาในความผิดร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน หลังร่วมกันก่อเหตุหลอกนักธุรกิจหลายรายให้ร่วมลงทุนซื้อที่ดินทำสวนยางพาราในพื้นที่ อ.เต่างอย จ.สกลนคร
นอกจากนี้ ได้หลอกลงทุนซื้อเศษยางมาทำยางเครปส่งไปขายให้กับบริษัทผลิตยางรถยนต์ เมื่อเหยื่อโอนเงินมาให้ช่วงแรกๆ ได้รับผลกำไรตามที่ตกลง แต่ผ่านไปไม่นานกลุ่มผู้ต้องหาได้เชิดเงินหลบหนีไป รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 1,500 ล้านบาท อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่สามารถยึดรถยนต์ 10 คัน โฉนดที่ดินรวมทั้งเอกสารต่างๆ กว่า 100 รายการ มูลค่าหลายร้อยล้านบาท
...
พ.ต.อ.บุญลือ กล่าวต่อว่า เจ้าหน้าที่ใช้เวลาสืบสวนขยายผลกว่า 2 ปี จนพบว่าผู้ต้องหาขบวนการดังกล่าว ได้ยักย้ายถ่ายเทเงินที่หลอกลวงผู้เสียหายมาได้ ไปที่ นายบัวเรียน และนางใสสว่าง จึงรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับ ก่อนนำหมายศาลเข้าตรวจค้น 3 จุด พร้อมกัน โดยบุกรวบตัวนายบัวเรียนและนางใสสว่าง ที่บ้านเลขที่ 196 หมู่ 6 ต.จันทร์เพ็ญ อ.เต่างอย จ.สกลนคร พร้อมสัญญากู้ยืมเงิน โฉนดที่ดิน สมุดบัญชีธนาคาร เอกสารการโอนเงินถอนเงิน กรมธรรม์ สัญญาซื้อขายที่ดิน กว่า 200 รายการที่เกี่ยวข้องกับผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมก่อนหน้านี้ รวมมูลค่ากว่า 200 ล้านบาท
สอบสวนผู้ต้องหาทั้งสองให้การปฏิเสธ นำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป.ดำเนินคดีต่อไป

ทั้งนี้มีรายงานแจ้งว่า ระหว่างเจ้าหน้าที่ได้ตรวจค้น บ้านเลขที่ 177 หมู่ 12 ต.ห้วยยาง อ.เมืองสกลนคร บ้านพักอีกหลังหนึ่งของนายบัวเรียน และนางใสสว่าง พบนายจิรพันธ์ หรือมอส แพงสี อายุ 21 ปี หัวหน้าแก๊งป่าไผ่ อยู่บ้านเลขที่ 34 หมู่ 12 ต.ห้วยยาง อ.เมืองสกลนคร สอบสวนทราบว่าขอเช่าที่ดินด้านหน้าจากนายบัวเรียน แต่เมื่อตรวจสอบกลับไม่พบสัญญาเช่าแต่อย่างใด จึงตรวจค้นภายในบ้านพบอาวุธปืนไม่มีทะเบียน 3 กระบอก กระสุน 51 นัด ยาบ้าอีก 25 เม็ด
ตรวจสอบประวัติพบ มีพฤติการณ์ซ่องสุมอาวุธ และยาเสพติดในพื้นที่สกลนคร เคยถูกจับกุมคดีฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา พยายามฆ่าและครอบครองอาวุธปืนไม่มีทะเบียน แจ้งข้อหามีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่รับอนุญาต และมียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย นำตัวส่ง สภ.ตาดโตน จ.สกลนคร ดำเนินคดีต่อไป.