ตร.ปราจีนบุรี นำโจรโหดฆ่าชิงทรัพย์ "ตา-ยาย" ขายของชำ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ หลังจับได้กลางดึก เจ้าตัวไม่สะทกสะท้าน รับลงมือคนเดียว โดยมีชาวบ้านให้ความสนใจมุงดูและสาปแช่งจำนวนมาก เนื่องจากเป็นคดีสะเทือนขวัญ ก่อนที่ จนท.จะหิ้วตัวออกไปเกือบที่จะโดนรุมประชาทัณฑ์ ทั้งนี้คนร้ายรายนี้เคยก่อเหตุฆ่าพี่ชายแท้ๆ แล้วได้รับโทษก่อนออกมาก่อคดีอีก
จากกรณีที่มีเหตุคนร้ายฆ่าสองตายายเสียชีวิต 2 ราย ที่ห้องพักเลขที่ 12/5 หมู่ 1 ต.หนองแสง อ.ประจันตคาม คือ นางสาวบุญหลาย จอมวัน อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 60 หมู่ 3 ต.หนองแสง อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี ถูกมีดปลายแหลมขนาดยาว 6 นิ้ว แทงที่บริเวณลำคอด้านซ้ายปักคาลำคอ และมีสายไฟรัดคออยู่ด้วย ส่วนนายสมบูรณ์ ทักษิโณ อายุ 63 ปี ถูกมีดปลายแหลมแทงจนมิดด้ามเข้าที่บริเวณใต้กกหูขวา บริเวณลำคอมีลักษณะถูกปาดเป็นแผลลึก ทั้งสองนอนเสียชีวิตอยู่ข้างที่นอนกลางห้องพัก สภาพศพเน่าเหม็นจนขึ้นอืด ซึ่งสองตายายได้เปิดร้านขายของชำ และมักมีลูกค้ามาซื้อของในช่วงกลางคืนเป็นประจำ

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ประจันตคาม จึงได้ทำการเปิดห้องพักผู้ต้องสงสัยที่พักอยู่ห้องใกล้เคียงกันเข้าไปตรวจสอบภายในห้องพัก พบว่ามีการขนย้ายทรัพย์สินจำนวนหนึ่งออกไปแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจพบปลอกมีดปลายแหลมขนาดเดียวกับมีดที่ใช้ในการก่อเหตุ ประกอบกับทางเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานปราจีนบุรีได้ตรวจสอบสภาพศพผู้เสียชีวิต 2 ตายายที่โดนมีดปลายเหลมแทงจนเสียชีวิต พบว่าองศาการแทงนั้นเป็นฝีมือคนร้ายเพียงคนเดียว
...

ร.ต.อ.สมบัติ วังวล ร้อยเวรสอบสวน สภ.ประจันตคาม ได้ทำการสอบสวนผู้เกี่ยวข้องและได้ติดตามจนทราบว่านายสมพงษ์ไปหลบซ่อนตัวที่โรงแรมบดินทร์จันทราทิพย์ ในเขต อ.ศรีมหาโพธิ และเข้าทำการจับกุมตัวนายสมพงษ์ ภูถนนนอก ได้คาห้องพักเลขที่ 319 พร้อมอาวุธปืนลูกซองสั้นเบอร์ 12 จำนวน 1 กระบอก และเครื่องกระสุนปืน 2 นัด และนำตัวมาสอบสวนที่ สภ.ศรีมหาโพธิ เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา ซึ่งนายสมพงษ์ให้การรับสารภาพว่ากระทำการเพียงคนเดียว

และเมื่อเวลา 09.30 น. วันนี้ 16 ส.ค.62 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ประจันตคาม นำตัวนายสมพงษ์ ภูถนนนอก ผู้ต้องหา ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่เกิดเหตุ โดยมี พล.ต.ต.เชษฐา โกมลวรรธนะ รอง ผบช.ภ.2 พล.ต.ต.จรัล จิตเจือจุน รอง ผบช.ภ.2 เป็นผู้อำนวยการในการทำแผน พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนหนึ่ง โดยมีประชาชนที่สนใจมาดูการทำแผนกันจำนวนมาก เนื่องจากเป็นคดีสะเทือนขวัญและโหดร้ายผิดธรรมชาติของมนุษย์ ท่ามกลางการคุ้มกันอย่างหนาแน่น เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจทำแผนเสร็จ กำลังนำผู้ต้องหาจะขึ้นรถเดินทางกลับ มีญาติและประชาชนที่มาดูการทำแผนกรูเข้าตะโกนด่าและสาปแช่งพร้อมกับจะเข้ารุมประชาทัณฑ์ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจคุ้มกันอย่างแน่นหนาจึงไม่ถึงตัวผู้ต้องหา สามารถนำตัวผู้ต้องหากลับ สภ.ประจันตคาม โดยเรียบร้อย

สำหรับนายสมพงษ์ ผู้ต้องหาในคดีนี้ เคยก่อคดีฆ่าคนตายและรับโทษมาแล้วครั้งหนึ่ง โดยฆ่าพี่ชายแท้ๆ ของตนเอง เมื่อพ้นโทษก็ได้มาก่อคดีนี้อีก ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ด้านพลฯทนงศักดิ์ ทักษิโณ (ลูกชายผู้เสียชีวิต) น.ส.เนตรนภา หลักกรด (แฟนสาว) มาดูการทำแผนของผู้ต้องหาที่ฆ่าพ่อ-แม่ตัวเองอย่างโหดเหี้ยม เผยว่า รู้สึกโล่งใจที่จับฆาตกรได้ ขอขอบคุณทุกสิ่งทุกอย่าง ทุก ๆ คนที่ช่วยให้จับได้ ขณะนี้ต้องรอรับศพก่อนแล้วจะได้ไปทำพิธีทางศาสนา พ่อกับแม่แก่แล้ว ไม่มีทางสู้ พ่อกับแม่เป็นคนดี แล้วมันอายุแค่ 29 ปี ทำไมถึงทำแบบนี้ ทำได้ลงคอ โหดเหี้ยมมาก สายไฟรัดคอ พ่อแม่ไม่มีทางสู้อยู่แล้ว แม่ผลักก็ล้มแล้ว กว่าจะตายก็ทรมานมาก ขอให้โทษประหารอย่างเดียว ขออย่าให้ออกมาอีกเลย ออกมาก็ไปทำกับครอบครัวอื่นอีก อยากให้ประหารชีวิต ไม่อยากให้มีการสูญเสียแบบผมอีก
...

ด้านพล.ต.ต.เชษฐา โกมลวรรธนะ รอง ผบช.ภ. 2 กล่าวว่า นายสมพงษ์ ผู้ต้องหาในคดีนี้ เคยก่อคดีฆ่าคนตายที่เป็นพี่ชายตนเองมาแล้ว ในพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทราและพ้นโทษออกมาก็ได้มาก่อคดีนี้อีก โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าประสงค์ต่อทรัพย์ของผู้ตาย คดีนี้ถือว่าเป็นคดีที่สะเทือนขวัญและโหดเหี้ยม เนื่องจากผู้ต้องหาก่อเหตุฆ่าผู้สูงวัย ทาง ผบช.ภ.2 จึงให้ความสำคัญในการเร่งรัดคดี จนสามารถจับตัวผู้ต้องหาได้ภายในไม่เกิน 24 ชม. โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งข้อกล่าวหาว่า ชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย มีอาวุธปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
...