“ชุดตะวัน” โรงพักหาดใหญ่ บุกค้นบ้านเครือข่ายยานรก รวบหนุ่มพ่อลูกอ่อนวัย 19 สารภาพได้ค่าจ้างมัดละพัน จึงหันมาขายเอง เผยชุดจับกุมสุดสะเทือนใจ ผู้เป็นแม่หลั่งน้ำตา คิดไม่ถึง ลูกชายรับงาน คงอยู่ด้วยกันอีกไม่นาน

เมื่อวันที่ 8 ส.ค.62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ชุดปราบปรามยาเสพติด สภ.หาดใหญ่ หรือชุดตะวัน นำโดย พ.ต.อ.กิตติชัย สังขถาวร ผกก.สภ.หาดใหญ่, พ.ต.ท.ธนวัต เส้งสุย รอง ผกก.สภ.หาดใหญ่, ร.ต.ท.พิชเยศ ชูเมือง หัวหน้าชุดตะวัน, ร.ต.อ.สมคิด เกตุนวล ชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 9 เข้าตรวจค้นบ้านเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดในหมู่บ้านเหมืองใหม่ 1 ต.คลองแห อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พร้อมจับกุมนายอนุพร แก้วผลึก อายุ 19 ปี หรือซันเดย์ หนุ่มพ่อลูกอ่อน ซึ่งทำหน้าที่เก็บและส่งยาเสพติดให้กับลูกค้าตามคำสั่งของเอเย่นต์ที่เป็นเจ้าของยาเสพติด และเริ่มผันตัวเองมาเป็นผู้ค้าทั้งยาบ้าและยาไอซ์ โดยเริ่มขายให้กับกลุ่มเพื่อนและคนรู้จัก

จากการตรวจค้นภายในห้องนอนชั้น 2 ของบ้าน พบยาบ้า 15 ถุง จำนวน 2,792 เม็ด ใบกระท่อม 1 มัด น้ำหนัก 300 กรัม และน้ำต้มใบกระท่อม 1 หม้อ เครื่องชั่งดิจิตอล จำนวน 1 เครื่อง ถุงใช้แบ่งบรรจุยาบ้า และยาไอซ์ จำนวน 50 ใบ

สอบสวนนายอนุพร หรือซันเดย์ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า สาเหตุที่หันมารับจ้างเก็บและส่งยาบ้า เนื่องจากเมียเพิ่งคลอดลูกสาว อายุแค่ 10 กว่าวัน ตนเองไม่มีงานทำ ไม่มีเงินเลี้ยงลูก จึงตัดสินใจรับจ้างเก็บยา โดยทำเป็นครั้งที่ 2 รับยาบ้ามา 2 มัด จำนวน 4,000 เม็ด ได้ค่าจ้าง มัดละ 1,000 บาท แต่ว่าเนื่องจากได้ค่าจ้างน้อย จึงเริ่มหันมาขายเองเพราะมีรายได้ดีกว่า พร้อมปฏิเสธว่าตนเองไม่ได้เสพยาบ้าหรือยาไอซ์ เพียงแต่กินน้ำกระท่อมมา 2-3 ปี

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ขณะที่เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้น มีมารดาที่กำลังอุ้มลูกสาวของนายอนุพร หรือซันเดย์ ผู้ต้องหา ที่เพิ่งคลอดได้เพียง 10 วัน อยู่ในเหตุการณ์ด้วย โดยร้องไห้และเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นเพราะคิดไม่ถึงว่าลูกชายของตัวเองจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด
เนื่องจากที่ผ่านมาคอยเตือนอยู่ตลอด พร้อมยังบอกความจริงกับลูกชายว่า ตนเองนั้นป่วยเป็นมะเร็ง ระยะที่ 3 แล้ว คงอยู่กับลูกอีกไม่นาน พร้อมถามกลับไปว่า “ทำไมลูกทำแบบนี้ ไม่คิดสงสารแม่ สงสารลูกเมียบ้างหรือ”

...

อย่างไรก็ตามเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ยินได้ฟังและเห็นเหตุการณ์ถึงกับสลดใจ แต่ก็ต้องทำตามหน้าที่ โดยได้จับกุมนายอนุพร พร้อมของกลางยาบ้า ดำเนินคดีมียาเสพติดให้โทษประเภที่ 1 (ยาบ้า) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และมียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 5 (ใบกระท่อม) ไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย.