รองผู้การตำรวจอีโอดีเข้าซักถามข้อมูล รูปแบบและชนิดของระเบิดจากตำรวจนครบาล แต่ปัดให้สัมภาษณ์ โดยมีรายงานว่า พบหลักฐานจากระเบิดที่ใช้ป่วนกรุง มีวงจรตั้งเวลาคล้ายกับใช้ก่อเหตุ 3 จังหวัดภาคใต้

เมื่อวันที่ 6 ส.ค.62 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศบริเวณชั้น 4 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บก.สส.บช.น.) ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมายังคงมีฝ่ายสืบสวนชุดคลี่คลายคดีเดินเข้าออกตลอดเวลา รวมถึงทีมพนักงานสอบสวน แต่ไม่ปรากฏนายตำรวจระดับสูงเดินทางมายัง กก.สส.บชน. แต่อย่างใด ทำให้บรรยากาศวันนี้ดูเงียบเหงา

กระทั่งเวลา 14.00 น. ผู้สื่ข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.กำธร อุ่ยเจริญ รอง ผบก.สปพ. พร้อมเจ้าหน้าที่กลุ่มงานเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด หรืออีโอดี เดินทางมายัง กก.สส.บชน. เพื่อซักถามข้อมูลเกี่ยวกับรูปแบบ และชนิดของระเบิดในครั้งนี้ และเปรียบเทียบกับเหตุการณ์ที่เคยเกิดก่อนหน้านี้ทั้งหมด โดยทาง พ.ต.อ.กำธร ขอปฏิเสธที่จะให้ข้อมูลใดๆ บอกแต่เพียงว่าขอให้ผู้บังคับบัญชาให้ข้อมูลเท่านั้น

สำหรับแจ้งเบาะแสพบวัตถุต้องสงสัยนั้น พบว่ามีการแจ้งเกินวันละ 10 ราย ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่ประชาชนจะเกิดความตื่นตัว โดยเฉพาะในช่วง 1-2 สัปดาห์หลังเกิดเหตุ ซึ่งเจ้าหน้าที่หน่วยเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด หรือ EOD ก็พร้อมเข้าตรวจสอบเหตุที่มีการรับแจ้งในทุกจุดตลอด 24 ชั่วโมงอยู่แล้ว และผลจากการเข้าตรวจทุกจุด ตามรายงานยังไม่พบว่ามีจุดใดพบวัตถุอันตรายหรือระเบิด ที่ใกล้เคียงก็เป็นเพียงวัตถุเลียนแบบ หรือวัตถุใกล้เคียงวัตถุอันตราย ซึ่งพิสูจน์แล้วว่าเป็นของกลุ่มวัยรุ่นที่นำไปใช้ก่อเหตุทะเลาะวิวาท แต่ไม่ถึงขั้นนำไปสร้างสถานการณ์ความวุ่นวายแต่อย่างใด

...

ขณะที่รายงานข่าวระบุว่า ข้อมูลจากอีโอดีที่นำมาให้ข้อมูลกับชุดคลี่คลายคดี หลังตรวจสอบที่เกิดเหตุแต่ละจุด พบมีหลักฐานหลายอย่าง หนึ่งในนั้นคือ ไอซี ไทเมอร์ หรือไอซีตั้งเวลา ที่เมื่อนำไปเทียบเคียงกลับพบว่ารูปแบบการประกอบระเบิด และวัสดุที่นำมาใช้ในครั้งนี้คล้ายกับเหตุระเบิดในพื้นที่ 3 จังหวัดภาคใต้แทบจะทั้งหมด ซึ่งข้อมูลทั้งหมดเป็นหนึ่งในพยานหลักฐานสำคัญที่ตำรวจใช้ประกอบสำนวนคดีเพื่อเตรียมขอศาลออกหมายจับผู้ก่อเหตุในคดีนี้

ส่วนแนวทางการสืบสวนจะเน้นไปที่การรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ของ นายลูไซ แซแง และ นายวิลดัน มาหะ ผู้ต้องสงสัยที่ถูกจับกุมได้ เช่น เสื้อผ้าที่สวมใส่และใช้เปลี่ยนเพื่ออำพรางตัวเอง และพยานแวดล้อมที่เกี่ยวข้อง มาประกอบสำนวนการสอบสวนให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน ตามอำนาจในการควบคุมตัว ซึ่งแนวทางการดำเนินคดีสามารถชี้แจงได้ว่า ผู้ต้องสงสัยทั้ง 2 คน เริ่มต้นเข้ามาก่อเหตุอย่างไร และเพราะเหตุใดตำรวจจึงสามารถพิสูจน์ได้ว่าเป็นผู้ก่อเหตุ รวมถึงบุคคลต่างๆ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องที่ให้การช่วยเหลือทั้งทางตรงและทางอ้อม.