ศาลอุทธรณ์ภาค 4 ยกฟ้อง คดี "หมอเปรม" ฟ้อง 10 สท. ในข้อหาหมิ่นประมาท ระบุเป็นกระทำการโดยสุจริต-มิได้กลั่นแกล้ง
เมื่อเวลา 10.00 น วันที่ 31 ก.ค.62 ที่ศาลจังหวัดพล อำเภอพล จ.ขอนแก่น ศาลจังหวัดพลได้นัดอ่านคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ ภาค 4 ในคดีหมายเลขดำที่1395/2560 และคดีหมายเลขแดงที่ 966/2560 โดยมีนายแพทย์เปรมศักดิ์ เพียยุระ หรือหมอเปรม เป็นโจทย์ฟ้อง นายส่งศักดิ์ เกียรติปกรณ์ พร้อมพวกรวม 10 คน ในข้อหาหมิ่นประมาททำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง
โดยศาลอุทธรณ์ภาค 4 ได้ตัดสินยกฟ้องจำเลยทั้ง 10 คน โดยยืนตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้น เนื่องจากศาลเห็นว่ากระกระทำของจำเลยทั้ง 10 คนได้กระทำการโดยสุจริต มิได้มีการกลั่นแกล้ง หรือหมิ่นประมาทต่อโจทย์แต่อย่างใด อีกทั้งเป็นการปกป้องชื่อเสียงขององค์กรอีกด้วย ศาลอุทธรณ์ ภาค 4 จึงตัดสินยกฟ้องในคดีดังกล่าว
สำหรับคดีดังกล่าวนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2559 ซึ่งขณะนั้นนายแพทย์ เปรมศักดิ์ เพียยุระ ซึ่งเป็นโจทย์ ดำรงตำแหน่งเป็นนายกเทศมนตรีเมืองบ้านไผ่ ส่วนจำเลยทั้ง 10 คน ดำรงตำแหน่งเป็นสมาชิกสภาเทศบาลเมืองบ้านไผ่ (สท.)ฝ่ายค้าน ซึ่งก่อนหน้านั้นได้เกิดเหตุการณ์ กรณีมีการเผยแพร่ภาพหมอเปรมนั่งคู่อยู่กับเด็กหญิงอายุ 14 ปี ทางโซเชียล และมีผู้สื่อข่าวจาก 5 สำนักได้ติดตามทำข่าวดังกล่าว จนนำไปสู่เหตุการณ์ที่หมอเปรมจับผู้สื่อข่าวถอดกางเกง จึงทำให้จำเลยทั้ง 10 คน ซึ่งเป็น สท.ฝ่ายค้าน เห็นว่าเรื่องดังกล่าวได้สร้างความเสื่อมเสียชื่อเสียงให้กับหน่วยงาน คือเทศบาลเมืองบ้านไผ่ รวมไปถึงเป็นการสร้างความอับอายให้กับพี่น้องประชาชนชาวอำเภอบ้านไผ่
จำเลยทั้ง 10 ซึ่งเป็น สมาชิกสภาเทศบาลเมืองบ้านไผ่ จึงได้พากันเดินชูป้ายผ้าสีดำ ตัวหนังสือสีขาวขนาดใหญ่ ข้อความว่า “ไว้อาลัยแด่เทศบาลเมืองบ้านไผ่ ขาดภาวะผู้นำประพฤติตัวไม่เหมาะสม ลุแก่อำนาจ ขาดจริยธรรม” โดยเดินถือป้ายไปตามถนนด้านหน้าเทศบาลเมืองบ้านไผ่ พร้อมกับให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนที่มารอทำข่าวว่า รูปภาพที่หมอเปรมถ่ายคู่กับเด็กหญิงอายุ 14 ปีนั้นเป็นภาพการสู่ขอเพื่อแต่งงานตามธรรมเนียมของชาวอีสาน จึงทำให้ไม่เป็นที่พอใจของหมอเปรม และนำไปสู่การฟ้องร้องในเรื่องดังกล่าวขึ้น
...
ทางด้าน นายวัฒนาวุฒิ หอวิจิตร สท.เมืองบ้านไผ่ ซึ่งเป็น 1 ใน 10 กลุ่ม สท.ฝ่ายค้านที่โดนฟ้องในคดีนี้ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนภายหลังทราบคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ ว่า ก่อนอื่นต้องขอขอคุณทางศาลอุทธรณ์ภาค 4 และศาลจังหวัดพล ที่เป็นที่พึ่งและให้ความเป็นธรรมกับพวกตน เพราะการกระทำของพวกตน ศาลก็มองเห็นแล้วว่าพวกตนกระทำไปด้วยความบริสุทธิ์ใจ ไม่เคยมีเรื่องบาดหมางใจกับหมอเปรมมาก่อนแต่อย่างใด ส่วนหมอเปรมจะยื่นศาลฏีกาอีกหรือไม่นั้น พวกตนก็ไม่หวั่นไหวอีกแล้ว ในเมื่อหมอเปรมได้ยอมรับต่อศาลแล้วว่า หมอเปรมได้กระทำผิดจริงกรณีแก้ผ้านักข่าว.