ผบช.สตม.เดินทางมาด่านเชียงแสน ไปติดตามการช่วยเหลือนักธุรกิจที่ถูกเรียกค่าไถ่ที่ สปป.ลาว ล่าสุดมีรายงานว่า คาดว่าทางการลาวอาจจะอนุญาตให้นายสิงห์แก้วกลับไทยพรุ่งนี้ หลังครอบครัวไปรอรับ
กรณี นายสิงห์แก้ว วงศ์ใหญ่ ประธานสมาคมผู้ประกอบการส่งเสริมการเลี้ยงปศุสัตว์ส่งออก อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ถูกคนร้ายเข้าอุ้มลักตัวขณะข้ามไปดูโรงงานฆ่าสัตว์ในเขตเมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว และถูกทำร้ายเอาปืนจ่อศีรษะพร้อมถ่ายคลิปส่งมาให้ญาติดูเพื่อเรียกเงินค่าไถ่ 5 ล้านบาท จนญาติเข้าแจ้งความกับ นายประสงค์ หล้าอ่อน นายอำเภอเชียงแสน และ พ.ต.อ.เอกณสันต์ ศรีสองเมือง ผกก.สภ.เชียงแสน โดยหลังจากนั้นต่อมา จนท.สปป.ลาว ช่วยเหลือนายสิงห์แก้วที่ถูกโจรลักพาตัวไปเรียกค่าไถ่ได้แล้ว และพาตัวมาพบญาติที่กอง บก.ป้องกันความสงบเมืองต้นผึ้ง เพื่อสอบสวนก่อนจึงจะปล่อยตัวกลับไทยได้ ตามที่เป็นข่าวไปแล้วนั้น
เมื่อวันที่ 31 ก.ค. 62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. เดินทางมาถึงสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเชียงแสน นางศรีวรรณ วงศ์ใหญ่ ภรรยานายสิงห์แก้ว วงศ์ใหญ่ พร้อมลูกสาวและลูกชาย ได้มอบกระเช้าดอกไม้แสดงความขอบคุณที่ทางการไทยช่วยเหลือจนพบตัวนายสิงห์แก้ว
...
พล.ต.ท.สมพงษ์ กล่าวว่า ฝ่ายปกครองอำเภอเชียงแสน ได้ชี้แจงในที่ประชุมว่า ทางผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ได้สั่งการให้มีการประสานกับทางการลาวอย่างใกล้ชิด และวันนี้ทางเจ้าแขวงบ่อแก้วได้มีการประชุมบริหารที่แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว จะมีการยกประเด็นเรื่องนายสิงห์แก้วเข้าหารือ และเร่งรัดดำเนินการในฝั่งลาว ส่วนผู้แทนกระทรวงการต่างประเทศ ได้ดำเนินการประสานในช่องทางการทูตไปเรียบร้อยแล้ว แนวการสอบสวนในฝั่งไทย ทาง สภ.เชียงแสน ได้มีการสอบสวนปากคำผู้เสียหาย พยาน เจ้าหน้าที่ สตม. บัญชีคนไทยที่ใช้รับโอนเงินตามที่ฝ่ายคนร้ายให้มา ได้มีการอายัด และออกหมายเรียกไปแล้ว ขณะนี้ฝ่ายสืบสวนกำลังติดตามตัวอยู่
ผบช.สตม. กล่าวอีกว่า ความร่วมมือของทุกฝ่ายในครั้งนี้ ถือเป็นนิมิตหมายที่ดี ทั้งในเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ความใกล้ชิดแน่นแฟ้นระดับเจ้าหน้าที่ รวมไปถึงความร่วมมือทางการค้า การต่อสู้กับองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่จะใช้ 2 ประเทศเป็นฐานในการกระทำความผิดในอนาคตได้อย่างแน่นอน
จากนั้น พล.ต.ท.สมพงษ์ ได้เดินทางไปยังบริเวณด่านพรมแดนสบรวก ไทย-ลาว สามเหลี่ยมทองคำ จุดที่นายสิงห์แก้วเดินทางออกจากประเทศไทย ข้ามแม่น้ำโขงไปยังฝั่งประเทศลาว และตรวจดูการทำงานของเจ้าหน้าที่ ก่อนเดินทางกลับ
ก่อนหน้านั้น นางสาวรสริน วงศ์ไหญ่ ลูกสาวนายสิงห์แก้วได้เข้าพบ ร.ต.อ.ประสงค์ สมพรเสริฐ พนักงานสอบสวน สภ.เชียงแสน เพื่อลงบันทึกประจำวันขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจประสานไปยังประเทศลาว เพื่อขอรับตัวนายสิงห์แก้ว วงศ์ใหญ่ กลับมารักษาตัวที่ประเทศไทย เนื่องจากนายสิงห์แก้วป่วยมีโรคประจำตัว เป็นโรคความดันโลหิตสูง เส้นเลือดฝอยในสมองแตก ซึ่งต้องรับประทานยาอย่างต่อเนื่อง หลังจากเกิดเหตุนายสิงห์แก้วก็ไม่ได้รับประทานยาเลย เกรงว่าจะได้รับอันตราย จึงขอลงบันทึกไว้เพื่อนำหลักฐานไปความช่วยเหลือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประสานไปยังประเทศลาวเพื่อรับตัวนายสิงห์แก้วกลับมารักษาตัวที่ประเทศไทย
ด้าน นางศรีวรรณ ภรรยานายสิงห์แก้ว กล่าวว่า วานนี้ (30 ก.ค.) ได้พบกับนายสิงห์แก้วสามีของตน ตนและลูกๆ รู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก ตลอดระยะเวลา 2 วันที่ผ่านมาไม่ทราบชะตากรรมของสามีเลย ไม่รู้เป็นตายร้ายดีอย่างไร พอได้พบก็รู้สึกดีใจที่สุด ถึงแม้จะมีเวลาแค่ไม่นานเพราะทางการลาวนำตัวสามีไปสอบปากคำต่อ โดยตอนนี้ก็ภาวนาว่าขอให้ทางการลาวอนุญาตให้นำตัวสามีกลับมารักษาตัวที่ประเทศไทย
...
ล่าสุด เมื่อเวลา 16.30 น. รายงานข่าวแจ้งว่า ภรรยานายสิงห์แก้วและลูกๆ ได้เดินทางข้ามฝั่งไปยังแขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว แล้วเพื่อไปพบกับนายสิงห์แก้ว เบื้องต้นคาดว่าทางการลาวอาจจะอนุญาตปล่อยตัวกลับมาประเทศไทยได้ในวันพรุ่งนี้ (1 ส.ค.).