ตำรวจยังให้น้ำหนักเรื่อง "ทะเลาะวิวาท" ลูกน้อง "แจ๊ส ชวนชื่น" ตลกดังถูกเพื่อนบ้านใช้กระถางต้นไม้ทุบหัวตายหน้าบ้าน หลังตามมาเคลียร์เรื่องชนแล้วหนี รอหลักฐานยื่นศาลขอหมายจับ


ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ วันที่ 14 ก.ค. พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงความคืบหน้ากรณี ลูกน้อง "แจ๊ส ชวนชื่น" ถูกทำร้ายจนเสียชีวิตในพื้นที่ สน.มีนบุรี ว่า สอบสวนเบื้องต้นเกิดจากการตกลงความเสียหายเกี่ยวกับกรณีรถชนแล้วตกลงกันไม่ได้จึงเกิดเหตุดังกล่าวขึ้น แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ได้ตัดประเด็นอื่นทิ้งไป

“คดีนี้คืบหน้าไปมาก พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำพยานไปแล้วหลายปาก รวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง รอผลการตรวจพิสูจน์จากแพทย์และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน พร้อมจะไปดำเนินการยื่นคำร้องต่อศาลออกหมายจับผู้ก่อเหตุ เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนระดมกำลังลงพื้นที่ออกติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดี”

ทั้งนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้กำชับให้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนในทุกคดี ด้วยความถูกต้อง รวดเร็ว เป็นธรรม ตามหลักกฎหมาย อาศัยพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์หรือพยานหลักฐานที่ชี้ถึงตัวผู้กระทำความผิดเป็นสำคัญ และต้องสามารถนำผู้ก่อเหตุมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมให้ได้โดยเร็ว เพื่อเยียวยาความเสียหาย และสร้างความเชื่อมั่นให้กับพี่น้อง

สำหรับคดีดังกล่าว เมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 14 ก.ค. ตำรวจพบศพชายถูกกระถางต้นไม้ทุบใบหน้า เสียชีวิตอยู่ใกล้บ้านเลขที่ 41/39 หมู่บ้านคาซ่าลีน่า 1 ซอยนิมิตรใหม่ 14 แขวงทรายกองดิน เขตคลองสามวา กรุงเทพฯ โดยที่เกิดเหตุอยู่ใกล้หน้าบ้าน

ทราบชื่อผู้ตายคือนายพรชัย ดีเสือ อายุ 37 ปี เป็นคนงานของแม่ยายแจ๊ส ชวนชื่น ซึ่งทำงานล้างเครื่องจักรทำงานในบ้านตลกชื่อดัง สภาพศพสวมเสื้อยืดสีขาว กางเกงสีครีม ไม่สวมรองเท้า นอนหงายจมกองเลือดเสียชีวิตอยู่ข้างรถยนต์ฮุนได สีดำ ทะเบียน ฮร 474 กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นรถของแจ๊ส ชวนชื่น โดยรถมีรอยกระจกแตกร้าวที่ด้านหน้าฝั่งคนขับ

...

ที่หน้าบ้านเลขที่ 41/39 ซึ่งอยู่ติดกันกับบ้านของแจ๊ส พบร่องรอยการทะเลาะวิวาท มีกระถางต้นไม้ขนาดประมาณ 10 นิ้ว แตกกระจัดกระจาย มีรอยกองเลือด รองเท้าแตะของผู้ตาย นอกจากนี้ พบปืนพกแบบบีบีกันดัดแปลงที่สามารถใส่ลูกกระสุนจริงได้ตกอยู่ในจุดเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่จึงกั้นบริเวณไม่ให้ผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปในจุดเกิดเหตุและเก็บหลักฐานทั้งหมด สืบสวนจนทราบว่าผู้ก่อเหตุคือนายเสฎฐวุฒิ จิรัฐยารังษี อายุ 36 ปี เจ้าของบ้านเลขที่ 41/39 ซึ่งได้หลบหนีไปหลังเกิดเหตุ

จากการสอบสวนพยานแวดล้อม ให้การว่า นายเสฎฐวุฒิ ผู้ก่อเหตุได้ขับรถยนต์มิตซูบิชิ แลนเซอร์ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน กจ 2755 สระแก้ว ไปเฉี่ยวชนท้ายรถเพื่อนคนตาย (ไม่ทราบทะเบียน) บริเวณจุดกลับรถใกล้ปากซอยนิมิตรใหม่ 14 จนกันชนหน้ารถของนายเสฎฐวุฒิ เกือบจะหลุดก่อนจะรีบขับรถหลบหนีเข้าบ้านโดยมีสีของกันชนรถของคู่กรณีติดมาด้วย จากนั้นผู้เสียหายและผู้ตายได้ขับตามกันมาที่บ้านของผู้ก่อเหตุเพื่อจะเคลียร์เรื่องชนแล้วหลบหนี แต่ทางนายเสฎฐวุฒิถือปืนดัดแปลงมาทะเลาะวิวาทกันที่หน้าบ้าน แต่ปืนยิงไม่ออก จึงเอากระถางต้นไม้ทุบใส่หัวผู้ตายพร้อมเอาไม้ตีจนผู้ตายกระเสือกกระสนไปสิ้นใจข้างรถของตลกชื่อดัง หลังเกิดเหตุผู้ก่อเหตุได้หลบหนีไป