คนร้ายเหี้ยม โรยตัวจากหลังคากระเบื้อง บุกฆ่าโหดลูกจ้างสาวร้านข้าวแกงอิสลามในเขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก มีดแทงหน้าอก 3 แผล จากนั้นใช้สายไฟพัดลมรัดคอซ้ำ ชิงสร้อยคอ นาฬิกาข้อมือหลบหนีไป
เมื่อเวลา 20.30 น. วันที่ 9 ก.ค.62 พ.ต.อ.ศุภกร พึ่งรศ ผกก.สภ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส รับแจ้งมีเหตุผู้เสียชีวิตอยู่ในห้องนอนภายในร้านจำหน่ายข้าวแกงอิสลามไม่มีชื่อ ซึ่งตั้งอยู่เลขที่ 18 ถ.ประชาวิวัฒน์ ซอย 3 เขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก จึงพร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิกู้ภัยธารน้ำใจสุไหงโก-ลก รุดเดินทางไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุ พบร้านดังกล่าวเป็นห้องแถวชั้นเดียว โดยเจ้าของร้านได้เปิดประตูเอาไว้ และเจ้าหน้าที่ได้เดินเข้าไปตรวจสอบภายในห้องพัก ซึ่งอยู่ด้านหลังของร้าน พบศพนางซูไฮณี วี อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 139 ม.1 ต.ละหาร อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส สภาพนอนหงายจมกองเลือดอยู่ที่พื้นห้อง โดยที่ลำคอมีสายไฟจากพัดลมรัดคอไว้ และที่บริเวณหน้าอกมีร่องรอยถูกมีดแทง จำนวน 3 แผล ใกล้กันพบมีดสำหรับปลอกผลไม้ด้ามสีเหลือง ยาวประมาณ 5 นิ้ว ตกอยู่ข้างศพ โดยเฉพาะในห้องที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ยังพบหลังคากระเบื้องมีร่องรอยถูกงัดและเปิดอยู่จำนวน 2 แผ่น

...
จากการตรวจสอบจุดเกิดเหตุ ยังพบว่ามีร่องรอยคล้ายการต่อสู้ เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บรวบรวมหลักฐานในที่เกิดเหตุ ก่อนที่จะมอบศพผู้เสียชีวิตให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิกู้ภัยธารน้ำใจสุไหงโก-ลก ส่งโรงพยาบาลสุไหงโก-ลก เพื่อให้แพทย์ทำการชันสูตรพลิกศพอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนที่จะมอบให้ญาติรับศพไปประกอบพิธีทางศาสนา
สอบสวนทราบว่า นางซูไฮณี ผู้เสียชีวิตได้มาสมัครเป็นลูกจ้างที่ร้านขายข้าวแกงแห่งนี้ ซึ่งเปิดมาได้ประมาณเกือบ 1 เดือน โดยนางซูไฮณี จะนอนเฝ้าอยู่ที่ร้าน ส่วนเจ้าของร้านเมื่อจำหน่ายอาหารแล้วเสร็จจะกลับไปนอนที่บ้านพัก ซึ่งก่อนที่จะรับแจ้งมีเหตุพบผู้เสียชีวิตนั้น เจ้าของร้านได้มาที่ร้านและเรียกผู้เสียชีวิตให้เปิดประตู แต่ผู้เสียชีวิตไม่ได้เดินมาเปิดแต่อย่างใด แถมเงียบหายไป เจ้าของร้านจึงได้ใช้กุญแจเปิดเข้าไป กระทั่งพบผู้เสียชีวิตนอนจมกองเลือดอยู่ โดยสร้อยคอที่ใส่ไว้และนาฬิกาข้อมือได้หายไป จึงแจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบดังกล่าว
ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า เป็นเหตุประสงค์ต่อทรัพย์ ที่คนร้ายได้งัดกระเบื้องหลังคาลงมา เมื่อผู้เสียชีวิตขัดขืนจึงได้ถูกคนร้ายใช้มีดแทงและใช้สายไฟฟ้าของพัดลมรัดคอ เพื่อปกปิดความผิดก่อนที่จะหลบหนี แต่ถึงอย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะสอบปากคำเจ้าของร้านและผู้ที่เกี่ยวข้องอย่างละเอียดอีกครั้ง ในการติดตามตัวคนร้ายมาลงโทษตามกฎหมายต่อไป.