จนมุมแล้ว "เดี่ยว เมืองนนท์" อาชญากรตัวกลั่น ทั้งค้ายาเสพติด อุ้มเหยื่อทวงหนี้ ตร.ดักตะครุบคาถนนขณะนำยาบ้ามาส่งพร้อมลูกน้อง เผยพฤติกรรมเลียนแบบตี๋ใหญ่ นอนริมน้ำ พกปืน 2 กระบอก 

เวลา 06.00 น.วันที่ 19 มิ.ย. ที่ สน.บางโพ พ.ต.อ.อิทธิเชษฐ์ วงษ์หอมหวล ผกก.สน.บางโพ พ.ต.ท.บุรี ศรีหล้า รอง ผกก.สส.สน.บางโพ และ พ.ต.ต.สุรชัย ทองสำลี สว.สส.สน.บางโพ และเจ้าหน้าที่ฝ่านสืบสวน สน.บางโพ นำกำลังเข้าจับกุมตัวนายปัญญา ชมปั้นทอง อายุ 35 ปี ฉายา "เดี่ยว เมืองนนท์" ผู้ต้องหาหัวหน้าแก๊งผู้มีอิทธิพลรับอุ้มทวงหนี้ชื่อดังเมืองนนทบุรี และนายอำนวย สุดใจ อายุ 28 ปี ลูกน้องของนายเดี่ยว พร้อมของกลาง ยาบ้า 4,000 เม็ด และยาไอซ์ น้ำหนัก 35 กรัม โดยสามารถจับกุมได้ภายในหมู่บ้านพฤกชลดา ต.บ้านใหม่ อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี

พ.ต.อ.อิทธิเชษฐ์ กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจาก พล.ต.ต.เสนิต สำราญสำรวจกิจ ผบก.น.1 และพ.ต.อ.นครินทร์ สุคนทวิท รอง ผบก.น.1 ได้ให้ระดมกวาดล้างอาชญากรรมทุกรูปแบบ โดยเฉพาะผู้มีอิทธิพล ซึ่งผู้ต้องหา มีฉายาว่า "เดี่ยว เมืองนนท์" เป็นผู้ต้องหารายสำคัญ ที่ก่อเหตุในพื้นที่ จ.นนทบุรี ตลอดจนใน กทม.เป็นผู้มีอิทธิพลและมีพฤติการณ์ค้ายาเสพติด ออกไปไหนมาไหนมักจะมีบริวารลูกจำนวนมาก ที่ต้องขับรถนำดูต้นทาง และปิดท้าย ไม่เกรงกลัวกฎหมาย หากใครเบี้ยวค่ายาเสพติดจะพาลูกน้องพร้อมอาวุธออกไปข่มขู่ทำร้าย หนำซ้ำเจ้าตัวมี "ตี๋ใหญ่" เป็นไอดอล มักพกปืน 2 กระบอกติดตัวตลอด และจะพักอาศัยหลับนอนในสถานที่ใกล้ริมน้ำ หากมีตำรวจเข้ามาจะลงไปอยู่ในน้ำ และใช้อาวุธปืนคู่กายต่อสู้ โดยประกาศไว้ว่า "จะไม่ยอมให้ตำรวจจับโดยดี" จึงทำให้ทางตำรวจต้องใช้ความระมัดระวัง

พ.ต.อ.อิทธิเชษฐ์ กล่าวต่อว่า นายปัญญาเคยได้ร่วมกับพวก รวม 5 คน ก่อเหตุใช้อาวุธปืนข่มขู่ อุ้มตัวนายพีระ แมนสมบัติ อายุ 51 ปี ผู้รับเหมาก่อสร้าง ไปจากบ้านพักในย่านเกียกกาย เขตดุสิต กทม.เพื่อไปเคลียร์หนี้สินเป็นเงิน 1 แสนบาท ที่ผู้เสียหายติดค้างกับเจ้าหนี้ ในบ้านพักของนายเดี่ยว ย่านวัดกำแพง จ.นนทบุรี เหตุเกิดเมื่อวันที่ 31 ธ.ค.2558 จากนั้นทางตำรวจได้ขออนุมัติหมายจับไว้ ตลอดจนกลุ่มของคนร้าย มักออกตระเวนชิงทรัพย์จนสร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนจำนวนมาก จนกระทั่งได้เบาะแสว่านายปัญญา จะเดินทางมาพร้อมลูกน้อง เพื่อรับยาเสพติดภายในหมู่บ้านพฤกชลดา ต.บ้านใหม่ อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี จึงวางแผนวางกำลังดักทางเข้าออกหมู่บ้านแห่งนี้

...

พ.ต.อ.อิทธิเชษฐ์ กล่าวอีกว่า ต่อมาพบว่ามีผู้สงสัยรูปพรรณตรงตามที่สายลับระบุ ขับขี่รถ จยย. ยามาฮ่า รุ่นอาร์15 สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน 4 กศ8386 กรุงเทพมหานคร จึงแสดงตัวเพื่อจับกุม แต่ทว่าเจ้าตัวขับขี่รถ จยย.พุ่งเข้าชนตำรวจ จนได้รับบาดเจ็บ ทางกำลังที่เหลือจึงช่วยกันสกัดจับจนสามารถควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 รายไว้ได้ และพบยาเสพติดของกลางอยู่ในถุงกระดาษที่ผู้ต้องหาถือมาด้วย แต่กลุ่มรถนำ ที่เป็นลูกน้องของนายเดี่ยวสามารถหลบหนีไปได้

จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การยอมรับสารภาพว่า ยาเสพติดที่พบเป็นของตนจริงโดยจะนำไปปล่อยขายให้กับวัยรุ่นในพื้นที่ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหา "สมคบกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดฯ, ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท1 (ยาบ้า,ยาไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย" ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบประวัติพบว่านายเดี่ยว ยังมีหมายจับอีก 2 หมาย คือคดี "ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่น" และ "รับของโจร" ซึ่งทางตำรวจจะทำการสอบสวนเพื่อขยายผลทางคดีอีกครั้ง