“หนุ่มเพื่อนบ้าน” ยอมเปิดปากรับสารภาพฆ่า สาวรุ่นวัย 18 ปี เพื่อชิงทรัพย์ หลังจำนนต่อหลักฐานภาพจากกล้องวงจรปิดขณะนำทองเหยื่อไปขาย และดีเอ็นเอตรงกันกับในที่เกิดเหตุ ขณะที่ญาติยังไม่ปักใจเชื่อ คนร้ายลงมือก่อเหตุเพียงคนเดียว

จากกรณีพบศพ น.ส.จรินยา ช่วยพยัคฆ์ หรือน้องปลา อายุ 18 ปี อยู่บ้านเลขที่ 98 หมู่ที่ 5 ต.ทุ่งกง อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี เสียชีวิตในลักษณะถูกไฟเผาไหม้เกรียมทั้งตัวกระดูกขา แขน ด้านซ้ายหัก และกระโหลกด้านซ้ายมีรอยร้าว ด้านบนมีรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ ทะเบียน คบษ 382 สุราษฎร์ธานี ถูกไฟเผาทั้งคันทับร่างผู้ตายอยู่ ตกอยู่ในป่าข้างทางถนนสายห้วยโศก-ห้วยลึก หมู่ ที่ 12 ต.ช้างขวา อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี เสียชีวิตมานานกว่า 4 วันกว่าจะมามีผู้พบศพ โดยเหตุเกิดช่วงเย็นของวันที่ 17 พ.ค.ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่างสุดเมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 25 พ.ค. ที่สภ.กาญจนดิษฐ์ พล.ต.ต.อภิชาติ บุญศรีโรจน์ ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.เชิดพงษ์ ชิวปรีชา รอง ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี พ.ต.อ.วิรุฬห์ สุวรรณวงศ์ รอง ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี พ.ต.อ.สมบัติ ฉ่ำแสง ผกก.สภ.กาญจนดิษฐ์ พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน นำตัวนายพีระพล นวลเสน่ห์ หรือฤทธิ์ อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 223 ม.8 ต.ช้างซ้าย อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี เลขที่ 153/2562 ในข้อหาชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ซ่อนเร้นย้ายหรือทําลายศพหรือส่วนของศพเพื่อปิดบังการเกิด การตายหรือเหตุแห่งการตาย มาสอบปากคำเพิ่มเติม

พ.ต.อ.สมบัติ กล่าวว่า จากการสอบสวนนายพีระพล นวลเสน่ห์ หรือฤทธิ์ ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุจริง เพราะประสงค์ต่อทรัพย์สินที่ผู้ตายสวมใส่ คือสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท 1 เส้น และแหวนทอง 1 สลึงจำนวน 1 วง โดยก่อนเกิดเหตุได้ดักเจอกับผู้ตายตรงจุดเกิดเหตุ จากนั้นพยายามจะชิงทรัพย์แต่ผู้ตายขัดขืนจึงได้ใช้เท้าถีบทั้งคนทั้งรถตกลงไปในร่องข้างถนน จากนั้นได้ลงไปทำร้ายร่างกาย บีบคอปลดทรัพย์สินแล้วนำไปขาย ก่อนจะกลับมาเผาร่างในซ้ำในช่วงเวลา 23.00 น. ของวันเกิดเหตุ ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ในชั้นพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีต่อไป

...

รายงานข่าวแจ้งว่า ขณะเจ้าหน้าที่นำตัวนายพีระพลมาสอบปากคำ ผู้ต้องหาได้ให้การปฏิเสธ และกล่าวอ้างว่าบาดแผลรอยขีดข่วนหลายแห่งตามร่างกาย เกิดจากการไล่จับตะกวดในสวนยางพารา แต่เมื่อส่งตัวตรวจดีเอ็นเอ พบว่าตรงกับหลักฐานที่ตรวจพบในที่เกิดเหตุ และกล้องวงจรปิดในร้านทองในพื้นที่ สภ.ขุนทะเล อ.เมืองสุราษฎร์ธานี จับภาพนายพีระพล ขณะนำสร้อยทองและแหวนของเหยื่อไปขาย

ด้านนายสำรวม นวลเสน่ห์ พ่อของนายพีระพล ผู้ต้องหา ที่เดินทางมารอบุตรชายสอบปากคำกับทางเจ้าหน้าที่ หลังทราบว่าบุตรชายตกเป็นผู้ต้องหาและถูกอนุมัติหมายจับ 3 ข้อหา ถึงกับเข่าทรุดล้มลงกองที่พื้นญาติต้องรีบเข้าไปพยุงช่วยเหลือหามขึ้นรถกระบะกลับบ้านทันที ขณะที่นางจริยา ปานริน อายุ 57 ปี ยายของ น.ส.จรินยา เปิดเผยขณะเดินทางไปดูหน้าผู้ต้องหาหน้าห้องสอบสวน สภ.กาญจนดิษฐ์ ว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่เชื่อว่านายพีระพล หรือ ฤทธิ์ เพื่อนบ้านวัย 27 ปีจะเป็นผู้ก่อเหตุเพียงลำพัง แม้ทางตำรวจจะมีพยานหลักฐาน มัดตัวคนก่อเหตุก็ตาม อยากถามผู้ก่อเหตุว่า ทำอย่างนี้ทำไม เพราะอะไร เพราะการกระทำมันโหดเหี้ยมมาก.