หนุ่มใหญ่พรหมพิราม เมาได้ที่แขวะเพื่อนยุ่งกับเมีย ฉุนคว้าขวานเงื้อจะฟัน ถูกเแย่งกลับ จามหัวเลือดอาบ ยังไม่หยุดคิดสู้ จามซ้ำอีกที หัวแบะดับอนาถ

เมื่อเวลา 20.00 น.วันที่ 30 เม.ย.62 พ.ต.ท.ชูชีพ พุ่มเฉี่ยว สว.(สอบสวน) สภ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก รับแจ้งจากศูนย์ปฏิบัติการรับแจ้งเหตุฉุกเฉิน 191 พิษณุโลก ว่า มีเหตุคนถูกทำร้ายร่างกายเสียชีวิต อยู่หน้าบ้านเลขที่ 44/2 หมู่ 6 ต.ท่าช้าง อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก ไปตรวจสอบพร้อมกับ พ.ต.อ.สรกฤษณ์ น่วมด้วง ผกก.สภ.พรหมพิราม พ.ต.ท.วิเชียร ทองน้อย รอง ผกก.(สส.) และตำรวจชุดสืบสวน พ.ต.ท.หญิงสุนันทา ศรีพันนาม นวท.สบ 3 กลุ่มงานตรวจสถานที่เกิดเหตุ ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 6 แพทย์เวร รพ.พรหมพิราม และเจ้าหน้าที่กู้ภัยบูรพา

ที่เกิดเหตุพบศพผู้เสียชีวิตนอนหงายจมกองเลือด อยู่หน้าบ้านไม้ชั้นเดียวยกพื้นสูง หลังคามุงสังกะสี ทราบชื่อผู้ตายคือ นายบุญเรือง พุ่มพวง อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 60/2 หมู 6 ต.พรหมพิราม อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก สภาพศพไม่สวมเสื้อ ใส่กางเกงขาสั้นลายดอกสีส้มดำ มีบาดแผลขนาดใหญ่ เนื่องจากถูกของมีคมฟันที่ศีรษะข้างซ้าย คาดเสียชีวิตมาแล้ว ไม่ต่ำกว่า 4 ชั่วโมง นอกจากนี้บนบ้านที่เกิดเหตุ ยังพบขวานเปื้อนเลือด 1 ด้าม ตำรวจจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

จากการสอบสวน น.ส.บุญช่วย เรือนก้อน ผู้โทรศัพท์แจ้งเหตุ ทราบว่า ผู้พบศพคนแรก คือ น.ส.น้ำฝน เรือนก้อน พี่สาวตน ซึ่งมาที่บ้านเกิดเหตุดังกล่าว เพื่อมาหา นายบุญยก เรือนก้อน ซึ่งเป็นพี่ชายตน แล้วพบคนนอนจมกองเลือดอยู่ แต่ไม่กล้าเข้ามาดูใกล้ๆ และยังคิดว่าผู้ตายเป็น นายบุญยก จึงรีบไปแจ้งตนที่บ้านให้มาดู ก่อนแจ้งเหตุให้ตำรวจทราบ ส่วน นายบุญยก อยู่ที่บ้านของตน ตำรวจชุดสืบสวนจึงเดินทางไปที่บ้านของ น.ส.บุญช่วย ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านเกิดเหตุ ประมาณ 800 เมตร พบ นายบุญยก นั่งอยู่บนบ้านจึงควบคุมตัวมาสอบสวนปากคำ ที่ สภ.พรหมพิราม

...

ด้าน นายบุญยก ให้การกับตำรวจว่า ช่วงเวลาประมาณ 10.00 น.วันนี้ (30 เม.ย.) นายบุญเรือง ผู้ตายพร้อมกับ นายสมโภช ได้มาหาตนที่บ้าน และชวนตนไปซื้อเบียร์พร้อมกับสุรา 40 ดีกรี โดย นายสมโภช จะให้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ แต่ยอดเงินในบัตรไม่มี ตนจึงขอซื้อเชื่อกับเจ้าของร้านที่รู้จักกันให้แทน จากนั้นก็พากันมานั่งกินที่บ้านของตน โดย นายสมโภช ดื่มเบียร์ ส่วน นายบุญเรือง นำสุรา 40 ดีกรีใส่โหลยาดองที่ถือติดมือมาดื่ม พร้อมชักชวนตนว่าสมุนไพรในโหลมีสรรพคุณด้านเพิ่มพลังทางเพศ แต่ตนไม่ดื่มด้วยเพราะหยุดดื่มสุรามานานแล้ว พอว่างจากการรดน้ำในแปลงผักด้วยสปริงเกอร์ ก็มานั่งคุยกับทั้ง 2 คน กระทั่ง นายสมโภช ดื่มเบียร์จนหมด จึงขอตัวกลับบ้านไปก่อน ส่วน นายบุญเรือง ที่เมามาก่อนหน้านี้แล้ว เริ่มพูดจาแขวะถามตนว่า "เมียผมมาหาพี่แล้วเป็นไงมั่ง" ตนก็ตอบโต้ไปว่า เมียของ นายบุญเรือง ไม่เคยมาหาตนเพียงลำพัง จะมาก็มาพร้อมกับ นายบุญเรือง และ นายสมโภช เท่านั้น แต่ นายบุญเรือง ก็ยังเซ้าชี้ ตนพยายามปฏิเสธเพราะไม่เคยคิดไม่ดีกับเมียของนายบุญเรือง และไม่เคยยุ่งเกี่ยวอะไรด้วย จู่ๆ นายบุญเรือง ก็แสดงท่าทางโมโหด้วยฤทธิ์สุรา แล้วคว้าขวานของตนที่วางอยู่บนบ้าน เงื้อขวานทำท่าจะฟันหัวตน ตนจึงจับแขนนายบุญเรืองบิดจนขวานหลุดมือ จากนั้นตนก็คว้าขวานด้ามดังกล่าว ฟันไปที่ศีรษะ นายบุญเรือง 1 ครั้ง แต่ นายบุญเรือง ยังมีทีท่าจะต่อสู้จึงตัดสินใจฟันไปที่เดิมอีก 1 ครั้ง ก่อนจะถีบร่างของ นายบุญเรือง ร่วงลงจากบ้าน แล้วตนก็ขับรถจักรยานยนต์ไปที่บ้านของน้องสาว กระทั่งตำรวจตามไปจับกุมตัว โดยพนักงานสอบสวนได้ควบคุมตัว นายบุญยก ไว้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป