แก๊ง 18 มงกุฎสุดแสบ อ้างเป็นทายาทพันล้าน แพทย์หญิงถูกระเบิดตายที่ยะลา หลอกเอาเงินหญิงชาวนนทบุรี ที่เพิ่งได้ค่าเวนคืนรถไฟฟ้าสายสีม่วงหลายร้อยล้าน โดยโอนไปทั้งหมด 597 ครั้ง เป็นเงินกว่า 232 ล้าน
เวลา 10.30 น. วันที่ 2 เม.ย. ที่กองปราบปราม พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. พ.ต.อ.เนติ วงษ์กุหลาบ ผกก 5 บก.ป. พ.ต.ท.อนุชา ศรีสำโรง รอง ผกก.5 บก.ป. พ.ต.ต.ฐิติวัสส์ แซมเขียว สว.กก.5 บก.ป. ร่วมแถลงจับกุม น.ส.สุภิช นิมิตนิวัช อายุ 61 ปี น.ส.ผาณิตา นารถไพรินทร์ อายุ 52 ปี นายชัยชนะ จันทรา อายุ 45 ปี และน.ส.มาริษา โสมบ้านกรวย อายุ 42 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนครปฐม ที่ จ.103-106/2562 ลงวันที่ 21 มีนาคม 2562 ผู้ต้องหาคดี "ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น" จับได้ที่บ้านพักของผู้ต้องหาที่ จ.ราชบุรี นนทบุรี และสุพรรณบุรี ตามลำดับ
พล.ต.ต.จิรภพ เปิดเผยว่า ปี 2559 กลุ่มผู้ต้องหารู้ว่า ผู้เสียหายเป็นหญิง อายุ 59 ปี เพิ่งจะได้เงินจากการขายที่ดินย่านนนทบุรี แนวการก่อสร้างรถไฟสายสีม่วงมาหลายร้อยล้านบาท โดยมีผู้แนะนำให้รู้จักน.ส.สุภิช ผู้ต้องหาที่ 1 จากนั้นกลุ่มผู้ต้องหานี้ได้ร่วมกันกุเรื่องว่า น.ส.ผาณิตา หนึ่งในผู้ต้องหา กำลังจะได้มรดก 1,000 ล้านบาท จากแพทย์หญิงรายหนึ่งที่เสียชีวิตจากเหตุถูกระเบิดจากเหตุการณ์ไม่สงบในจ.ยะลา และมรดกทั้งหมดมี น.ส.ผาณิตา เป็นผู้มีสิทธิ์แต่เพียงผู้เดียว แต่ไม่มีเงินค่าใช้จ่ายในเรื่องการคืนมรดกจำนวน 235 ล้านบาท
พล.ต.ต.จิรภพ กล่าวต่อว่า กลุ่มผู้ต้องหาทั้ง 4 ได้เริ่มเล่นละครฉากใหญ่ ให้ น.ส.สุภิช ไปติดต่อขอยืมเงินจากผู้เสียหาย ทำทีว่าได้ให้เงิน 50 ล้านบาท แก่ น.ส.ผาณิตา เป็นค่าดำเนินการ แต่ยังขาดอีกจำนวนมาก จึงมาชักชวนให้ผู้เสียหายร่วมหาเงินไปให้น.ส.ผาณิตา ยืมให้ครบตามจำนวน เมื่อได้เงินมรดกมาแล้วจะให้เงินค่าตอบแทนในการยืมเงินครั้งนี้เป็นเงิน 300 ล้านบาท ไม่รวมกับเงินที่ยืมมา ระหว่างนี้มีการพูดคุยเจรจาหว่านล้อมกันเป็นระยะ
...
“ต่อมาผู้เสียหายเริ่มหลงเชื่อ ให้เงินกับกลุ่มผู้ต้องหาไปครั้งแรก 5.2 แสนบาท และครั้งที่สอง จำนวน 5.2 แสนบาท กลุ่มผู้ต้องหาได้ตีเช็คเงินสดมาให้ผู้เสียหายไว้เพื่อเป็นหลักประกัน แต่บอกว่าอย่าเพิ่งนำเช็คไปขึ้น ทำให้ผู้เสียหาย เริ่มระแวงว่าอาจถูกหลอก จึงได้ติดต่อสอบถาม น.ส.สุภิช เพื่อทวงถามความจริง น.ส.สุภิช จึงให้ผู้เสียหายโทรศัพท์ไปหา นายชัยชนะ หนึ่งในกลุ่มผู้ต้องหา ที่อ้างตัวเป็นนายทหารยศพันโท ถ้าไม่เชื่อจะให้เจ้าหน้าที่ทหารที่ดูแลพินัยกรรม โทรศัพท์มาพูดคุยและอธิบายเรื่องต่างๆ พูดจาหว่านล้อมอีกว่า มรดกดังกล่าวมีอยู่จริง ก่อนจะพาผู้เสียหายไปพบน.ส.มาริษา เพื่อนในแก๊งอีกคน ที่เล่นบทนายทหารยศร้อยโท เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ สุดท้ายผู้เสียหายหลงเชื่อ ละครที่กลุ่มผู้ต้องหาร่วมกันแสดง ก่อนจะโอนเงินเพิ่มไปให้กับกลุ่มผู้ต้องหาถึง 597 ครั้ง รวมแล้วเป็นเงินกว่า 232,910,617 บาท”
ท้งนี้ ต่อมาภายหลัง ทราบความจริงว่าเรื่องราวทั้งหมดเป็นเรื่องโกหก จึงเข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองนครปฐม ก่อนที่กองปราบปรามจะติดตามวางแผนจับกุมผู้ต้องหาไว้ได้ยกแก๊ง
เบื้องต้น สอบสวนกลุ่มผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ร่วมกันหลอกลวงผู้เสียหายจริง ส่วนเงินทั้งหมดที่ร่วมกันหลอกลวงผู้เสียหายมาได้นำมาแบ่งกัน ก่อนจะนำเอาไปซื้อทรัพย์สิน เช่น รถยนต์หรู บ้าน รวมทั้งที่ดิน ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังติดตามส่วนที่เหลือเพื่อคืนให้ผู้เสียหาย ส่วนผู้ต้องหาทั้งหมดส่งให้พนักงานสอบสวนสภ.เมืองนครปฐม ดำเนินคดีต่อไป