ผบช.สตม.แจงคดี "ฮาคีม" นักบอลบาห์เรน เป็นตามขั้นตอน ก.ม.สากล เจ้าตัวมีหมายจับต่างจากกรณี สาวซาอุฯ ไม่มีหมายจับ ขณะที่ เรื่อง 11 กัมพูชาที่ไปซ่องสุมแล้วโดนจับ จะสอบสวนก่อนผลักดันกลับประเทศ...
เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 4 ก.พ.2562 ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบช.สตม. เปิดเผยถึงความคืบหน้าชาวกัมพูชา 11 คน ที่ถูกเจ้าหน้าที่ทหารพราน ตำรวจ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ร่วมกันปิดล้อมตรวจค้นโรงเรียนปอเนาะมัดรอลาดุลฟาละห์ หมู่ 4 ต.ถนน อ.มายอ จ.ปัตตานี จับกุมหลังพบมีการซ่องสุมฝึกการต่อสู้ ว่า จากการตรวจสอบ ในจำนวนนี้จำนวน 9 ราย พบการเดินทางเข้ามาในประเทศผ่านด่านคลองลึกจังหวัดสระแก้วด้วยวีซ่านักท่องเที่ยว และหนึ่งรายพบการขออนุญาตเข้าประเทศมาทำงานเป็นแม่บ้านและอีกคนหนึ่งพบว่าหลบหนีเข้าเมืองมาโดยผิดกฎหมาย ทั้งนี้ตนได้ลงนามคำสั่งสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ให้ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ด่านสระแก้ว 7 นาย และหัวหน้าด่าน ตม.ปัตตานี และพวก 3 ราย มาปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ศปก.สตม.) และตั้งกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงทั้ง 10 นาย เนื่องจากพบว่าทั้ง 11 คนเข้ามาทางด่านคลองลึก ส่วน ตม.ปัตตานี ต้องกวดขันตรวจสอบผู้ที่อยู่ในประเทศเกินกฎหมายกำหนดแต่กลับละเลยให้ทั้ง 11 คน ไปซ่องสุมฝึกการต่อสู้
พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ชาวกัมพูชาทั้ง 11 คนนั้นทางกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า และกองบัญชาการตำรวจภูธร ภาค 9 ควบคุมตัวไว้ที่ศูนย์ซักถามในพื้นที่ชายแดนภาคใต้เพื่อทำการซักถามข้อมูล กำหนดระยะเวลา 15 วัน จากนั้นจะส่งตัวมาให้ทาง สตม.ซึ่งตนก็จะทำการสอบสวนขยายผลว่ามีบุคคลใดเข้าให้การช่วยเหลือในการให้บุคคลทั้ง 11 คนเดินทางเข้ามาประเทศไทย หากพบก็จะติดตามจับกุมมาดำเนินคดีกับบุคคลดังกล่าว หากการซักถามชาวกัมพูชาทั้งหมดเสร็จสิ้นไม่พบความผิดก็จะผลักดันออก หากพบความผิดก็จะต้องดำเนินคดีก่อนผลักดัน พร้อมทั้งขึ้นบัญชีห้ามเข้าประเทศต่อไป อย่างไรก็ตามการทำงานของตำรวจตรวจคนเข้าเมืองในวันนี้จะต้องทำหน้าที่ในการคัดกรองบุคคลเข้าออกประเทศ โดยต้องคัดกรองคนดีเข้าประเทศและกวดขันไม่ให้คนไม่ดีเข้ามาในประเทศ
...
ในส่วนกรณีของนายฮาคีม อาลี โมฮัมเหม็ด อาลี อัล อาไรบี นักฟุตบอลชาวบาห์เรน ในวันนี้ศาลอาญานัดฟังคำพิพากษา ซึ่งตนได้สั่งการให้ผกก.ตม.สุวรรณภูมิ เข้าร่วมรับฟังผลการพิพากษา โดยกรณีนี้อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของศาล ซึ่งเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมายตามหลักสากล ศาลจะใช้ระยะเวลาและความรอบคอบในการไต่สวน ทั้งนี้กรณีของนายฮาคีม อาลี โมฮัมเหม็ด อาลี อัล อาไรบี ต่างจากกรณีของสาวซาอุฯ เพราะว่า นายฮาคีม อาลี โมฮัมเหม็ด อาลี อัล อาไรบี มีหมายจับส่วนสาวซาอุฯ ไม่มีหมายจับ อีกทั้งนายฮาคีม อาลี โมฮัมเหม็ด อาลี อัล อาไรบี ถูกศาลอาญาออกหมายจับคนร้ายข้ามแดน ดังนั้นต้องเข้าสู่กระบวนการของศาล.