2 คนร้ายถีบรถ จยย. ป้าวัย 61 ล้ม ลงมากระทืบซ้ำ ก่อนชิงเอาเงินไปเกลี้ยงตัวเฉียดหมื่น ซื้อเป็ดมาลาบฉลอง ขากลับกระเป๋าเงินหาย ซ้ำถูกตำรวจตามจับได้ ...


ที่ จ.ขอนแก่น เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2562 พ.ต.อ.อนุศักดิ์ ศักดาวัชรานนท์ ผกก.สภ.บ้านแฮด เจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง พร้อมด้วยชุดสืบสวนสภ.บ้านแฮด ร่วมกันควบคุมตัว นายวุฒิชัย หรือ เอ้บ พฤกษาสิทธิ์ อายุ 19 ปี และนายแบงค์ ฉะกระโทก อายุ 27 ปี ผู้ต้องหาคดีชิงทรัพย์ นางศรีสุดา แสนสะอาด อายุ 61 ปี เหตุเกิด เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2562 บริเวณหน้าโรงเรียนพระกุมารเยซูโนนสมบูรณ์ อ.บ้านแฮด ได้ทรัพย์ไปเป็นเงินสดจำนวน 9,000 บาท โทรศัพท์มือถือยี่ห้อซัมซุง 1 เครื่อง ราคา 500 บาท ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในจุดที่ก่อเหตุ 

ผกก.สภ.บ้านแฮด เปิดเผยว่า สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 1 มกราคม ที่ผ่านมา ผู้เสียหายเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.บ้านแฮดว่า ขณะขับขี่รถออกจากบ้านจะไปที่ รพ.สิรินธร ถูกคนร้ายเป็นชายสองคนถีบรถจักรยานยนต์จนล้มข้างถนน หน้าโรงเรียนพระกุมารเยซูโนนสมบูรณ์ และคนร้ายก็ถีบที่ร่างกายซ้ำหลายครั้ง จากนั้นค้นเอาทรัพย์สิน ได้เงินสด 9,000 บาท และโทรศัพท์มือถือยี่ห้อซัมซุง 1 เครื่อง ราคา 500 บาท

“คนเจ็บจำหน้าคนร้ายได้ ประกอบกับมีพยานจำรถจักรยานยนต์คันที่คนร้ายขับขี่มาก่อเหตุได้ สืบสวนจนทราบว่า รถจักรยานยนต์ของคนร้ายใช้เป็นของชาวบ้านในพื้นที่ ม.10 จากนั้นขยายผลจากเจ้าของรถ จนทราบว่าวันเวลาเกิดเหตุนั้น ใครใช้รถจักรยานยนต์คันดังกล่าว เมื่อทราบตัวคนร้าย จึงไปเชิญตัวมาสอบปากคำ คือนายเอ้บ และนายแบงค์ ทั้งสองคนให้การรับสารภาพ”

ผกก.สภ.บ้านแฮด กล่าวอีกว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งสองคนให้การว่า ได้เงินมา 9,000 บาทจริง โดยหลังก่อเหตุสำเร็จ ได้เงินจำนวนมาก จึงเอามาใช้ซื้อเป็ดมาลาบ และซื้อสุรามาเลี้ยงเพื่อนๆ รวมเป็นเงิน 1,200 บาท ที่เหลือใส่ในกระเป๋าสตางค์ และเหน็บไว้ที่กระเป๋ากางเกง ขณะขับขี่รถจักรยานยนต์กลับ ปรากฏว่ากระเป๋าสตางค์หล่นหาย จึงไม่ได้ใช้เงิน

...

นอกจากนี้ผู้ต้องหาทั้งสองคนยังรับสารภาพอีกว่า เคยก่อเหตุลักทรัพย์ในพื้นที่มาแล้ว 4 ครั้งไม่เคยถูกจับ ครั้งที่ 5 เป็นการชิงทรัพย์ป้าศรีสุดา และได้เงินมากกว่าทุกครั้ง จึงอยากฉลอง แต่พอกินลาบเป็ดอิ่ม กระเป๋าสตางค์ดันหาย ซ้ำมาถูกตำรวจจับอีก

ภายหลังการสอบสวนเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม คุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีในข้อหา ร่วมกันชิงทรัพย์ผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กาย หรือจิตใจในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิด หรือพาทรัพย์นั้นไปเพื่อให้พ้นผิด.