(แฟ้มภาพ)
ศาลตัดสินประหารชีวิต "ฮาร์ปรีท ซิงห์" นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เชื้อสายอินเดีย นายทุนแก๊งขนยาไอซ์ ลอตใหญ่ 400 กก.จากขอนแก่นไปหาดใหญ่ ให้การเป็นประโยชน์ลดโทษ เหลือจำคุกตลอดชีวิต
วันที่ 17 ม.ค. ที่พิจารณา 809 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีหมายเลขดำ อย. 1834/2561 ที่พนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดียาเสพติด 10 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายฮาร์ปรีท ซิงห์ (Harpreet Singh) อายุ 53 ปี ชาวไทยเชื้อสายอินเดีย นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ผู้ต้องหาคดีค้ายาเสพติดรายใหญ่ เป็นจำเลย ข้อหาสมคบกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดและได้มีการกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดนั้นฯ และร่วมกันมีไอซ์หรือเมทแอมเฟตามีน ซึ่งเป็นยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยฝ่าฝืนกฎหมาย ตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 และพ.ร.บ.มาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ.2534
คดีนี้ จำเลยไม่ได้การประกันตัว ซึ่งถูกคุมขังอยู่ในทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลางมาโดยตลอด นับตั้งแต่ฝากขังวันที่ 8 มี.ค.2561 เนื่องจาก ศาลเห็นว่า คดีมีอัตราโทษสูงถึงประหารชีวิต หากปล่อยชั่วคราวเกรงว่าจะหลบหนี ขณะที่อัยการได้ยื่นฟ้องคดีนี้เมื่อวันที่ 30 พ.ค.2561
จากกรณี เมื่อวันที่ 6 มี.ค.2561 พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.สมหมาย กองวิสัยสุข ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด นำกำลังชุดปฏิบัติการชัยยะสยบไพรี 61/4 ,ตำรวจกองปราบปรามและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 20/8 และ 20/20 ภายในซอยสุขุมวิท 39 แขวงคลองตัน เขตวัฒนา กทม. จับกุมตัวนายฮาร์ปรีท ซิงห์ สัญชาติอินเดีย ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ในข้อหาร่วมกันมียาเสพติดประเภท 1 (ไอซ์ หรือเมทแอมเฟตามีน) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งเป็นนายทุน ผู้สนับสนุนทางการเงินรายใหญ่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องเครือข่ายค้ายาเสพติดทั้งในประเทศและประเทศเพื่อนบ้าน
...
ทั้งนี้ เริ่มจากตำรวจได้ปฏิบัติการตรวจค้นเครือข่ายค้ายาเสพติด โดยจับกุม นายโกศล ศรีมงคล กับพวกรวม 11 คน ตรวจยึดยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ซึ่งเป็นไอซ์ หรือเมทแอมเฟตามีน จำนวน 390 ก้อน น้ำหนักรวมประมาณ 400 กก. พร้อมยึดทรัพย์กว่า 160 ล้านบาท นำส่งดำเนินคดี จากการสอบสวนหนึ่งในกลุ่มที่ร่วมกระทำผิดดังกล่าวให้การว่าได้รับเงินค่าขนยาเสพติด 1 ล้านบาท โดยการสืบสวนขยายผลพบว่านายฮาร์ปรีทเป็นผู้สั่งการให้โอนเงิน ประกอบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและพยานบุคคลต่างให้การสอดคล้องกันยืนยันการกระทำความผิดดังกล่าว โดยมีการแบ่งหน้าที่กันทำ จึงได้ขอศาลอาญาออกหมายจับผู้ร่วมกระทำผิดดังกล่าว เมื่อวันที่ 30 ม.ค. 2560 ในข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต เหตุเกิดเมื่อวันที่ 28-31 ก.ค. 2560 ที่ อ.เมืองขอนแก่น และ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ต่อเนื่องกัน ในชั้นจับกุมและชั้นสอบสวน นายฮาร์ปรีท ซิงห์ ให้การปฏิเสธข้อกล่าวหา
ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานที่โจทก์และจำเลยนำสืบหักล้างกันแล้วเห็นว่า พยานหลักฐานโจทก์มีน้ำหนักรับฟังได้มั่นคงว่า การกระทำของจำเลยเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษฯ มาตรา 15 วรรคสาม ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 และ พ.ร.บ.มาตรการในการปราบปรามผู้กระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดฯ มาตรา 8 วรรคสอง ซึ่งการกระทำของจำเลยเป็นความผิดกรรมเดียวแต่ผิดต่อกฎหมายหลายบท แต่ละบทมีอัตราโทษเท่ากัน จึงให้ลงโทษฐานร่วมกันมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายเพียงบทเดียว
พิพากษาให้ประหารชีวิตจำเลย แต่คำให้การในชั้นสอบสวนและทางนำสืบของจำเลยยังเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาอยู่บ้าง มีเหตุบรรเทาโทษ จึงลดโทษให้ 1 ใน 3 โดยให้จำคุกจำเลยไว้ตลอดชีวิต ส่วนคำขออื่นให้ยก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าอย่างไรก็ดี ผลการตัดสินคดีดังกล่าวยังสามารถยื่นอุทธรณ์ได้ ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ศาลมีคำพิพากษา ซึ่งจะครบกำหนดการยื่นอุทธรณ์ในวันที่ 17 ก.พ.นี้ โดยทั้งโจทก์จำเลยสามารถยื่นอุทธรณ์ได้ตามวันดังกล่าว