ลูกชายยายติ๋ม เผยผลชันสูตรพบปอดและตับแตก ซี่โครงหัก ย้ำตำรวจต้องสอบสวนให้รัดกุม ชี้ตั้งข้อหาอ่อนเพราะแค่ผลักแม่คงไม่ตาย แต่ศพน่วมแบบนี้หวังเอาถึงตาย ตร.ยันทำคดีตามขั้นตอนทุกอย่างรัดกุม...

เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 21 ธันวาคม 2561 ที่บ้านเลขที่ 48 ม.1 ต.คำแคน อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นบ้านของยายติ๋ม คนที่ถูกนายเบนซ์ ทำร้ายร่างกาย และเสียชีวิต เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม ที่ผ่านมา ซึ่งลูกและญาติได้นำศพยายติ๋ม กลับมาบำเพ็ญกุศลตามประเพณีเป็นที่เรียบร้อย และเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ตามจับกุมนายเบนซ์หรือนายธนพล งาดี อายุ 18 ปี ได้แล้วเช่นเดียวกัน เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม ที่ผ่านมา ในข้อหา ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงแก่ความตายซึ่งตรงกับวันที่เผายายติ๋มที่วัดคำมูลบ้านคำแคนใต้ด้วย และภายหลังถูกจับกุม เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองขอนแก่น ได้นำตัวนายเบนซ์แถลงผลการจับกุมต่อสื่อมวลชน นายเบนซ์กล่าวว่า ไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายยายติ๋มถึงตาย เพียงแค่ผลักและยายติ๋มก็ล้มศีรษะกระแทกเหลี่ยมปูน ส่วนสาเหตุที่ทะเลาะกับยายติ๋ม มาจากการทวงถามเงินกู้ที่ยายติ๋มกู้จากนายทุน แล้วไม่มีการส่งคืน โดยมียายตัวเองเป็นคนค้ำประกันเงินกู้ให้ยายติ๋ม ภายหลังการแถลงข่าว เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้คุมตัวนายเบนซ์ส่งให้พนักงานสอบสวน สอบสวนตามขั้นตอนของกฎหมาย

ขณะที่ ที่บ้านยายติ๋มนั้น นายนฤดล แพนุ่น อายุ 32 ปี พร้อมญาติพี่น้องได้เก็บกวาดบ้านและสิ่งของภายในบ้านหลังจากการบำเพ็ญกุศลมารดาเรียบร้อยแล้ว นายนฤดล ได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า ตนเองและญาติพี่น้องดีใจที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมคนร้ายได้เร็ว แต่ไม่พอใจการสอบสวนของและการแจ้งข้อหาของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่แจ้งเพียงข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย

“ในวันที่ผมเข้าแจ้งความและให้รายละเอียดกับตำรวจไปหมดแล้วว่า แม่ผมซี่โครงหัก ตับแตก ปอดฉีก รวมถึงรอยเลือดที่หน้าบ้านของผู้ต้องหา สภาพศพแม่น่วมขนาดนี้ คงไม่ใช่แค่การทำร้ายธรรมดา แต่มีเจตนาทำให้ตาย จึงอยากให้มีการสอบสวน สอบเค้นเพิ่มเติมและต้องแจงข้อคลางแคลงใจของญาติ รวมถึงผลการชันสูตรคราบเลือดเพราะข้อหาที่เจ้าหน้าที่แจ้งกับผู้ต้องหาในคดีนี้ มันธรรมดามาก จริงๆ ต้องเป็นข้อหาหนักกว่านี้ และทุกอย่างต้องมีคำอธิบาย” ลูกชายยายติ๋ม กล่าว

...

นายนฤดล กล่าวอีกว่า ศพมารดาก็เผาแล้ว คงผ่าอะไรพิสูจน์ไม่ได้ แต่การทำงานของตำรวจคงไม่จบเพียงเท่านี้ เพราะการที่นำตัวผู้ต้องหามาแถลงต่อสื่อมวลชนแล้ว คดีคงไม่จบเพียงเท่านี้ ข้อหาที่ตั้งนั้น หากการพิสูจน์รายละเอียด และการสอบสวนที่รัดกุม จะสามารถแจ้งข้อหาเพิ่มหรือไม่ ส่วนกรณีที่ผู้ต้องหาบอกว่า มารดากู้เงินและยายเป็นคนค้ำนั้น ประเด็นนี้เชื่อว่าเป็นเรื่องจริง เพราะมารดามีพฤติกรรมเช่นนี้จริง มีหลายครั้งที่ลูกๆ ต้องตามใช้หนี้ให้ ทำไมต้องทำกับมารดาถึงตายด้วย และอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนถึงเรื่องที่ทรัพย์สินของมารดาที่เป็นทองรูปพรรณที่มารดาใส่ติดตัวหายไปด้วย

ลูกชายยายติ๋ม กล่าวอีกว่า ตอนนี้ตำรวจจะนำตัวไอ้เบนซ์ทำแผนหรือไม่ทำ ญาติพี่น้องไม่ใส่ใจ จะใส่ใจการสอบสวนให้รัดกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจมากกว่า ที่จะสนใจเรื่องทำแผน พวกผมไม่อยากทำอะไรมัน ปล่อยให้กฎหมายเป็นผู้ลงโทษ แต่ขอร้องว่าตำรวจต้องสอบสวนทุกประเด็นให้เคลียร์ อย่าทำเพียงว่า จับได้แล้วแจ้งข้อหาแล้วไม่สอบสวนต่อ และถ้าเป็นไปได้ จะต้องไม่ให้ประกันตัวและส่งดำเนินคดีที่ศาลจังหวัด เพราะถ้าส่งศาลเยาวชนก็ถูกส่งตัวเข้าสถานพินิจ ไม่นานก็ออกมา ซึ่งอาจจะมาก่อเหตุซ้ำ คนในสังคมไม่มีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน

พ.ต.อ.จำลอง สุวลักษณ์ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น กล่าวถึงกรณีที่ญาติพี่น้องคลางแคลงใจการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ไม่รัดกุม ว่า การแถลงข่าว คือการแจ้งว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุได้แล้ว ส่วนข้อหาก็เป็นการแจ้งข้อหาในเบื้องต้น ซึ่งเมื่อพนักงานสอบสวน ทำการสอบสวนเสร็จสิ้น หากพบความผิดในข้อหาใดอีก ก็สามารถแจ้งข้อหาเพิ่มได้

“ขอยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ทำงานรัดกุมในทุกขั้นตอน ทั้งการสืบสวนจับกุม การสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐาน ขอให้ญาติสบายใจว่า ตำรวจไม่เข้าข้างคนผิด คนทำผิดต้องได้รับโทษตามกฎหมาย นายเบนซ์ก็เช่นกันหากการสอบสวนเสร็จสิ้น ก็จะดูผลตรวจของแพทย์มาประกอบ และอาจจะแจ้งข้อหาเพิ่มในข้อหา ฆ่าผู้อื่น”.