เคราะห์ซ้ำกรรมซัด! สาวสวนยางเมืองตรังวัย 23 ปี รอดตายหลังถูกคนร้ายใช้ท่อนไม้ทุบต้นคอ พยายามข่มขืน เกิดภาวะแท้งคุกคาม ครอบครัวเผยผ่านมา 1 เดือน คนร้ายยังไม่ถูกดำเนินคดี ขวัญผวา ไม่กล้าออกไปทำงาน...

วันที่ 16 ธ.ค.61 สามี น้องการ์ตูน อายุ 23 ปี ชาว ต.ลิพัง อ.ปะเหลียน จ.ตรัง ร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมกับผู้สื่อข่าวอีกครั้ง หลังถูกคนร้ายใช้ท่อนไม้ทุบตีและพยายามข่มขืนขณะกำลังกรีดยาง แต่ตอนนี้ยังตามคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุไม่ได้ หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจคุมตัวมาสอบปากคำแล้วปล่อยไป จนสร้างความหวาดผวาให้กับคนในพื้นที่ไม่กล้าออกไปกรีดยาง คดีนี้ พ.ต.ท.ชุมพล ด้วงคง สารวัตรเวร (สอบสวน) สภ. ปะเหลียน รับแจ้งความร้องทุกข์ไว้เมื่อวันที่ 14 พ.ย.2561 ที่ผ่านมา

สามีผู้เสียหาย เผยว่า เมียตนไม่สบาย เมื่อพาไปพบแพทย์ รพ.ปะเหลียน หมอบอกว่า เมียตนท้องได้เดือนกว่า และมีอาการเลือดออกมา 4 วัน ต้องนอนที่ รพ. 2 คืนแล้ว แต่ยังไม่แท้ง แต่หมอบอกว่า 50-50 ห้ามเดินห้ามเคลื่อนไหวเยอะ วันนี้เพิ่งออกจากโรงพยาบาล หมอบอกว่าเป็นอาการแท้งแบบคุกคาม

ซึ่งเลือดที่ไหลออกมา เป็นเลือดเก่าที่ตกค้างอยู่ภายใน ซึ่งอาจเป็นอาการช้ำในจากการโดนคนร้ายที่จะเข้าไปข่มขืนภายในสวนยางทุบตี ซึ่งตอนนี้ได้แต่ภาวนาว่าให้ลูกในท้องปลอดภัย และอยากให้ตำรวจเพิ่มข้อหาคนร้ายที่ก่อเหตุด้วย

ขณะที่ น้องการ์ตูน ผู้เสียหาย เล่าว่า หลังจากเกิดเหตุ ตนรู้สึกเหมือนมีประจำเดือนมาตลอดเวลา จากการอัลตราซาวนด์ พบภาวะแท้งคุกคาม ซึ่งเด็กมีโอกาสรอด 50% เนื่องจากไม่ได้ยินเสียงหัวใจ แต่เด็กยังมีชีวิตอยู่ หมอสั่งว่าไม่ให้ตนไปไหน ไม่ให้ทำอะไร จากการตรวจยังพบว่า มีเลือดเป็นสีดำตกค้าง ซึ่งเป็นเลือดที่เกิดจากการถูกทุบตี ซึ่งแพทย์ได้นัดตรวจครรภ์อีกครั้งในวันที่ 24 ธ.ค.นี้ 

...

ตนเห็นว่าคนร้ายเส้นใหญ่มาก ถูกคุมตัวมาโดยไม่ต้องใส่กุญแจมือ และปล่อยตัวออกไปได้โดยไม่ต้องประกันตัว แม้ตอนแรกผู้ต้องหายังคงปฏิเสธ และให้การยอมรับสารภาพในเวลาต่อมา แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจกลับปล่อยตัวไป ทำให้คนรู้สึกหวาดกลัวจนถึงทุกวันนี้ 

ขณะที่ แม่ของผู้เสียหาย กล่าวว่า ตนเชื่อว่าต้องมีคนในพื้นที่เป็นผู้สมรู้ร่วมคิด ตำรวจสอบปากคำแล้วก็ปล่อยไป ตนไม่ได้ต้องการอะไร เพียงอยากให้คนผิดได้รับกรรมบ้าง หากคนร้ายยังลอยนวลอยู่ เกรงว่าจะไปทำคนอื่นอีก หรือเพราะครอบครัวเราเป็นชาวบ้านธรรมดา ไม่รู้จักคนใหญ่คนโต ซึ่งตอนนี้ลูกสาวดูเปลี่ยนไปมาก ไม่เหมือนคนเดิม หลังจากเกิดเหตุกลายเป็นคนเงียบขรึม ทำงานไม่ไหว ขวัญเสีย หยุดกรีดยางมาตั้งแต่วันเกิดเหตุ เป็นแรมเดือนแล้ว ไม่มีรายได้เนื่องจากหวาดกลัว ไปจ้างเขากรีดยางให้ก็ไม่มีใครกล้า ตำรวจไม่เคยโทรมาคุย ซึ่งก่อนหน้านี้ได้รับปากว่าหากมีความคืบหน้าจะโทรมาแจ้งแต่ก็เงียบหาย

แม่ของ น.ส.การ์ตูน กล่าวอีกว่า ความรู้สึกแรกหลังจากที่รู้ว่าลูกสาวถูกทำร้าย เหมือนหัวใจแทบสลาย เข่าทรุด ซึ่งที่ผ่านมาไม่รู้ความคืบหน้าของคดีเลย จึงอยากฝากถึงตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ช่วยลงมาดูแลคดี เอาผิดคนร้าย เอาตัวมาลงโทษให้ได้ และว่า ข้อหาทำร้ายร่างกายไม่เพียงพอ อยากให้ลงโทษให้หนักอย่างจริงจัง อย่าให้คนชั่วต้องลอยนวล ก่อนจะกลั้นน้ำตาไว้ไม่ไหว ไหลอาบแก้ม.