ในที่สุด แม่วัย 34 ปี ได้รับสารภาพกับตำรวสภ.ภาชี แล้วหลังถูกสอบนานข้ามคืน ตัวเองเป็นคนฆ่าน้องไทเกอร์ ลูกชายวัย 3 ขวบอย่างที่สงสัยตั้งแต่แรก อ้างหงุดหงิด ติดเหล้า เค้นสอบ ฆ่าลูกอีกคนด้วยหรือไม่
จากเหตุสลด ในพื้นที่ อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ภาชี และเจ้าหน้าที่สมาคมอยุธยารวมใจ ออกเดินเท้าตามรางรถไฟและค้นหาป่าหญ้าริมทางรถไฟเพื่อค้นหาตัว น้องไทเกอร์ ด.ช.พัสธร ศรีคง อายุ 3 ขวบ ที่หายตัวไปหลังจากเดินทางมาที่ อ.ภาชี พร้อมกับนางรุ่งทิพย์ โยธิการ์ อายุ 34 ปี ผู้เป็นแม่ ตั้งแต่วันที่ 14 ตุลาคม ที่ผ่านมา แล้วเกิดการพลัดหลง หายตัวไปอย่างเป็นปริศนา โดยผู้เป็นแม่ยังให้การวกไปวนมาถึงสาเหตุที่ลูกชายหายตัวไป อ้างว่าไม่รู้หายไปตอนไหน

ต่อมา เจ้าหน้าที่พบรองเท้าแตะของน้องไทเกอร์อยู่ในป่าหญ้า กับรองเท้าของนางรุ่งทิพย์ จึงเร่งระดมค้นหาในป่ากก ซึ่งมีความสูงประมาณ 2 เมตร น้ำลึกประมาณ 1.50 เมตร แต่ไม่พบตัว จนได้รับแจ้งจาก นายประเมิน สอดงส่องกิจ ผู้ใหญ่บ้าน ม.4 ต.ดอนหญ้านาง อ.ภาชี ที่ร่วมออกค้นหาตัวน้องไทเกอร์ว่าพบศพเด็กชายอยู่ในท้องนา ต.หนองน้ำใส อ.ภาชี
...
จากการตรวจสอบสภาพศพพบว่า อยู่ในสภาพลอยอืด สวมเสื้อสีแดงไม่สวมกางเกง เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 1-2 วัน จากการตรวจสอบของแพทย์โรงพยาบาลภาชี ในเบื้องต้นไม่สามารถระบุได้ว่าเสียชีวิตด้วยสาเหตุใด ต้องส่งศพไปชันสูตรที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ จ.ปทุมธานี

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้พุ่งเป้าสงสัยไปที่นางรุ่งทิพย์ ผู้เป็นแม่ หลังมีพยานให้ปากคำว่า น้องไทเกอร์ออกจากบ้านพร้อมกับแม่ตั้งแต่วันที่ 14 ตุลาคม ทางบ้านเข้าใจว่าแม่พากลับไปบ้านที่ จ.สุรินทร์ เพราะทะเลาะกับสามี จนกระทั่งวันที่ 16 ตุลาคม นางรุ่งทิพย์ได้กลับไปบ้านที่ จ.นนทบุรี เพียงคนเดียว โดยบอกกับทางบ้านว่าไม่ได้พาน้องไทเกอร์ไปด้วย แถมยังพูดจาวกไปวนมาให้การสับสน และที่ตามตัวมีบาดแผลคล้ายกับถูกกิ่งไม้ขีดข่วน
อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบสวนนางรุ่งทิพย์ ผู้เป็นแม่อย่างละเอียด ตลอดทั้งคืน กระทั่งเช้าวันที่ 19 ต.ค. ก็ยังไม่รับสารภาพ จนล่วงเข้าตอนบ่าย นางรุ่งทิพย์ จึงรับสารภาพ ว่า เป็นคนฆ่าน้องไทเกอร์ ลูกชายตัวเอง โดยอ้างว่า ตัวเองติดสุรา เมื่อไม่ได้ดื่มจะมีอาการหงุดหงิดและทำไปโดยไม่รู้ตัว ซึ่งตำรวจจะพาไปทำแผนฯ ยังที่เกิดเหตุ พร้อมสอบเค้นต่อว่า ได้กระทำฆาตกรรมลูกอีกคนที่เสียชีวิตอย่างปริศนา ในวัยเพียง 3 เดือน ด้วยหรือไม่