ผบช.ภ.2 เร่งระดมล่า "พันศักดิ์" ลั่นหากสู้สั่งจับตาย เพราะผู้ต้องหาเป็นอดีตตำรวจ และมีอาวุธปืนพกติดตัวตลอด ต้องใช้มาตรการเด็ดขาด เชื่อว่ายังอยู่ในพื้นที่ พร้อมประสาน ตม.ทุกด่านให้เฝ้าระวัง

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 10 ต.ค.61 พล.ต.ท.จิตติ รอดบางยาง ผบช.ภ.2 กล่าวถึงการติดตามไล่ล่าตัว นายพันศักดิ์ มงคลศิลป์ หรือ อดีต พ.ต.ท.พันศักดิ์ มงคลศิลป์ ตำรวจนักฆ่าหน้าหยก ว่า คดีนี้ท่าน ผบ.ตร.ได้ส่ง พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ จเรตำรวจ ลงพื้นที่ช่วย และในคดีนี้มีความคืบหน้าไปได้มาก ได้ออกหมายจับผู้ต้องหา 3 คน แต่รายละเอียดขอเป็นความลับไว้ก่อน อยู่ระหว่างการสืบสวนและขยายผลอยู่ คดีนี้คงไม่ยาก เพราะรู้ตัวผู้กระทำผิดหมดแล้ว ตอนนี้อยู่ระหว่างติดตามจับกุมตัว

เมื่อถามว่าการที่จะจับกุมตัว นายพันศักดิ์ น่าจะเป็นการจับกุมที่ยาก ทางตำรวจมีวิธีการตอบโต้อย่างไรบ้างหากมีการขัดขืนต่อสู้ พล.ต.ท.จิตติ กล่าวว่า ผบ.ตร.ได้บอกแนะนำไว้แล้วให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายใช้ความระมัดระวังให้มากที่สุด เนื่องจาก นายพันศักดิ์ เคยเป็นตำรวจ และมีอาวุธปืนพกติดตัวตลอด หากเจอตัวแล้วมีการขัดขืนต่อสู้กันตำรวจก็คงต้องใช้มาตรการเด็ดขาดในการจับกุมตัว ส่วนกรณีนายพันศักดิ์มีคดีติดตัวหลายคดีแต่สามารถหลบหนีรอดมาได้หลายปี จะเกี่ยวกับคนมีสีช่วยหรือไม่ พล.ต.ท.จิตติ กล่าวว่า คำถามนี้ไม่รู้ แต่ตำรวจก็ดำเนินการตามกฎหมาย และตามแนวทางการสืบสวนข้อมูลยังคาดว่า นายพันศักดิ์ยังอยู่ในพื้นที่ ยังไม่ได้ออกนอกประเทศ หนังสือเดินทางก็หมดอายุแล้ว ทาง พล.ต.อ.สุชาติ ก็ได้แจ้งไปยังด่าน ตม.ทุกด่านให้เฝ้าระวังการเล็ดลอดออกไปนอกประเทศอย่างเป็นพิเศษ รวมทั้งด่านธรรมชาติก็มีการประสานไปเรียบร้อยแล้วทุกด่านเช่นกัน

"ข่าวดีคงไม่ช้า เพราะพวกเราทำงานกันอย่างดีและเต็มที่ และรวดเร็วตามนโยบายของท่าน ผบ.ตร. ส่วนประเด็นของสาเหตุในชั้นนี้มุ่งไปที่ขัดแย้งเรื่องผลประโยชน์" พล.ต.ท.จิตติกล่าว

...

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อวานนี้ 9 ต.ค. พล.ต.ท.จิตติ ก็ได้สั่งการให้ตำรวจแอบไปซุ่มดู นายพันศักดิ์ ว่าย้อนเข้าบ้านเกิดที่ซอยคลองบางปลาสร้อย ต.บางปลาสร้อย อ.เมืองชลบุรี หลายวันแล้วตั้งแต่มีการออกหมายจับ ซึ่งผู้สื่อข่าวไปตรวจสอบก็พบว่ามีตำรวจซุ่มอยู่ใกล้บ้าน นายพันศักดิ์ จริง และได้สอบถามแม่ค้าขายของที่อยู่ใกล้บ้าน นายพันศักดิ์ ได้ความว่า บ้านของ นายพันศักดิ์ ได้ปล่อยให้คนอื่นเช่ามานานแล้วตั้งแต่ นายพันศักดิ์ ถูกจำคุกคดีอุ้มฆ่า 2 แม่ลูกตระกูลศรีธนขันธ์แล้ว และเมื่อเขาออกจากคุกเขาก็ไม่เคยกลับมาบ้านหลังนี้ ส่วนการเก็บเงินค่าเช่านั้นไม่รู้ว่าใครเป็นคนมาเก็บ.