ตำรวจนำกำลังบุกรวบหนุ่มเกาหลีใต้ แอดมินเว็บโป๊ระดับร้อยล้านวิว แอบอาศัยคอนโดฯ หรูกลางกรุงเทพฯ ทำผิดกฎหมาย เผยรับรายได้ปีละ 3-6 ล้านบาท เข้าออกไทยกว่า 40 ครั้ง เร่งขยายผลหาผู้เกี่ยวข้อง...

เมื่อวันที่ 7 ต.ค.2561 กำลังตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ตำรวจท่องเที่ยว และตำรวจ ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ ศปอส.ตร. นำหมายค้นศาลอาญาเข้าตรวจค้นห้องพักภายในคอนโดมิเนียมหรู ย่านพระราม 9 หลังจากได้รับการประสานงานข้อมูลจากรัฐบาลประเทศเกาหลีใต้ ผ่านสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อจับกุม นายคอง ฮุน ยัง ผู้ต้องหาชาวเกาหลีใต้ ซึ่งมีหมายจับตำรวจสากลในคดีเป็นแอดมินเว็บเผยแพร่ และครอบครองสื่อลามกเด็กเพื่อการค้า ซึ่งเป็นเจ้าของเว็บไซต์ชื่อ www.sexdosi.com แอดมินเพจที่เผยแพร่สื่อลามกอนาจาร โดยมีสมาชิกเข้าชมกว่า 100 ล้านคน และอาศัยอยู่กับแฟนสาวชาวไทย

จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุ พบของกลางคอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊ก จำนวน 2 เครื่อง ฮาร์ดดิสก์ที่มีคลิปลามกอนาจารเป็นจำนวนมาก โดยคลิปบางส่วนได้มาจากการแอบถ่าย บัตรเอทีเอ็ม ประเทศเกาหลีใต้ พร้อมเครื่องรับรหัส OTP จำนวน 2 บัญชี โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง เงินสด 1 ล้าน 3 แสนบาท เงิดสดเกาหลีใต้ 4 ล้านวอน และรถยนต์จำนวน 1 คัน

...

พลตำรวจตรีสุรเชษฐ์ หักพาล รักษาราชการแทนผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบข้อมูลในโน้ตบุ๊กและฮาร์ดดิสก์ พบภาพถ่ายและภาพสื่อลามกอนาจารจำนวนมาก คลิปวิดีโอบางส่วนเป็นคลิปที่นายคอง ฮุน ยัง แอบถ่ายด้วยตนเอง พร้อมทั้งยอมรับว่าตนเองเป็นแอดมินเว็บไซต์ ทำหน้าที่อัพโหลดข้อมูลสื่อลามกอนาจารให้สมาชิกรับชม โดยปัจจุบันมีสมาชิกมากกว่า 3 หมื่นคน มีรายได้จากการที่สมาชิกคลิกดูสื่อลามกอนาจารที่อยู่ในเว็บไซต์ประมาณปีละ 3-6 ล้านบาท อีกทั้งหลบหนีคดี “นำเข้า ส่งออก เผยแพร่สู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลที่มีลักษณะลามก และสื่อลามกอนาจารเด็กเพื่อการค้า” จากประเทศเกาหลีใต้มาที่ประเทศไทย โดยผู้ต้องหารายนี้พักอาศัยที่ห้องแห่งนี้มา 5 เดือน ในราคาเดือนละ 3 หมื่น 6 พันบาท

รรท.ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง กล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบประวัติ พบว่ามีการเดินทางเข้าออกประเทศไทยทั้งหมด 45 ครั้ง เบื้องต้นได้เพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรแล้ว อย่างไรก็ตาม ทางตำรวจต้องขยายผลหาผู้ร่วมขบวนการเพิ่มเติม ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่จะนำตัวไปควบคุมที่ห้องกักกันผู้ต้องหา ตม.ทุ่งสองห้อง ส่วนของกลางจะนำส่งตรวจพิสูจน์ว่ามีการกระทำผิดในประเทศไทยหรือไม่ หากไม่พบว่ามีการกระทำผิดในไทยก็จะผลักดันกลับประเทศต้นทางต่อไป

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวด้วยว่า หลังจากนี้ 1 เดือน บุคคลที่โอเวอร์สเตย์ จะทำการกวาดล้างทั้งหมดโดยการนำข้อมูลจาก สตม. มาทำการตรวจสอบใหม่ทั้งหมด และจะสแกนทุกพื้นที่ ก่อนจะผลักดันเนรเทศออกนอกประเทศต่อไป ซึ่งบุคคลเหล่านี้ยังไม่ได้มีเพียงรายนี้รายเดียวเท่านั้น ในส่วนการอยู่ต่อได้กำชับไปยังทุกด่านตรวจว่าจะต้องเข้มงวดมากขึ้น ส่วนในการตรวจค้นคอนโดเพื่อตรวจสอบต่างชาติต้องแบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกเป็นการตรวจเอกสารแล้วถูกต้อง อีกส่วนเป็นผู้ที่ไม่มีเอกสาร เบื้องต้นจะทำการตรวจและจับกุมซึ่งหน้า และวานนี้มีการเพิกถอนการอยู่อาศัยบุคคลต่างด้าวไป 37 ราย คือผู้ที่ไม่อยู่ตามที่พักอาศัยจริง อยู่แล้วติดต่อไม่ได้ หลังจากนี้จะต้องตามตัวทั้ง 37 รายมาดำเนินคดีก่อนผลักดันออกนอกประเทศ ต่อไป.