ตำรวจหาหลักฐานรถ ผศ.ดร.มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม ดับปริศนา พบครั้งสุดท้ายวัดคูหาสวรรค์ คนรู้จักไม่เชื่อโดดน้ำฆ่าตัวตาย เพราะได้พูดคุยกัน เห็นสีหน้ายิ้มแย้มเป็นปกติ...
เมื่อวันที่ 7 ต.ค. พล.ต.ต.ถาวร แสงฤทธิ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพิษณุโลก และพ.ต.อ.ทรงพล สังข์เกษม ผกก.สภ.เมืองพิษณุโลก ได้เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน เพื่อคลี่คลายคดี ผศ.ดร.อรรจน์ อิงคนินันท์ บัณฑิตย์ อายุ 55 ปี ประธานหลักสูตรสาขาวิชาบรรณารักษศาสตร์และสารสนเทศศาสตร์ ม.ราชภัฏพิบูลสงคราม เสียชีวิตลอยเป็นศพอยู่ในแม่น้ำน่าน ก่อนไปติดอยู่ริมตลิ่งหน้าคริสตจักร ต.วัดจันทร์ อ.เมือง พิษณุโลก เมื่อคืนวันที่ 3 ต.ค.
พร้อมเชิญ ผศ.ดร.ทรัตน์พร บัณฑิตย์ นาคสวัสดิ์ อายุ 52 ปี อาจารย์สาขาวิชาโทภาษาฝรั่งเศส คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม น้องสาวของ ผศ.ดร.อรรจน์ ซึ่งติดใจสงสัยเชื่อว่าพี่ชายถูกฆาตกรรม เข้าฟังผลการประชุมพร้อมสามี
ด้านพล.ต.ต.ถาวร เปิดเผยว่า ต้องคลี่คลายคดีให้เร็วที่สุด และเนื่องจากสาเหตุของการเสียชีวิตยังไม่ชัดเจน ทางพนักงานสอบสวนได้ขออนุญาตญาตินำศพ ผศ.ดร.อรรจน์ ไปชันสูตรที่นิติเวชโรงพยาบาลตำรวจในคืนวันที่ 7 ต.ค.นี้ เพื่อให้ทราบสาเหตุการเสียชีวิตที่แน่ชัด อย่างไรก็ตามจากการชันสูตรศพเบื้องต้นของแพทย์โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร ยังไม่ได้แจ้งมาเป็นลายลักษณ์อักษร เพียงแต่แจ้งด้วยวาจาว่าเสียชีวิตเนื่องจากสมองขาดอากาศเพราะจมน้ำเสียชีวิต ในปอดมีทั้งน้ำและดินโคลน ไม่น่าจะเสียชีวิตก่อนจมน้ำ
ส่วนประเด็นต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นผู้ชายที่มารับไปด้วย หรือพยานแวดล้อมอื่นๆ จะเร่งติดตามตัวมาสอบสวนให้เร็วที่สุด และยังได้สั่งการให้ชุดสืบสวนไปไล่เช็กกล้องวงจรปิดต่างๆ เนื่องจากวันสุดท้ายที่พบผู้เสียชีวิต เมื่อวันที่ 2 ต.ค. ที่วัดคูหาสวรรค์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.พิษณุโลก โดยมีผู้พบเห็นผู้เสียชีวิตเดินเข้าไปในวัด เวลาประมาณ 14.00 น. เพื่อจะไปพบเจ้าอาวาส แต่เจ้าอาวาสไม่อยู่ จากนั้นไม่มีใครพบเห็น กระทั่งมาพบเป็นศพลอยน้ำในเวลาประมาณ 22.00 น. ของคืนวันที่ 3 ต.ค.
...
เบื้องต้นยังไม่ตัดประเด็นต่างๆ ทั้งการฆาตกรรมหรือจงใจฆ่าตัวตายเอง เนื่องจากตามประวัตินั้นอาจารย์ผู้เสียชีวิตเคยมีประวัติรับการรักษาทางจิตเวช พร้อมจะเร่งติดตามชายที่มารับผู้เสียชีวิตในวันที่ 1 ต.ค. มาสอบสวนอีกครั้งหนึ่ง ส่วนสร้อยคอสายร่มสีดำคล้องพระเครื่อง 3 องค์ที่พบคล้องคอศพอยู่นั้น ล่าสุดพบหลักฐานจากภาพในเฟซบุ๊กของผศ.ดร.อรรจน์ เป็นภาพที่สวมใส่ไว้อยู่จริง
ต่อมาพล.ต.ต.ถาวร พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 6 ได้ตรวจหาหลักฐานในรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อนิสสัน ทีด้า สีบรอนซ์ ทะเบียน กธ 4183 พิษณุโลก ของผศ.ดร.อรรจน์ ที่จอดทิ้งไว้ในลานจอดรถของโรงแรมวังจันทน์ ริเวอร์วิว โดยเจ้าหน้าที่ รปภ.ให้การว่าเห็นผู้เสียชีวิตมาจอดรถในเวลาประมาณ 12.40 น. ของวันที่ 1 ต.ค. พร้อมกับมีรถยนต์มิตซูบิชิ แลนเซอร์ สีขาว มาจอดเทียบเพื่อรอรับอยู่ และเห็นผู้เสียชีวิตขึ้นรถไปกับผู้ชายคนขับที่สวมใส่เสื้อแขนสั้นคอโปโลสีขาว ด้านหลังมีตัวอักษรว่า โรงเรียนธีรธาดา
จากการตรวจสอบรถของผู้เสียชีวิต พบสภาพรถจอดล็อกไว้เรียบร้อย เสื้อผ้าและสูทยังอยู่ในรถตามปกติ เชื่อว่าผู้เสียชีวิตยังไม่ได้กลับมาที่รถ หลังเดินทางกลับจาก จ.อุตรดิตถ์ เจ้าหน้าที่จึงเก็บรอยนิ้วมือและหาหลักฐานภายในรถเพิ่มเติมเพื่อประกอบคดี ก่อนพากันไปตรวจสอบที่บ้านพักของผู้เสียชีวิต เพื่อหาเสื้อสูทสีขาวที่สวมใส่ในวันที่ไปนิเทศนักศึกษาฝึกประสบการณ์วิชาชีพที่ จ.อุตรดิตถ์ เนื่องจากไม่พบในรถ
ขณะที่นายสมโภธิ ใจมนต์ อายุ 55 ปี ข้าราชการครูโรงเรียนเทศบาล 2 วัดคูหาสวรรค์และไวยาวัจกร วัดคูหาสวรรค์ ซึ่งมาร่วมงานสวดอภิธรรมศพผศ.ดร.อรรจน์ เปิดเผยว่า ช่วงบ่ายสองครึ่งของวันที่ 2 ต.ค. ตนพบกับ ผศ.ดร.อรรจน์ หรืออาจารย์หนึ่ง ซึ่งเป็นคนคุ้นเคยกันอยู่ เนื่องจากอาจารย์เคยมาบวชที่วัด และหลังจากสึกได้แวะเวียนมากราบไหว้เจ้าอาวาสเป็นประจำ โดยเห็นเดินเข้ามาทางประตูหน้าวัดแต่ไม่ทราบว่านั่งรถอะไรมา หิ้วขนมมาหนึ่งถุงและถือกระเป๋าเล็กๆ มาด้วย 1 ใบ ได้พูดคุยกันสักครู่ เห็นหน้าตาของอาจารย์ยิ้มแย้มเป็นปกติดี
นอกจากนี้ตนเห็นอากาศร้อนยังบอกให้เข้ามาคุยกันในร่ม และเมื่อรู้ว่าเจ้าอาวาสไม่อยู่ก็เดินออกไปทางประตูหลังวัด ส่วนการที่ ผศ.ดร.อรรจน์ จะกระโดดน้ำฆ่าตัวตายนั้น ส่วนตัวแล้วไม่เชื่อ เพราะวันที่พบกันไม่ได้มีท่าทางวิตกกังวลแต่อย่างใด.