รู้ชื่อศพชายลอยในแม่น้ำน่าน เมืองพิษณุโลก เป็นถึงผศ.ดร. ประธานหลักสูตรสาขาวิชาบรรณารักษ์ฯ มรภ.พิบูลสงคราม น้องสาวเชื่อถูกฆาตกรรม-ชิงทรัพย์เพราะพี่ชายเป็นพวกชายรักชาย สงสัยคนที่ขับรถไปอุตรดิตถ์
เวลา 12.00 น. วันที่ 6 ต.ค. พ.ต.ต.(หญิง) กัลยาณี ท่าโพธิ์ สว.(สอบสวน) สภ.เมืองพิษณุโลก รับแจ้งจาก ผศ.ดร.ทรัตน์พร บัณฑิตย์ นาคสวัสดิ์ อายุ 52 ปี บ้านเลขที่ 83/156 ถนนประชาอุทิศ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.พิษณุโลก อาจารย์สาขาวิชาโทภาษาฝรั่งเศส คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม ว่า หลังจากตนได้แจ้งความกับพนักงานสอบสวนและลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.เมืองพิษณุโลก เมื่อวันที่ 5 ต.ค.ที่ผ่านมา กรณีที่พี่ชายของตนคือ ผศ.ดร.อรรจน์ อิงคนินันท์ บัณฑิตย์ อายุ 55 ปี บ้านเลขที่ 26/54 ถนนสนามบิน ต.ในเมือง อ.เมือง จ.พิษณุโลก ประธานหลักสูตรสาขาวิชาบรรณารักษศาสตร์และสารสนเทศศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม ได้หายตัวออกจากบ้านไปตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2561 และไม่สามารถติดต่อได้ว่าไปอยู่ที่ใด

...
ต่อมาคืนวันที่ 5 ต.ค. ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองพิษณุโลก ได้ส่งภาพสร้อยคอผ้าร่มสีดำแขวนพระเครื่องจำนวน 2 องค์ และศพชายไทยซึ่งเสียชีวิตลอยน้ำอยู่ในแม่น้ำน่านที่ พ.ต.ท.สันตสิริ เมตตาวงศ์ รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.เมืองพิษณุโลก ได้รับแจ้งไว้หลังศพลอยไปติดริมตลิ่งแม่น้ำน่านหน้าคริสตจักร ต.วัดจันทร์ อ.เมืองพิษณุโลก เมื่อเวลาประมาณ 22.30 น. วันที่ 3 ต.ค. ไปให้ตนดู จึงเดินทางไปตรวจดูศพผู้เสียชีวิตที่นิติเวช รพ.มหาวิทยาลัยนเรศวร พบว่าผู้เสียชีวิตเป็นพี่ชายตนอย่างแน่นอน
ผศ.ดร.ทรัตน์พร ให้การต่อว่า เมื่อวันที่ 1 ต.ค. พี่ชายได้ขับรถออกจากบ้านไปเมื่อเวลา 14.30 น. และนำรถไปจอดไว้ที่โรงแรมวังจันทน์ริเวอร์วิวก่อนที่จะเดินทางไป จ.อุตรดิตถ์ เนื่องจากต้องไปนิเทศนักศึกษาฝึกประสบการณ์วิชาชีพจำนวน 2 คน โดยไปกับเพื่อน ไม่ทราบว่าเป็นผู้ใด
กระทั่งวันที่ 3 ต.ค.เวลาประมาณ 17.00 น. ยังไม่เห็นพี่ชายกลับมาที่บ้านพัก เพราะต้องเปลี่ยนกันดูแลมารดา จึงโทรศัพท์ไปสอบถามแต่ไม่สามารถติดต่อได้ จึงมาแจ้งความคนหายไว้กับตำรวจ และทราบข่าวมีผู้พบศพคนเสียชีวิตลอยน้ำจากตำรวจชุดสืบสวน เมื่อไปดูศพก็จำได้ว่าเป็นพี่ชาย เพราะนิ้วเท้าไม่เท่ากันและมีรอยแผลเป็นที่หลัง เป็นตำหนิรูปพรรณตรงกับพี่ชาย จึงมั่นใจว่าเป็นศพของ ผศ.ดร.อรรจน์ พี่ชายตนอย่างแน่นอน

ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตนั้นติดใจสงสัยว่าจะเป็นฆาตกรรมโดยการถูกทำร้ายร่างกาย เพราะพี่ชายของตนว่ายน้ำเป็น อาจจะเป็นเพื่อนชายที่เดินทางไป จ.อุตรดิตถ์ ด้วยกัน เพราะพี่ชายมีพฤติกรรมเป็นพวกประเภทชายรักชาย โดยมีคนรักเป็นชายอยู่ที่ จ.สงขลา ที่คบหากันมาประมาณ 25 ปีแล้ว ซึ่งกำลังจะมาหาที่พิษณุโลกเร็วๆ นี้
ผศ.ดร.ทรัตน์พร กล่าวต่อว่า ส่วนผู้ชายที่ไป จ.อุตรดิตถ์ ด้วยกันน่าจะเป็นคนที่แอบคบหากันอยู่ โดยเป็นคนที่ตนไม่รู้จักเพราะพี่ชายไม่ยอมเปิดเผยให้ทราบ จากการสอบถามเจ้าหน้าที่โรงแรมที่พี่ชายนำรถไปจอดไว้ทราบว่า ชายคนนี้อายุประมาณ 30 – 35 ปี สูงประมาณ 170 ซม. ผิวขาว ขับรถยนต์เก๋งยี่ห้อมิตซูบิชิ แลนเซอร์ โดยพี่ชายตนนั่งโดยสารไปกับชายคนดังกล่าว และจากข้อมูลล่าสุด นักศึกษาที่พี่ชายไปนิเทศการฝึกงานก็ส่งภาพพี่ชายขณะที่ไปนิเทศมาให้ดูอยู่ แต่งชุดสุภาพเรียบร้อยใส่สูทและยังมีแหวนทองคำ สร้อยคอทองคำ อยู่ แต่ขณะพบศพไม่พบทั้งแหวนและสร้อยคอทองคำ ส่วนสร้อยที่ห้อยพระเครื่องคล้องคอพี่ชายอยู่ขณะพบศพ ก็ไม่ใช่ของพี่ชายตนอย่างแน่นอน กระเป๋าสตางค์ที่ใส่เอกสารและเงินสดจำนวนหนึ่งก็หายไปด้วย จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมคนร้ายรายนี้ให้ได้โดยเร็ว