ตร.สงขลานำตัวชายชาวจีนต้องสงสัยฆ่า สาวจีนตายที่น้ำตกโตนงาช้างไปดูศพที่โรงพยาบาลและพาไปชี้จุดขณะเดินทางเข้ามาพักใน อ.หาดใหญ่ ก่อนเตรียมรวมหลักฐานออกหมายจับผู้ต้องสงสัยอีก 2 คน...

ความคืบหน้าคดีการเสียชีวิตของ น.ส.เทียน เหล่ย นักท่องเที่ยวสาวชาวจีนที่ถูกพบกลายเป็นศพที่น้ำตกโตนงาช้าง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เมื่อวันที่ 20 กันยายน ที่ผ่านมาซึ่งคาดว่าน่าจะถูกฆาตกรรมอำพราง และขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐานเพื่อออกหมายจับผู้ต้องสงสัยซึ่งเบื้องต้นมีอย่างน้อย 2 คน

ล่าสุด เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 2 ต.ค.2561 พ.ต.ท.เขมรินทร์ พิสมัย หัวหน้าชุดศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ถูกส่งมาคุมคดีนี้พร้อมชุดสืบสวนของตำรวจท่องเที่ยวหาดใหญ่ได้นำตัว นายไห่ หลง จ่าว หนึ่งในผู้ต้องสงสัยออกจากศูนย์กักคนเข้าเมืองสะเดา จ.สงขลา เพื่อมาดูศพของ น.ส.เทียน เหล่ย ที่โรงพยาบาลหาดใหญ่ เพื่อยืนยันอีกครั้งว่ารู้จักกับผู้ตายหรือไม่ แต่ก็ยังคงยืนยันว่าไม่รู้จักแต่อย่างใด และมีท่าทีที่เรียบเฉยเหมือนเดิม

หัวหน้าชุดศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังนำตัวไปชี้จุดยังโรงแรมที่พักย่านซีกิมหยง เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ที่เดินทางเข้ามาพักในช่วงเกิดเหตุกับเพื่อนชายชาวจีนอีกคนที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยและเดินทางกลับประเทศจีนไปแล้วแต่ไม่ได้นำตัวลงจากรถตู้แต่อย่างใด ซึ่งการนำตัว นายไห้ หลง จ่าย ออกมาดูศพและชี้จุดต่างๆ ทางชุดสืบสวนเผยว่าเพื่อดูว่าตรงหรือขัดแย้งกับผลการสอบสวนของเจ้าหน้าที่หรือไม่และพบพิรุธในจุดใดบ้าง

...

พ.ต.ท.เขมรินทร์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ ยังไม่สามารถออกหมายจับผู้ต้องสงสัยรายนี้ได้เนื่องจากคำให้การบางประเด็นยังไม่ชัดเจนคำให้การยังเป็นข้อสงสัยอยู่ ส่วนปมความขัดแย้งที่ญาติเชื่อว่าจะถูกฆาตกรรมจากคำให้การของอาผู้ตาย ที่พ่อแม่ให้เป็นตัวแทนมาดูศพ และให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ก่อนหน้านี้ พบว่า ผู้ตายได้ขายอพาร์ตเมนต์ที่ประเทศจีน และระดมเงินจากญาติราว 2 ล้านหยวน หรือประมาณ 10 ล้านบาท และบอกว่าจะนำเงินไปลงทุนทำธุรกิจที่ประเทศมาเลเซีย แต่หลังจากนั้นไม่นานก็กลับมาบอกว่าถูกโกง ญาติจึงเชื่อว่าไม่น่าจะเป็นอุบัติเหตุแต่ถูกฆาตกรรม แต่ญาติไม่รู้จักกับผู้ตายทั้งสองคนและแทบจะไม่รู้เรื่องราวส่วนตัวของผู้ตายเนื่องจากออกมาใช้ชีวิตอยู่ตามลำพัง

หัวหน้าชุดศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ กล่าวด้วยว่า ขั้นตอนหลังจากนี้จะเป็นการประสานข้อมูลจากทางการจีนมาประกอบการสวนสวนเพราะไทยเป็นแค่พื้นที่เกิดเหตุส่วนข้อมูลส่วนตัวอื่นๆ ที่จะเชื่อมโยงไปยังกลุ่มผู้ต้องสงสัยในคดีนี้ต้องได้รับความร่วมมือจากจีน.