เหตุนองเลือดที่ตรัง มือสังหารใช้ปืนติดลำกล้อง ส่องยิงชายวัย 48 ในงานศพอย่างอุกอาจ เสียชีวิต ทราบเหยื่อกระสุนเป็น 1 ในพยานที่ถูกนำตัวเค้นสอบในค่ายทหารฯ คดีคนร้ายลอบวางเพลิงเผาเครื่องจักรกลทำถนน และคดียิงคนงานทำถนน อบจ.ตรัง จนท.คาดปมสังหารล้างแค้น-ขัดแย้งส่วนตัว เร่งล่าตัวแก๊งมือปืน สาวตัวผู้บงการดำเนินคดี
เมื่อวันที่ 17 ก.ย. 61 ร.ต.อ.สุวิทย์ เพ็งลำ รอง สว.(สอบสวน) สภ.นาโยง จ.ตรัง ได้รับแจ้งเหตุมีคนถูกยิงเสียชีวิตภายในงานศพวัดโคกสะบ้า หรือวัดนางประหลาด ม.5 ต.โคกสะบ้า หลังรับแจ้งจึงรายงานผู้บังคับบัญชา พร้อมด้วย พ.ต.อ.ชัยโรจน์ โพธิปฐม ผกก. พร้อมกำลังชุดสืบสวนฯ ก่อนแจ้งประสานไปยัง ตร.กองพิสูจน์หลักฐาน จ.ตรัง และแพทย์เวร รพ.นาโยง รุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ พบชาวบ้านและแขกที่มาร่วมงานศพกำลังอยู่ในอาการตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อหน้าต่อตา ทราบชื่อผู้ตายคือ นายอำนวย เพ็ชรรัตน์ อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 14 ม.6 บ้านควนน้ำผึ้ง ต.ทุ่งค่าย อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง สภาพศพสวมเสื้อยืดสวมทับด้วยเสื้อยีนส์ นุ่งกางเกงยีนส์ ขณะนั่งบนเก้าอี้พลาสติกสีน้ำเงิน พบมีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาด เข้าที่บริเวณศีรษะด้านหลังตรงท้ายทอย 1 นัด สีข้างด้านขวา 2 นัด รวม 3 นัด สิ้นใจตายคาที่
จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตายมานั่งล้อมวงเล่นไพ่ดัมมี่กับญาติๆ ข้างโลงศพ นายคมสัน หรือนิ่ม ทองประดับ อายุประมาณ 35 ปี อาชีพรับซื้อของเก่า ที่ใช้อาวุธปืนยิงปลิดชีพตัวเองในห้องนอนร้านแผงขายพระเครื่องใจกลางเมืองตรัง เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 9 ก.ย.61 ที่ผ่านมา โดยทางคณะเจ้าภาพได้จัดงานศพที่วัดโคกสะบ้าแห่งนี้
ขณะที่แนวทางการสืบสวนสอบ ทางเจ้าหน้าที่ ตร.สันนิษฐานว่า กลุ่มคนร้ายได้มาวนเวียนดูลาดเลาภายในงานศพก่อนหน้าแล้วก่อนลงมือยิง แต่ไม่มีใครเอะใจ ซึ่งก่อนเกิดเหตุนายอำนวยผู้ตายได้มาร่วมงานศพญาติเป็นประจำทุกคืน และก่อนเกิดเหตุได้ชักชวนญาติๆ เล่นไพ่ดัมมี่เป็นเพื่อนศพตามวิถีของชาวบ้าน ระหว่างนั้นได้มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนได้ขับรถยนต์เก๋งไม่ทราบสียี่ห้อและหมายเลขทะเบียน มาจอดซุ่มอยู่ในที่มืดห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 20-30 เมตร เมื่อสบจังหวะโอกาส 1 ในคนร้ายที่นั่งอยู่เบาะด้านหลังฝั่งขวา ได้ชักปืนออกมาพาดกับขอบหน้าต่างรถ ก่อนเล็งเป้าลั่นไกยิง จำนวน 3 นัดซ้อน แล้วหลบหนีออกทางประตูหน้าวัด และยิงเบิกทางอีก 2 นัด ขับรถหนีไปทางสี่แยกนาปด อ.นาโยง ขณะที่เจ้าหน้าที่ฯ พยายามวิทยุสกัดจับตามเส้นทางที่คาดว่ากลุ่มคนร้ายจะใช้หลบหนี แต่ไร้วี่แวว
...
ขณะที่ พ.ต.อ.ชัยโรจน์ โพธิปฐม ผกก.สภ.นาโยง เปิดเผยว่า แนวทางการสืบสวนสอบสวน ได้เรียกสอบพยานไปแล้วหลายปาก ส่วนกล้องวงจรปิดหน้าวัดมี แต่ทราบว่าโดนฟ้าผ่าใช้การไม่ได้ ขณะนี้ได้สั่งการไปยัง ตร.ชุดสืบสวน ร่วมกับสืบสวน ภ.จว.ตรัง ในการติดตามแกะรอยภาพวงจรปิดและรถต้องสงสัย ทราบว่าเป็นรถยนต์เก๋ง สีดำ ไม่ทราบยี่ห้อ และหมายเลขทะเบียน และกลุ่มคนร้ายเป็นมืออาชีพ ใช้อาวุธปืนติดลำกล้องในการก่อเหตุ และวางแผนมาเป็นอย่างดี มีการแฝงตัวมาเช็กเป้าหมายก่อนลงมือ
พ.ต.อ.ชัยโรจน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับประวัติผู้ตายเป็นคนนอกพื้นที่ ได้มางานศพญาติห่างๆ ผู้เสียชีวิตเคยมีประวัติเข้าออกเรือนจำคดีเกี่ยวกับทรัพย์ จับอาวุธปืน เสื้อเกราะ และเคยก่อเหตุทะเลาะวิวาทแทงกันตายภายในคุก และพัวพันกับธุรกิจไม่เปิดเผย ส่วนประเด็นการสังหารมุ่งปมล้างแค้นและขัดแย้งส่วนตัว หรืออาจจะเป็นประเด็นที่ผู้เสียชีวิตเป็นพยานในคดีเผารถ และฆ่าคนงานก่อสร้างปรับปรุงพื้นผิวถนน ตอนนี้สั่งการให้ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวนเร่งติดตามเพื่อคลี่คลายคดี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่บรรยากาศภายในงานศพ ญาติของผู้ตายจับกลุ่มคุยตั้งข้อสังเกตว่า อาจจะเป็นใบสั่งยิงปิดปากจากผู้มีอิทธิพล หลังจากที่ผู้ตายเป็น 1 ในประจักษ์พยาน 10 เป้าหมายในคดีคนร้ายลอบเผาวางเพลิงเครื่องจักรกล และคดียิงคนงานทำถนน อบจ.ตรัง กระทั่งล่าสุด เมื่อวันที่ 5 ก.ย.ที่ผ่านมา ผู้ตายเป็น 1 ในกลุ่มที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ-ทหาร ใช้มาตรา 44 สนธิกำลังกว่า 150 นาย ทั้งในและนอกเครื่องแบบปฏิบัติการจู่โจมตรวจค้น 10 เป้าหมายในพื้นที่ จ.ตรัง คุมตัวไปเค้นสอบเครียดในค่ายทหาร ร.15 พัน 4 ค่ายพระยารัษฎานุประดิษฐ์ ต.ลำภูรา อ.ห้วยยอด จ.ตรัง คดีคนร้ายลอบเผาวางเพลิงเครื่องรถเกรดและรถบดถนน และคดียิงคนงานรับเหมา บริษัท ภักสุธีโกศลก่อสร้าง จำกัด มาจากพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี ขณะเข้ามาปรับปรุงซ่อมแซมโครงการถนนบลาดยาง อบจ.ตรัง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ฯ จะเร่งสืบสวนเพื่อรวบรวมพยานหลักฐานติดตามแก๊งมือปืน และผู้บงการมาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็ว.