ซะงั้น!! “เสี่ยลภ” มือยิง “น้องเนิส” ยังปากแข็งให้การปฏิเสธ “เฉลิมเกียรติ” ยันมีพยานหลักฐานเพียงพอในการเอาผิด ดิ้นไม่หลุดแน่นอน

จากกรณี น.ส.นภธร หรือ เนิส กนกเกษมโสภณ อายุ 24 ปี อดีตพีอาร์สาวสวยหน้าตาดี ถูก นายวัลลภ หรือ เสี่ยลภ ห้วยหงษ์ทอง อายุ 29 ปี หนุ่มคนสนิทที่คบหากัน ใช้อาวุธปืนจ่อยิงร่างพรุนดับคาเก๋งป้ายแดง กระทั่งในเวลาต่อมา “เสี่ยลภ” พร้อมทนายความ ได้เดินทางเข้ามอบตัวกับ พ.ต.อ.ไชยา สุนทรกิจ รอง ผบก.สส.ภ.7 และ พ.ต.อ.ไพบูลย์ แพรสีนวล ผกก.สส.ภ.จว.นครปฐม เมื่อช่วงกลางดึกวันที่ 6 ก.ย. ก่อนถูกคุมตัวสอบปากคำภายในภายในเซฟเฮาส์แห่งหนึ่งในจังหวัดราชบุรี ตามที่มีข่าวเสนอไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 6 ก.ย.61 ที่ สภ.เมืองนครปฐม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. ได้เดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์ เพื่อมาสอบปากคำผู้ต้องหาด้วยตนเอง โดยทาง สภ.เมืองนครปฐม เจ้าของพื้นที่ได้เตรียมจัดสถานที่แถลงข่าวไว้ที่ลานด้านหน้าโรงพัก เพื่อรองรับกองทัพนักข่าวที่มาเกาะติด หลังจากเดินทางมาถึงทางตำรวจ ได้นำตัวผู้ต้องหาเข้าสอบปากคำ ที่ห้องประชุมชั้น 3 โดยไม่ให้ผู้สื่อข่าวตามเข้าไป โดยใช้เวลา 1 ชั่วโมง จากนั้นได้ออกจากห้องประชุมด้วยสีหน้าเคร่งเครียด โดยให้นำตัวนายวัลลภเข้าห้องควบคุมขัง จากนั้นได้เปิดโอกาสให้ผู้สื่อข่าวซักถาม

ซึ่งทาง พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ เปิดเผยว่า ในการสอบสวนผู้ต้องหาได้มอบตัวกับตำรวจชุดสืบสวน โดยได้นำเอาอาวุธปืน ออโตเมติก ขนาด 9 มม. ที่ครอบครองพร้อมทะเบียนปืนมามอบให้ตรวจสอบ โดยให้การปฎิเสธทุกข้อกล่าวหา และไม่ขอให้การในชั้นพนักงานสอบสวน จะขอไปให้การในชั้นศาล และไม่ยินยอมที่จะไปทำแผนด้วย และไม่ขอประกันตัว 

...

พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ เผยต่อว่า ในเมื่อผู้ต้องหาปฏิเสธและไปขอให้การในชั้นศาล ถือเป็นสิทธิของผู้ต้องหา ทางด้านตำรวจก็ได้เพียงแต่รวบรวมสำนวนการสอบสวน หลักฐานจากกองพิสูจน์หลักฐาน และนิติวิทยาศาสตร์เพื่อให้สำนวนแน่นหนา และเชื่อว่าตำรวจมีหลักฐานชัดเจนที่จะดำเนินคดีได้ โดยกำชับให้ชุดสอบสวนทำสำนวนให้รัดกุม และรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ให้มากที่สุด ในระหว่างส่งตัวไปขอผลัดฟ้องต่อศาล ก็จะทำหนังสือขอคัดค้านการประกันตัวนายวัลลภ มือปืนโหดด้วย

คดีนี้จึงต้องใช้เวลาในการรวบรวมหลักฐาน ส่วนอาวุธปืนที่นำมามอบให้นั้นจะต้องนำส่งพิสูจน์ ตรวจดีเอ็นเอ ว่าเป็นปืนที่ใช้ยิงหรือไม่ เมื่อได้เอกสารในการส่งตรวจทุกอย่างครบ ก็จะส่งสำนวนให้อัยการส่งฟ้องทันที และเชื่อว่าผู้ต้องหาดิ้นไม่หลุด เชื่อว่าตำรวจมีหลักฐานครบ หาไม่แล้วศาลคงไม่ออกหมายจับให้ พร้อมกล่าวขอโทษผู้สื่อข่าวที่ไม่ได้นำตัวเสี่ยลภมาแถลงตามแผนที่วางไว้ เพราะผู้ต้องหายังปฏิเสธ.