สืบ บก.น.3 จับหนุ่มชัยนาทพร้อมยาบ้า 400,000 เม็ด ปั๊มตรา 999 จากเครือข่ายว้าใต้ มูลค่าประมาณ 46 ล้าน เผยใช้รถตู้นำเที่ยวแบบวีไอพี ดัดแปลงช่องลับขนของกลางแน่น...

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 4 ก.ย. มีรายงานข่าวว่า พล.ต.ต.สมนึก น้อยคง ผบก.น.3 พร้อมด้วย พ.ต.อ.ชาญวิทย์ พุ่มโพธิ์ รอง ผบก.น.3 พ.ต.อ.ถนัด นักธรรม ผกก.สส.บก.น.3 พ.ต.ท.พีระณฤทธิ์ พรพีระพาน รอง ผกก.สส.บก.น.3 พ.ต.ท.นพดล โพธิ์ศรี สว.กก.สส.บก.น.3 ร.ต.อ.ฐิติภัสร์ บุญมี ร.ต.อ.สมศักด์ วงศ์สมศรี ร.ต.อ.พร ศรีจันทร์ รอง สว.กก.สส.บก.น.3 และเจ้าหน้าที่ กก.สส.บก.น.3 ร่วมกันจับกุมตัว นายตรีเพชร เกิดสมบูรณ์ อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 97 หมู่ 14 ต.แพรกศรีราชา อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท พร้อมของกลาง ยาบ้าบรรจุในซองพลาสติก จำนวน 200 มัด มัดละ 2,000 เม็ด รวมประมาณ 400,000 เม็ด แต่ละมัดระบุตัวเลข 999 ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ยาเสพติดของกลุ่มว้าใต้ แต่ละห่อมีอักษร A, D, G, M เขียนอยู่ด้านบน และไอซ์บรรจุในซองชาจีนสีเขียว มีอักษรตัว L เขียนบนถุง น้ำหนักถุงละ 1 กิโลกรัม จำนวน 2 ถุง รวมน้ำหนัก 2 กิโลกรัม รถยนต์ตู้ ยี่ห้อโตโยต้า คอมมิวเตอร์ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียนป้ายฟ้า ฮษ 5693 กรุงเทพมหานคร โดยสามารถจับกุมได้ที่บริษัท ไดนาโม ถนนสุวินทวงศ์ตัดถนนคุ้มเกล้า แขวงแสนแสบ เขตมีนบุรี กทม. เมื่อเวลา 23.00 น. ของวันที่ 3 ก.ย.ที่ผ่านมา

การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้รับรายงานจากสายลับว่า เจ้าของอู่ซ่อมรถชื่อ บริษัทไดนาโม มีพฤติกรรมค้ายาเสพติดในพื้นที่ บก.น.3 และเป็นที่พักยาเสพติด โดยจะใช้รถตู้ทะเบียน ฮษ 5693 กรุงเทพมหานคร เป็นยานพาหนะในการขนยาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาทางชายแดนภาคเหนือและภาคอีสาน แล้วนำมาซุกซ่อนที่อู่ของบริษัทไดนาโม ก่อนส่งต่อให้ลูกค้าอีกทอด เจ้าหน้าที่จึงเฝ้าสังเกตพฤติกรรมเจ้าของอู่ จนกระทั่งเมื่อวันที่ 1 ก.ย.ที่ผ่านมา พบชาย 2 คนขับรถตู้คันดังกล่าวออกไปจากอู่ โดยเจ้าหน้าที่เชื่อว่ารถตู้จะต้องกลับมาจอดที่เดิม เนื่องจากที่ผ่านมาเมื่อขับออกไปประมาณ 2-3 วัน ก็จะกลับมาจอดที่เดิม จนกระทั่งวันที่ 3 ก.ย. เวลาประมาณ 21.00 น. ชายทั่ง 2 คนขับรถตู้เข้ามาจอดที่อู่ในบริษัทไดนาโม ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เฝ้าสังเกตุการณ์ จากนั้นเวลา 23.30 น. วันเดียวกัน พบนายตรีเพชร ผู้ต้องหามาขับรถออกไป เจ้าหน้าที่เชื่อว่าน่าจะกำลังนำยาเสพติดออกไปส่งจึงได้ทำการสกัดรถตู้คันดังกล่าว ส่วนชาย 2 คนที่ขับรถมาจอดก่อนหน้านี้คาดว่าน่าจะไหวตัวทันและหลบหนีไปก่อน จากการตรวจค้นเบื้องต้น ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย จึงได้นำรถมาตรวจสอบอย่างละเอียดที่ กก.สส.บก.น.3 จากการตรวจสอบพบว่า รถคันดังกล่าวมีการดัดแปลงตกแต่งภายในเป็นรถนำเที่ยววีไอพี มีเครื่องเสียง โทรทัศน์และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เมื่อเปิดพื้นรถออกพบมีการเจาะช่องลับไว้ใต้พื้นจำนวน 4 ช่อง ด้านขวา 3 ช่อง ด้านซ้าย 1 ช่อง เจ้าหน้าที่จึงทำการรื้อเบาะที่นั่งออก เมื่อเปิดช่องลับพบยาบ้าและไอซ์ของกลางอัดแน่นเต็มทั้ง 4 ช่อง จึงเก็บเป็นหลักฐาน พร้อมประสานกองพิสูจน์หลักฐานมาเก็นลายนิ้วมือแฝง และควบคุมตัวนายตรีเพชรทำการสอบสวน

...

จากการสอบสวน นายตรีเพชร ให้การว่า ตนเองมีอาชีพรับจ้างทั่วไป โดยก่อนหน้านี้มีนายเจมส์ (ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง) ซึ่งรู้จักกัน ได้โทรมาว่าจ้างให้ตนไปช่วยขับรถตู้คันของกลาง โดยนัดพบกันที่อู่รถย่านหนองจอก เมื่อไปถึงตนก็พบเจ้าของอู่รถ ซึ่งรู้จักกันในชื่อน้าสอน จากนั้นน้าสอนได้ให้กุญแจรถตู้พร้อมเงินค่าจ้าง 500 บาท ให้ตนขับจากอู่ไปยังหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ในซอยรามคำแหง 174 โดยจอดไว้บริเวณข้างทางภายในหมู่บ้าน แต่ยังไม่ทันได้ขับรถไปถึงที่หมายก็มาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม ทั้งนี้ตนไม่ทราบว่าในรถตู้มียาเสพติด ซึ่งก่อนหน้านี้เคยได้รับการว่าจ้างลักษณะนี้จากน้าสอนมาแล้ว 2-3 ครั้ง ทุกครั้งก็จะให้ไปจอดที่เดียวกัน ตนจึงไม่คิดว่าภายในรถจะมีของผิดกฎหมาย เพราะจุดที่ให้ไปจอดเป็นหมู่บ้านและคิดว่าไปจอดให้ลูกค้าที่จะเอารถไปท่องเที่ยว

อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่คาดว่าหากยาบ้าและไอซ์จำนวนนี้หลุดไปถึงมือผู้ค้ารายย่อยได้จะมีมูลค่าประมาณ 46 ล้านบาท

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหานายตรีเพชรว่า มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า, ไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.มีนบุรี ดำเนินคดี และจะทำการขยายผลติดตามตัวนายสอนเจ้าของอู่รถดังกล่าว ซึ่งคาดว่าจะไหวตัวทันขณะเข้าจับกุม มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.