โจรแสบบุกเดี่ยว ย่องเข้าบ้านหนุ่มเจ้าของบริษัทออแกไนซ์ กวาดเกลี้ยง 3 แสน เผยฉวยโอกาสลงมือ ขณะหลานสาวเอาเงินออกมานั่งนับ ก่อนลุกไปเข้าห้องน้ำแค่ 5 นาที
เมื่อวันที่ 1 ก.ย.61 นายเดชสุนทร แสงคล้อย อายุ 38 ปี เจ้าของบริษัทออแกไนซ์ เข้าร้องเรียนต่อผู้สื่อข่าวพร้อมกับนำภาพจากกล้องวงจรปิดภายในบ้านที่จับภาพคนร้ายขณะบุกเข้ามาก่อเหตุลักทรัพย์ภายในบ้าน ในหมู่บ้านเสนานิเวศน์ 1 ถนนเสนานิเวศน์ ซอย 110 / 3 แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กทม. ได้ทรัพย์สินเป็นเงินสดจำนวน 3 แสนบาท เหตุเกิดเมื่อเวลา 19.40 น. วันที่ 26 สิงหาคม ที่ผ่านมา
นายเดชสุนทร เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เมื่อเวลา 19.40 น. ของวันที่ 26 สค.61 ที่ผ่านมา ขณะที่ตนทำธุระอยู่นอกบ้านได้รับโทรศัพท์จากหลานสาวว่ามีคนร้ายเข้ามาขโมยเงินสดภายในบ้านขณะที่กำลังเข้าห้องน้ำ จึงรีบเดินทางกลับมาบ้านเพื่อมาตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในบ้านและแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.โชคชัย เจ้าของพื้นที่ให้มาตรวจสอบ
นายเดชสุนทร กล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่าคนร้ายเป็นชาย อายุประมาณ 35 ปี สวมหมวกนิรภัยแบบครึ่งใบสีขาว ใส่แว่นสายตา แล้วเลื่อนเปิดประตูเหล็กหน้าบ้านซึ่งปิดอยู่แต่ไม่ได้ล๊อก แล้วเข้ามาเปิดประตูมุ้งลวดหน้าบ้าน ก่อนเข้ามาหยิบเอาเงินสดจำนวนหนึ่งที่วางอยู่บนโต๊ะภายในบ้าน โดยพยายามยัดเงินเข้าไปในเสื้อแล้วรีบเดินออกมา ระหว่างที่เดินออกมาที่ประตูได้มีเงินบางส่วนตกหล่น คนร้ายจึงก้มเก็บแต่เก็บไม่หมดแล้ววิ่งหลบออกมา ต่อมาคนร้ายได้กลับเข้ามาอีกรอบ แล้วเก็บเงินที่ตกหล่นอยู่ที่พื้นประตูบ้านพร้อมเข้าไปหยิบเงินอีกจำนวนหนึ่งที่ใส่อยู่ในกระเป๋าผ้าที่วางอยู่บนโต๊ะก่อนจะวิ่งหลบหนีไป โดยหลังเกิดเหตุได้ตรวจสอบแล้วพบว่าเงินสดที่คนร้ายได้ไปจำนวน 3 แสนบาท
...
ด้าน น.ส.กนกวรรณ เมธีศุภดิลก หลานสาวผู้เสียหาย เล่าเหตุการณ์ว่า ก่อนเกิดเหตุตนนั้นกำลังนั่งนับเงินสดที่ได้มาจากจากการขายน้ำผลไม้อยู่บนโต๊ะภายในบ้านเพียงลำพัง ระหว่างนั้นเกิดปวดท้องจึงได้ลุกไปเข้าห้องน้ำโดยวางเงินที่กำลังนับอยู่บนโต๊ะ ใช้เวลาประมาณ 4-5 นาที เมื่อกลับมาก็พบว่าเงินที่วางอยู่บนโต๊ะได้หายไปจึงรีบโทรบอกคนที่บ้านว่าถูกคนร้ายเข้ามาขโมยเงินภายในบ้าน
"ก่อนเกิดเหตุในช่วงกลางวันคนร้ายได้ขับขี่ จยย. ไม่ทราบยี่ห้อและทะเบียนมาวนเวียนไปมาในละแวกบ้าน พร้อมกับลงมาทำทีดูรถที่อยู่รวมถึงส่องดูบ้านหลังอื่นๆ ในละแวกบ้านตน จากนั้นช่วงหัวค่ำคนร้ายได้ขับขี่รถ จยย.กลับมาอีกครั้ง ก่อนจะจอดริมถนนตรงข้ามบ้านแล้วเดินมาดู ขณะที่ น.ส.กนกวรรณนั่งนับเงินอยู่หลายรอบ โดยไม่สวมหมวกนิรภัยลงมายืนดูที่กำแพงบ้านเมื่อมีโอกาสจึงลงมือก่อเหตุ ซึ่งเงินที่หลานเอาออกมานับนั้น ภรรยาของตนเตรียมไว้เพื่อจะนำไปให้แม่ภรรยาจ่ายค่างวดบ้าน เนื่องจากจะโดนทางธนาคารยึด แต่ก็มาเกิดเหตุเสียก่อน
นอกจากนี้หลังเกิดเหตุตนได้คุยกับลูกบ้านในละแวกเดียวกัน ก็พบว่าคนร้ายซึ่งมีลักษณะรูปพรรณตรงกับรายนี้ได้ก่อเหตุเข้าบ้านอื่นๆ อีกหลายบ้าน โดยกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพพฤติกรรมขณะเข้าบ้านอื่นของคนร้ายรายนี้ไว้ได้ ทั้งนี้อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งจับคนร้ายให้ได้โดยเร็ว เนื่องจากเป็นภัยของสังคม อีกทั้งคนในบ้านซึ่งส่วนใหญ่มีแต่ผู้หญิงและเด็กต่างอกสั่นขวัญหนีหวาดกลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โชคดีที่คนร้ายได้ทรัพย์สินไปอย่างเดียวไม่ได้ทำอันตรายคนในบ้าน" นายเดชสุนทร กล่าว