ฝากขัง โก้-น้องชาย อ้างคับแค้น ถูกฝ่ายหญิงทำร้าย คาดคั้นเรื่องเมียเก่ากับลูก คืนเกิดเหตุฝ่ายหญิงคว้าไม้เบสบอลจะตี เลยแย่งมาฟาดไม่ยั้ง ตร.แจ้งข้อหา"ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา-ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน" พร้อมค้านประกัน
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 1 ก.ย. ที่สน.โชคชัย เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวนายอัศยา หรือโก้ ชัยภา อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาฆาตกรรม น.ส.ธิติมา ตั้งวิบูลย์พาณิชย์ หรือไฮโซเชอรี่ และนายอนุวัฒน์ ชัยภา อายุ 32 ปี น้องชาย ส่งศาลอาญาเพื่อดำเนินคดี โดยนายอัศยา แต่งกายด้วยเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาวสวมเสื้อหนังสีน้ำตาลคลุมทับ กางเกงยีนส์ขายาว รองเท้าผ้าใบ เดินขึ้นรถขังผู้ต้องหาด้วยสีหน้าเรียบเฉย ส่วนนายอนุวัฒน์ แต่งกายสวมเสื้อยืดคอกลมสีขาว-น้ำเงินแขนยาว กางเกงวอร์มขายาวสีน้ำเงิน รองเท้าผ้าใบ โดยพยายามก้มหน้าหลบผู้สื่อข่าวที่กำลังถ่ายภาพ
พ.ต.ท.พสิษฐ์ สายชนม์ศักดิ์ รองผกก.(สอบสวน) สน.โชคชัย เปิดเผยว่าขณะนี้ได้ทำการคัดค้านการประกันตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คน เนื่องจากผู้ต้องหามีพฤติการณ์หลบหนี ซึ่งจากการสอบสวนนายอัศยา ให้การว่าผู้ต้องหากับผู้ตายคบหากันมานานกว่า1 ปี และมักจะมีปากเสียงทะเลาะกันบ่อยครั้ง ในเรื่องภรรยาเก่า และลูกของผู้ต้องหา ฝ่ายผู้หญิงมักจะชอบลงมือทำร้ายร่างกายนายอัศยาทุกครั้งที่มีปากเสียง ส่วนวันเกิดเหตุได้มีปากเสียงกันจนถึงขั้นฝ่ายหญิงหยิบไม้เบสบอลที่วางไว้ที่โซฟาจะมาทำร้าย ผู้ต้องจึงแย่งไม้เบสบอลมาก่อนจะกระหน่ำตีไปที่ศีรษะของฝ่ายหญิงจนแน่นิ่งไปโดยจำไม่ได้ว่าตีไปกี่ครั้ง
พ.ต.ท.พสิษฐ์ เปิดเผยต่อว่าหลังจากตีฝ่ายหญิงจนแน่นิ่ง ก็ได้โยนไม้เบสบอลลงบนที่นอนก่อนจะเดินออกจากห้องและตรงไปหาน้องชาย จากนั้นได้หลบหนีไปยังประเทศเพื่อนบ้าน โดยโกหกน้องชายว่าจะพาไปเที่ยว ส่วนเรื่องเงินของฝ่ายหญิงที่หายไปนั้นผู้ต้องหาให้การปฏิเสธว่าไม่มีส่วนรู้เห็นใดๆ ทั้งสิ้น และเงินที่ใช้หลบหนี เป็นเงินส่วนตัวของตนซึ่งยังมีเงินเก็บเหลืออยู่
...
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหานายอัศยา ในข้อหา "ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา" และ "ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน" นำตัวส่งดำเนินคดีศาลอาญา ส่วนนายอนุวัฒน์ แจ้งข้อหา "ช่วยเหลือผู้กระทำผิดหลบหนี" นำตัวส่งศาลแขวงพระนครเหนือ โดยคำร้องฯฝากขัง ระบุว่า กรณีเมื่อระหว่างวันทร่ 26-27 ก.ค. ต่อเนื่องกันผู้ต้องหานี้ได้ใช้ไม้เบสบอลตีทำร้ายน.ส.ธิติมา ตั้งวิบูลย์พาณิชย์ หรือไฮโซเชอรี่ อายุ 39 ปี นักธุรกิจสาวด้านอสังหาริมทรัพย์ บริเวณท้ายทอย สมองได้รับความกระทลกระเทือนอย่างรุนแรง จนถึงแก่ความตาย แล้วลักทรัพย์สิน 9 รายการของผู้ตาย อาทิ รถยนต์เบนซ์ โทรศัพท์มือถือ เครื่องประดับ กระเป๋าแบรนด์เนมและอื่นๆ รวม มูลค่า 8 แสนบาท เหตุเกิดถายในห้องพัก2720 กรีนพอยท์ เรซซิเดนซ์ ซ.ประดิษฐ์มนูธรรม 19 แขวง- เขตลาดพร้าว กทม.
ต่อมาพนักงานสอบสวนขออนุมัติหมายจับจากศาลอาญาที่ จ.1704/61ลงวันที่ 31 ส.ค.62 ข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ฯ และลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ติดตามจับกุมผู้ต้องหาได้บริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ส่งพนักงานสอบสวนสวนโชคชัยดำเนินคดี ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288และ 355(1)
ชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา แต่เนื่องจากต้องสอบพยานเพิ่มเติม 5 ปาก รอผลการตรวจลายพิมพ์มือผู้ต้องหา และอื่น ๆ จึงได้มา ยื่นคำร้องฝากขังต่อศาลครั้งแรก เป็นเวลา 12วัน คั้งแต่วันที่ 1-12 ก.ย. นี้
ท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนขอคัดค้านการประกัน เนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูง หากปล่อยเกรงผู้ต้องหาจะหลบหนี ศาลพิจารณาคำร้องและสอบถามผู้ต้องหาแล้วไม่คัดค้านจึงอนุญาตให้ฝากขังได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ไม่มีญาตินายอัศยา มายื่นหลักทรัพย์และคำร้องขอปล่อยชั่วคราสแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ จึงนำตัวไปควบคุมไว้ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพต่อไป
ส่วนนายอนุวัฒน์ ชัยภา อายุ 32 ปีน้องชายนายอัศยา ถูกดำเนินคดี ข้อหาผู้ใดให้การช่วยเหลือผู้อื่นซึ่งกระทำความผิดหลบหนีไม่ให้ต้องถูกจับกุมตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 189 พนักงานสอบสวน สน.โชคชัยได้นำตัวไปผัดฟ้องฝากขังต่อศาลแขวงพระนครเหนือเป็นเวลา 6 วัน ตั้งแต่วันที่ 1-6 ก.ย.นี้