การขยายตัวทางเศรษฐกิจ ที่ต่อเนื่องของประเทศไทย ล่าสุดสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ได้แถลงตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศในไตรมาส 2 ปี 2561 ขยายตัว 4.6 เปอร์เซ็นต์ ส่งผลให้ครึ่งปีแรก GDP ขยายตัวที่ 4.8 เปอร์เซ็นต์
เนื่องจากการบริโภคเอกชนและการลงทุนขยายตัวอย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงการสำรวจความเชื่อมั่นผู้ประกอบการประจำเดือน ก.ค.2561 พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นอยู่ที่ 93.2 สูงสุดรอบ 5 ปี ถือเป็นสัญญาณการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจอย่างชัดเจน
การขยายตัวทางเศรษฐกิจต่อเนื่องติดต่อกันหลายปี จำนวนประชากร และปริมาณรถในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลเพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว ขณะที่พื้นถนนมีอัตราการเพิ่มไม่มาก การตัดและขยายถนนเป็นไปได้ยาก เพราะส่วนใหญ่ติดที่ของเอกชน รวมถึงปัญหาการวางผังเมืองที่เรื้อรังมานาน

การแก้ไขปัญหาจราจรใน กทม.เป็นโจทย์ยาก อันเนื่องมาจากข้อจำกัดในหลายด้าน
ช่วงกลางเดือน ส.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้ตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายการปฏิบัติงานของศูนย์ควบคุมและสั่งการจราจร หรือ “บก.02” ซึ่งเป็นศูนย์ควบคุมสั่งการตามโครงสร้างใหม่ ครอบคลุมการบริหารจัดการจราจรในเขต กทม.และปริมณฑล
...
เนื่องจากปัจจุบันการขยายตัวของเขตเมือง ทำให้การจราจรมีความเกี่ยวพันกันระหว่างตัวเมืองชั้นในไปจนถึงแหล่งชุมชนในปริมณฑล การแก้ไขปัญหาจำเป็นต้องบูรณาการความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กองบัญชาการตำรวจนครบาล ตำรวจภูธรจังหวัดในเขตปริมณฑล การทางพิเศษแห่งประเทศไทย การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ กรมการขนส่งทางบกและหน่วยงานอื่นๆที่เกี่ยวข้อง
ในการตรวจเยี่ยมนายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้สำนักงานตํารวจแห่งชาติ ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบการบริหารจัดการระบบจราจร เร่งนำเทคโนโลยีเข้ามาเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานในเรื่องนี้
พล.ต.ท.ณัฐธร เพราะสุนทร ผู้ช่วย ผบ.ตร. ได้รับมอบหมายจาก พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ทำหน้าที่หัวหน้าคณะทำงานขับเคลื่อนระบบการชำระค่าปรับโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ และระบบบริหารจัดการใบสั่งจราจร (PTM)

ระบบบริหารจัดการใบสั่งจราจรเป็นระบบที่บริหารจัดการออกใบสั่งในภาพรวม ตั้งแต่ขั้นตอนการออกใบสั่งบันทึกข้อมูล จัดพิมพ์ใบสั่ง บันทึกคะแนนผู้ขับขี่จนถึงชำระค่าปรับ เชื่อมต่อกับฐานข้อมูลของกรมการขนส่งทางบกแบบ Real Time มีการนำระบบตัดคะแนนผู้ขับขี่มาบังคับใช้ โดยจำนวนคะแนนที่ถูกตัดจะขึ้นอยู่กับข้อหาที่กระทำความผิด หากถูกตัดคะแนนจนหมดระบบจะส่งข้อมูลไปยังกรมการขนส่งทางบกเพื่อพักใช้ใบอนุญาตขับขี่
ระบบคะแนนผู้ขับขี่เป็นสิ่งที่ตอบโจทย์ปัญหาความปลอดภัยบนท้องถนน มากกว่าการเสนอแก้ไขปัญหากฎหมายเพิ่มค่าปรับมากๆ ซึ่งจะกระทบโดยตรงต่อคนหาเช้ากินค่ำ ไม่สอดคล้องกับนโยบายของนายกรัฐมนตรีที่น่าเป็นห่วง ผลกระทบต่อพี่น้องประชาชน ระบบคะแนนผู้ขับขี่จะสร้างความเท่าเทียมของประชาชนในสังคม ลดความเหลื่อมล้ำในด้านรายได้ มุ่งเน้นการสร้างวินัยจราจร ลดความสูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนน
อีกประเด็นหนึ่งที่น่าสนใจคือ การกำหนดอัตราความเร็วให้เหมาะสมกับสภาพถนนปัจจุบัน เนื่องจาก พ.ร.บ.จราจรทางบกฯฉบับที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน เขียนเมื่อปี 2522 หรือเกือบ 40 ปีที่แล้ว ในขณะที่ปัจจุบันเทคโนโลยียานยนต์และสภาพถนนได้พัฒนาไปมาก คณะทำงานจึงได้ทำการศึกษาถึงอัตราความเร็วที่เหมาะสม เพื่อให้การจราจรเคลื่อนตัวไปได้เร็วขึ้น สามารถบังคับใช้และปฏิบัติได้จริง ล่าสุดอยู่ในขั้นตอนรับฟังความคิดเห็นและวิเคราะห์ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นตามประเด็นที่มีการเสนอแก้ไข

คาดว่าน่าจะแล้วเสร็จ สามารถส่งเรื่องกลับไปยังคณะรัฐมนตรีในไม่ช้า
สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เดินหน้านำเทคโนโลยีใหม่ๆเข้ามาเพิ่มประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎหมาย เช่น ระบบตรวจจับรถฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจร หลังติดตั้งพบว่าจำนวนผู้ฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจรลดลงต่อเนื่อง ล่าสุดได้เริ่มใช้ระบบตรวจจับรถฝ่าฝืนเปลี่ยนช่องเดินรถในเขตห้าม
ลดปัญหาอุบัติเหตุและการจราจรติดขัด เกิดจากกรณีรถปาด เบียด หรือแซงบริเวณทางขึ้นสะพานข้ามแยกและอุโมงค์ทางลอดแยก ในระยะแรกได้ติดตั้ง 15 จุดทั่ว กทม. หลังจากเปิดใช้งานระบบ 4 วัน พบผู้กระทำผิดถึงเกือบหนึ่งแสนราย
...
นโยบายของรัฐบาลในการส่งเสริมให้ประชาชนใช้ระบบขนส่งสาธารณะถือว่าเดินมาถูกทาง เป็นการแก้ไขปัญหาอย่างตรงจุด เน้นลดการใช้รถยนต์ส่วนบุคคล เร่งพัฒนาระบบขนส่งแบบรางให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ เพื่อขนคนจากแหล่งพักอาศัยในแถบชานเมืองเข้ามาทำงานในตัวเมืองชั้นใน และพื้นที่ศูนย์กลางทางธุรกิจ เพราะได้เปรียบเรื่องค่าใช้จ่าย ประหยัดระยะเวลา มีความปลอดภัยสูง และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
รวมไปถึงนโยบาย “One Transport” เชื่อมโยง “ล้อรางเรือ” เข้าด้วยกันตามยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบขนส่งของไทย ถือเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพของระบบขนส่งสาธารณะของไทย เป็นการแก้ไขปัญหาจราจรแบบยั่งยืน ลดความสูญเสียที่เกิดจากอุบัติเหตุด้านจราจร ซึ่งเป็นความสูญเสียอย่างมากในแต่ละปี

อีกประเด็นหนึ่งที่ภาครัฐให้ความสำคัญคือ การกระจายความเจริญไปสู่ภูมิภาคเป็นอีกแนวทางหนึ่งที่สำคัญ โดยเฉพาะโครงการรถไฟความเร็วสูง เชื่อมต่อสนามบินและจังหวัดหัวเมือง และโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ตามแผนยุทธศาสตร์ “ไทยแลนด์ 4.0” เพื่อกระจายเขตเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมไปสู่ภูมิภาค ลดความแออัดในกรุงเทพมหานคร
...

พล.ต.ท.ณัฐธร เพราะสุนทร ผู้ช่วย ผบ.ตร. กล่าวกับ “ทีมข่าวอาชญากรรม” ว่า “การแก้ไขปัญหาจราจร นอกจากนโยบายของรัฐที่แก้ไขปัญหาอย่างตรงจุดตรงประเด็นที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว ยังจำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่าย จะอาศัยตำรวจจราจรเพียงอย่างเดียวคงไม่ได้ ต้องวิเคราะห์ปัญหาในภาพรวมทั้งระบบ เพราะทุกปัจจัยเกี่ยวข้องกันหมด ไม่ว่าจะเป็นการบังคับใช้กฎหมาย ผังเมืองและความเชื่อมต่อของเส้นทาง หลักวิศวกรรมจราจร ระบบขนส่งสาธารณะ สภาพยานพาหนะ กฎหมายจราจร และที่สำคัญที่สุด คือการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน จิตสำนึกและความรับผิดชอบต่อสังคม การแก้ไขปัญหาจราจรจึงจะสำเร็จได้ ทั้งนี้ทั้งนั้น เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้รถใช้ถนน พร้อมกับยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในสังคม”
คือภาพรวมการแก้ไขปัญหาจราจรในอนาคตอันใกล้.
ทีมข่าวอาชญากรรม