ศพปริศนา ถูกตัดศีรษะและแขนทั้ง 2 ข้างลอยโผล่กลางแม่น้ำแม่น้ำแควน้อย ชาวพม่าในพื้นที่บ้านแก่งจอ อ.ไทรโยค ยืนยันเป็นเพื่อนแรงงานที่หายตัวไป หลังพบหลักฐานสำคัญรอยสักรูปหนุมาน ตำรวจเร่งคลี่คลายคดีล่าตัวฆาตกรโหด

จากกรณีพบศพชายไม่ทราบชื่อและสัญชาติ อายุระหว่าง 30-40 ปี ถูกตัดศีรษะและแขนทั้ง 2 ข้างขาดหายไป ซึ่งศพดังกล่าวลอยมาตามสายน้ำแม่น้ำแควน้อย และมีชาวบ้านล่องเรือไปพบเห็น จึงได้รีบแจ้งให้เจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบ จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้มอบหมายให้ นายขวัญชัย ถิระศิลป์ กรรมการบริหารมูลนิธิกู้ภัยกาญจนบุรี นำศพไปชันสูตรที่สถาบันนิติเวชวิทยา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อวันที่ 13 ส.ค.ที่ผ่านมา จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.ให้ความสำคัญต่อคดีนี้เป็นอย่างมาก เพราะถือว่าเป็นการฆาตรกรรมที่โหดเหี้ยม

ล่าสุด เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 14 ส.ค.61 พล.ต.ท.กิตติพงษ์ เงามุข ผบช.ภ.7 สั่งการให้ พล.ต.ต.สมชาย รักเสนาะ ผบก.สส.ภาค 7 นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ภาค 7 และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ภ.จว.กาญจนบุรี ลงพื้นที่เพื่อร่วมคลี่คลายคดี โดยประสานงานร่วมกับ พ.ต.อ.ธานี สงวนจีน ผกก.สภ.ไทรโยค พ.ต.ท.วิษณุ ทวีแสง รอง.ผกก.สส.สภ.ไทรโยค พ.ต.ท.สนธยา ฉายเกียรติ์ขจร สว.สส.สภ.ไทรโยค ร.ต.อ.สาโรช สุดมี รอง สว.สส.สภ.ไทรโยค พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ไทรโยค ร่วมประชุมวางแผนในการติดตามติดตามหาหลักฐานรวมทั้งหาเบาะแสให้ทราบโดยเร็วว่าผู้เสียชีวิตนั้นเป็นใครและเร่งคลี่คลายคดีนี้ให้เร็วที่สุด

ต่อจากนั้น ชุดสืบสวนทั้งหมดร่วมได้แบ่งกำลังออกเป็นสามชุด ชุดแรกลงพื้นที่ล่องเรือไปตามลำน้ำแควน้อย จากจุดพบศพขึ้นไปทางอำเภอทองผาภูมิ เพื่อสอบถามหาข้อมูลของผู้เสียชีวิตจากประชาชนและผู้ประกอบการชาวแพ ที่อยู่ 2 ฟากฝั่งแม่น้ำ ขณะนี้เจ้าหน้าที่ ล่องเรือไปถึงแพพักชื่อดังแห่งหนึ่งที่อยู่ในท้องที่ หมู่ 8 ต.ท่าเสา อ.ไทรโยค ที่ห่างออกไปกว่า 10 กิโลเมตร

...

ส่วนกำลังชุดที่สองลงพื้นที่ตามกลุ่มเป้าหมายตามชุมชนที่มีแรงงานต่างด้าวอาศัยอยู่ และสืบสวนหาเบาะแสจากผู้นำท้องถิ่น ผู้นำท้องที่ ที่อยู่เหนือจุดพบศพขึ้นไป แต่ยังไม่พบเบาะแสและข้อมูลของผู้เสียชีวิตเช่นกัน

ต่อมาเวลา 14.00 น. พล.ต.ต.สมชาย รักเสนาะ ผบก.สส.ภาค 7 ชุดสืบสวน ภ.7 ได้ลงพื้นที่ บ้านแก่งจอ หมู่ 4 ต.ไทรโยค เนื่องจากชุดสืบสวนสืบทราบว่า พบเบาะแสร่องรอยของการต่อสู้ในพื้นที่บ้านแก่งจอ เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายจึงมุ่งหน้าไปที่จุดต้องสงสัยดังกล่าว ส่วนกำลังเจ้าหน้าที่ที่อยู่ในเรือ กำลังขึ้นฝั่งเพื่อเดินทางโดยรถยนต์ไปสมทบ

โดยเมื่อเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ถึงจุดต้องสงสัยว่าเป็นจุดเกิดเหตุ ตำรวจภูธรสืบสวน สภ.ไทรโยค ชุดสืบสวนภูธรจังกวัดกาญจนบุรี และชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 7 ได้กระจายกำลังลงพื้นที่เข้าสอบสวนคนงานชาวพม่า ในพื้นที่บ้านแก่งจอ ตำบลไทรโยค อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี หลังได้รับแจ้งจากสายข่าวว่ามีเหตุทะเลาะกัน ในพื้นที่บ้านแก่งจอ คาดว่าอาจเกี่ยวข้องกับ กรณีพบศพชายนิรนาม ถูกปาดคอและมือ ลอยน้ำไปตามแม่น้ำแควน้อย

จากการสอบสวน เพื่อนบ้านยืนยันว่าศพที่พบคือ นาย สุไข่ (ไม่มีนามสกุล) ชาวทวาย เมียนมาเพราะมีรอยสักรูปหนุมาน โดยบอกว่าเห็นนายสุไข่ ครั้งล่าสุดเมื่อเย็นวันศุกร์ ที่ผ่านมา แต่ก็ไม่ได้เอะใจ เพราะตัวเองก็ออกไปทำงานทุกวัน จึงไม่ได้สังเกตุ แต่มีเพื่อนบ้านอีกคนไปพบรอยคราบเลือดอยู่ในบ้านพักคนงาน ด้านล่างติดกับแม่น้ำแควน้อย

โดยบ้านพักหลังนี้ มีนายสุไข่ และนายสุนัย ซึ่งเป็นพี่ชายของภรรยานายสุไข่ อาศัยอยู่ด้วยกัน แค่ 2 คน และตอนนี้นายสุนัยก็หายตัวไป จึงเป็นผู้ต้องสงสัยคนเดียวในขณะนี้ โดยเพื่อนบ้านคาดว่าทั้งสองคนอาจทะเลาะวิวาทกัน

จากการตรวจสอบภายในบ้านพักที่เกิดเหตุพบคราบเลือดที่จอบ และผนัง แต่พื้นมีรอยการเทปูนปิดทับรอยเลือดด้วย รวมถึงเห็นเศษผ้าถุงลายเดียวกันกับผ้าถุงที่มัดเอวผู้ตาย ตำรวจพิสูจน์หลักฐานได้เข้าตรวจสอบอย่างละเอียดแล้ว

นอกจากนี้ยังพบลูกสาวของผู้ตายชื่อ นางสาวโอ อายุ 16 ปี ปกติอาศัยอยู่กับแม่จึงไม่ทราบความเคลื่อนไหวของพ่อ จึงเพิ่งจะทราบว่าพ่อเสียชีวิตจากตำรวจ และเป็นคนยืนยันว่าศพผู้ตายคือนายสุไข่ที่มีรอยสักที่แขนซ้าย

โดยเจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ที่คาดว่าจะเกี่ยวข้องกับกาตายในครั้งนี้คือ 1.นายขาว (ไม่มีนามสกุล) หัวหน้าคนงาน ที่เป็นคนสั่งให้คนงานล้างคราบเลือดและสั่งทิ้งสิ่งของเครื่องใช้ผ้าห่มเครื่องครัวลงแม่น้ำแควน้อย และเป็นคนโยนนิ้วมือที่ขาดและอยู่ในที่เกิดเหตุทิ้งลงแม่น้ำเช่นกัน 2.นางรินลี่ ( ไม่มีนามสกุล) อายุ 28 ปี และ 3.นายภูเว ( ไม่มีนามสกุล) อายุ 31 ปี คนงานสองสามีภรรยา ที่นายขาวสั่งให้ราวมล้างคราบเลือดทำความสะอาดที่เกิดเหตุ โดยทั่วสามคนถูกนำตัวมาแยกสอบปากคำที่ สภ.ไทรโยค

อย่างไรก็ตาม ชุดสืบสวนยังกระจายกำลังลงพื้นที่ใกล้เคียงเพื่อตามตัวนายสุนัยมาสอบสวนด้วย.