ฆ่าพ่อเฒ่าวัย 88 ปี ใช้ของมีคมกระหน่ำแทงใบหน้าและศรีษะ นอนจมกองเลือดหน้าทีวี เผยคนร้ายอาศัยจังหวะเมียและลูกสาวไปร่วมงานศพที่วัดในหมู่บ้าน ชิงเงินสด 6 พันบาท แหวนทอง 50 สตางค์เผ่นหนี
เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 9 ส.ค.61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดเหตุคนร้ายฆ่าพ่อเฒ่าวัย 88 ปี ขณะที่กำลังนอนหลับอยู่ในบ้านของตัวเอง โดย พ.ต.อ.วิเชียร โชคพิพัฒน์ทวี ผกก.สภ.หัวตะพาน เปิดเผยว่า เมื่อเวลาประมาณ 17.00 น.ที่ผ่านมา ร.ต.อ.เผด็จ สุรพินิจ สารวัตรสอบสวน สภ.หัวตะพาน ได้รับแจ้งมีเหตุฆาตกรรม ที่ บ้านนาคู ต.สร้างถ่อน้อย อ.หัวตะพาน จ.อำนาจเจริญ จึงประสานแพทย์เวร รพ.หัวตะพาน เข้าทำการตรวจสอบ
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นบ้านปูน สองชั้น เลขที่ 23 ม.9 บ้านนาคู ต.สร้างถ่อน้อย อ.หัวตะพาน จ.อำนาจเจริญ พบศพนายบรรจง กอแก้ว อายุ 88 ปี สภาพศพสวมเสื้อลายสก๊อต กางเกงขาสั้นสีดำ พบบาดแผลที่บริเวณใบหน้าและศรีษะหลายแผล ซึ่งคาดว่าถูกทำร้ายด้วยของมีคม นอนเสียชีวิตอยู่ที่บริเวณโถงชั้นล่างของบ้านหน้าทีวี แพทย์ตรวจสอบ คาดว่าน่าจะเสียชีวิตมานานแล้วไม่ต่ำกว่า 2 ชั่วโมง เบื้องต้นเจ้าหน้าที่เข้าทำการตรวจสอบภายในบ้านของผู้ตายพบร่องรอยการต่อสู้ เพราะมีรอยเลือดเป็นจุดๆ กระจายตามพื้น
จากการสอบถามภรรยาและลูกสาวของผู้ตาย(ไม่ทราบชื่อ) ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตายอยู่บ้านเพียงลำพังคนเดียว เนื่องจากวันนี้มีงานศพที่วัดในหมู่บ้าน ภรรยาและลูกสาวจึงไปร่วมงาน ที่บ้านจึงมีแค่เพียงผู้ตายอยู่คนเดียว หลังจากที่เสร็จงานศพเวลาประมาณ 17.00 น. ภรรยาและลูกก็เดินทางกลับมาที่บ้าน พอมาถึงก็พบผู้ตายนอนจมกองเลือดอยู่ที่หน้าเครื่องเล่นวิทยุและทีวีแล้ว ในขณะที่เครื่องเล่นวิทยุก็ยังคงเปิดทิ้งไว้อยู่ โดยที่ทางภรรยาและลูกสาวของผู้ตายยืนยันกับเจ้าหน้าที่ว่า มีทรัพย์สินหายไป 2 รายการ คือเงินสด จำนวน 6,000 บาท ที่ผู้ตายมักจะพกติดตัวไว้ตลอดเวลา และแหวนทองรูปพรรณ หนัก 50 สตางค์
...
ทั้งนี้ พ.ต.อ.วิเชียร โชคพิพัฒน์ทวี ผกก.สภ.หัวตะพาน กล่าวเพิ่มเติมว่า จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุ คาดว่าคนร้ายที่ก่อเหตุน่าจะรู้จักกับผู้ตาย และอาจจะมีการวางแผนมาก่อนล่วงหน้า เพราะอาศัยช่วงที่ภรรยาและลูกสาวของผู้ตายออกไปงานศพในการก่อเหตุ โดยคาดว่าคนร้ายจะใช้อาวุธที่พกติดตัวเพื่อมาขู่เอาทรัพย์สินและพยายามเข้าบังคับชิงทรัพย์แต่ผู้ตายเกิดต่อสู้ คนร้ายจึงได้ลงมือทำร้ายร่างกาย จนได้รับบาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิตในเวลาต่อมา ก่อนที่คนร้ายจะกวาดเอาทรัพย์สินที่อยู่ในตัวผู้ตายและหลบหนีไป
อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้เข้ามาเก็บหลักฐานในจุดที่เกิดเหตุ เพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม ในการติดตามหาตัวคนร้ายที่ก่อเหตุ มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.