พ่อน้องหญิง เผยมีหลักฐานเพียบ ทั้งคลิปเสียง และผลชันสูตร เชื่อลูกถูกฆาตกรรมอำพราง แต่ ตร.บางปะอิน กลับแจ้งเป็นคดีกักขังหน่วงเหนี่ยว ร้องกองปราบช่วยคลี่คลายคดี เอาคนผิดลงโทษ...
วันที่ 30 ก.ค. ที่กองบังคับการกองปราบปราม นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้พาพ่อ และครอบครัวของ น้องหญิง อายุ 19 ปี ที่เสียชีวิตอย่างปริศนา ตกจากรถเทรลเลอร์ ในพื้นที่ อ.บางประอิน จ.พระนครศรีอยุธยา เข้าร้องต่อ พล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด ผู้บังคับการกองปราบปราม ให้ช่วยเหลือ หลังไม่มั่นใจในการทำงานของตำรวจ สภ.บางปะอิน
นายอัจฉริยะ กล่าวว่า ในวันนี้เดินทางเข้าแจ้งความดำเนินคดีอาญากับ น.ส.สิรินาถ รอบรัมย์ หรือเป็ด, นายสุรพล ดาราคำ หรืออ๊อฟ คนขับรถเทรลเลอร์ และนายท็อป ยังไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง หลังจากพ่อของน้องหญิงได้ตรวจสอบมือถือของน้องหญิง พบคลิปเสียงและข้อความทางไลน์ที่ปรากฏขอความช่วยเหลือส่งถึงเพื่อนชื่อเจนและรุ้ง จึงเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.บางประอิน แต่ทางตำรวจกลับลงบันทึกประจำวันเป็นคดีกักขังหน่วงเหนี่ยว
พ่อของน้องหญิงกล่าวว่า จากวันที่ 19-28 ก.ค. 2561 ที่ผ่านมา ตนเองได้พยายามรวบรวมหลักฐาน จนได้ผลการชันสูตรจากนิติวิทยาศาสตร์ รพ.ธรรมศาสตร์ ระบุว่า บริเวณศีรษะด้านขวาของน้องหญิงถูกตีด้วยของแข็งหลายครั้ง และมีรอยช้ำบริเวณหัวไหล่ด้านขวา รวมถึงมีผลการสแกนสมองจากเอกชน พบว่ามีเลือดออกภายในสมองหลายแห่ง มีร้อยแตกด้านขวาที่กะโหลกศีรษะ นอกจากนี้ยังมีหลักฐานเป็นคลิปเสียงและข้อความขอความช่วยเหลือทางไลน์ พร้อมตำแหน่ง GPS ที่ตรวจได้สัญญาณมือถือ ซึ่งจากหลักฐานที่มีทำให้มั่นใจว่า น้องหญิงถูกฆาตกรรมอำพราง
แต่หลังจากเข้าแจ้งความที่ สภ.บางปะอิน ตำรวจกลับแจ้งเป็นคดีกักขังหน่วงเหนี่ยว ซึ่งตนเองมองว่าไม่ถูกต้อง และเชื่อว่าลูกถูกทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิต และเนื่องจากไม่เชื่อมั่นในการทำงานของตำรวจ สภ.บางปะอิน เพราะในขณะนี้ยังไม่มีการเรียกเข้าไปสอบปากคำเพิ่มเติมแต่อย่างใด จึงได้หอบเอาหลักฐานมาร้องต่อกองปราบปรามให้ช่วยดำเนินคดี
...
ทั้งนี้ ในวันที่ 31 ก.ค. นายอัจฉริยะ จะเดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อผู้บังคับบัญชาตำรวจภูธรภาค 1 เพื่อแจ้งละเลยในการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ สภ.บางปะอิน ตามกฎหมายมาตรา 157.