คุมตัว "เปรี้ยว-เอิร์น-แจ้" แก๊งฆ่าหั่นศพ "น้องแอ๋ม" คุมขังเรือนจำคลองไผ่ จ.นครราชสีมา ตามระเบียบกรมราชทัณฑ์ เหตุมีอัตราโทษเกินกว่า 25 ปี สูงเกินกว่าคุมตัวขังเรือนจำขอนแก่น ด้านทีมทนายความ มั่นใจศาลอุทธรณ์จะมีคำพิพากษาในทิศทางดีขึ้น ลดโทษให้กับลูกความทั้ง 5 คน

เมื่อวันที่ 5 ก.ค.61 นายบุญยงค์ แก้วฝ่ายนอก ทนายความของ น.ส.อภิวันทน์ สัตยบัณฑิต หรือแจ้ หนึ่งในผู้ต้องหาร่วม "ทีมเปรี้ยวสวยหั่นศพ" ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนว่า วันนี้(5 ก.ค.) เรือนจำกลางขอนแก่น ได้มีการส่งตัว น.ส.ปรียานุช โนนวังชัย หรือเปรี้ยว, น.ส.กวิตา ราชดา หรือ เอิร์น, น.ส.อภิวันท์ สัตยบัณฑิต หรือแจ้ ไปทำการคุมขังเรือนจำกลางคลองไผ่ จ.นครราชสีมา หลังศาลชั้นต้นของศาล จ.ขอนแก่น มีคำพิพากษาเป็นเด็ดขาดในคดีความดังกล่าว ตามที่โจทก์ คือ พนักงานอัยการ จ.ขอนแก่น และ น.ส.พิชชาภา คำเพิงใจ มารดาของ น.ส.วริศรา กลิ่นจุ้ย ได้ยื่นฟ้อง น.ส.ปรียานุช โนนวังชัย หรือเปรี้ยว จำเลยที่ 1, น.ส.กวิตา ราชดา หรือ เอิร์น จำเลยที่ 2, น.ส.จิดารัตน์ พรหมคุณ หรือเบนซ์, นายวศิน นามพรม และ น.ส.อภิวันทน์ สัตยบัณฑิต หรือแจ้ ในคดีดำเลขที่ 1957/2560-คดีแดงที่ 1039/2561 เรียบร้อยแล้ว ซึ่งผู้ต้องที่ 1-2 และ 5 มีอัตราโทษเกินกว่าการควบคุมของเรือนจำกลางขอนแก่น

"คดีความดังกล่าว ศาลชั้นต้นของ ศาล จ.ขอนแก่น ได้มีคำพิพากษา น.ส.เปรี้ยว จำเลยที่ 1 และ น.ส.เอิร์น จำเลยที่ 2 จำคุกรวม 34 ปี 6 เดือน, จำเลยที่ 3 น.ส.เบนซ์ จำคุก 1 ปี โดยไม่รอลงอาญา, จำเลยที่ 4 นายวศิน จำคุก 23 ปี 4 เดือน 20 วัน, จำเลยที่ 5 น.ส.แจ้ จำคุก 33 ปี 9 เดือน นอกจากนี้ยังคงมีคำสั่งให้ชดใช้ค่าเสียหายในคดีแพ่ง โดยมีคำสั่งให้จำเลยที่ 1-2-4 และ 5 จ่ายค่าปลงศพ 100,000 บาท ค่าอุปการะเลี้ยงดูครอบครัว รวม 1,070,000 บาท โดยให้แบ่งชำระเป็นเดือนละ 5,000 บาท รวม 17 ปี คิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี นับตั้งแต่วันที่ 23 พ.ค.2560 ดังนั้นในคดีนี้ จำเลยที่ 1-2 และ 5 มีอัตราโทษเกินกว่ากฎการคุมตัวผู้ต้องหาขังของเรือนจำกลางขอนแก่น เพราะที่เรือนจำกลางขอนแก่นนั้น กำหนดไว้ว่าสามารถคุมขังผู้ต้องหาได้เฉพาะการได้รับคำพิพากษาไม่เกิน 25 ปีเท่านั้น หากเกินกว่าให้ถูกส่งไปยังเรือนจำของกรมราชทัณฑ์ที่กำหนดไว้ โดยที่ เปรี้ยว-เอิร์น และแจ้ นั้น ถูกส่งตัวไปคุมขังที่เรือนจำกลางคลองไผ่ จ.นครราชสีมา"

...

นายบุญยงค์ กล่าวต่อว่า แม้ผู้ต้องหาจะถูกแยกตัวจากการคุมขัง แต่ทั้งหมดได้มอบอำนาจและมีการแต่งตั้งทนายความในคดีแล้ว โดยจะมีการยื่นขออุทธรณ์อีกครั้ง ซึ่งขณะนี้ได้มีการขยายระยะเวลาของการยื่นอุทธรณ์ออกไปอีก 1 เดือน เนื่องจากที่ผ่านมายังคงเป็นช่วงของการคัดสำเนาคำพิพากษา การเก็บรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ เพิ่มเติม รวมทั้งการประชุมร่วมทีมทนายความในคดีดังกล่าว จนในขณะนี้การเตรียมการในด้านต่างๆ แล้วเสร็จ และมีการเข้าพบกับลูกความแล้ว ก่อนถูกส่งตัวไปทำการคุมขังที่เรือนจำกลางคลองไผ่ โดยทีมทนายความทุกคนมั่นใจว่าคดีความดังกล่าวนี้ ศาลอุทธรณ์จะมีคำพิพากษาในทิศทางที่ดีขึ้น และลดโทษให้กับลูกความทั้ง 5 คน